บทที่ 23 สวนคืนกลับไป
ในเวลาเดียวกัน เสี้ยห้าวกลับกำลังถือโทรศัพท์ไว้ แล้วเดินไปเดินมาในห้องทำงาน จิตใจกำลังว้าวุ่นอย่างบอกไม่ถูก
เวลาผ่านไปทั้งบ่ายแล้ว คาดว่ากู้ตงเชินก็น่าจะจัดการเสร็จเรื่องแล้ว เสี้ยห้าวคิดอยู่ในใจ
ที่ทำเรื่องนี้ เขาก็แบกรับความเสี่ยงไว้มากมายเหมือนกัน ถ้าหากว่าเสี้ยหยุนเสิ้งรู้เรื่องเข้าว่า เขาช่วยเหลือคนนอกให้มาต่อกรกับคนในครอบครัวนั้น เขาก็คงต้องโดนเสี้ยหยุนเสิ้งลงโทษอย่างหนักแน่ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเสี้ยก็ไม่มีประโยชน์
แต่ว่าถ้าหากเรื่องนี้สำเร็จ ผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับก็มากมายเช่นกัน ขอแค่กู้ตงเชินจัดการเสี้ยเมิ่งเหยาได้สำเร็จ เปลี่ยนข้าวสารให้เป็นข้าวสุกได้ แล้วมีคลิปวิดีโอมาอยู่ในมือเขา เขาก็จะสามารถทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาอยู่ในกำมือของเขาได้ตามต้องการ
และรวมกับกู้ตงเชินที่เป็นที่พึ่งให้เขาแล้ว เขาอยู่ในตระกูลเสี้ย ก็จะสามารถเดินกร่างได้แล้ว!
พอคิดถึงตรงนี้ เสี้ยห้าวก็อดที่จะดีใจขึ้นมาไม่ได้ อดใจรอไม่ไหวจนต้องต่อสายโทรหากู้ตงเชินขึ้นมา
เวลานี้ที่โรงพยาบาล กู้ตงเชินเพิ่งผ่าตัดเสร็จ มือที่โดนอาเหาฟันขาดนั้น ถึงแม้ว่าจะพยายามต่อกลับไปได้ แต่ว่าหลังจากนี้จะฟื้นฟูกลับมาให้เป็นปกตินั้น คงจะไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
เพราะฉะนั้นตอนนี้กู้ตงเชินเสียดายจนลำไส้ยังเขียวแล้ว เขาไม่ควรไปเชื่อคำเป่าหูของเจ้าโง่เสี้ยห้าว จนหาเรื่องมาใส่ตัวแบบนี้
จะพูดถึงคนที่เขาเกลียดที่สุดในเวลานี้ คงไม่ใช่เฉินเฟิงแน่ ๆ แต่เป็นเสี้ยห้าว!
และในเวลานี้ สายของเสี้ยห้าวก็โทรเข้ามาพอดี
“ท่านเชิน เป็นยังไงบ้าง มีความสุขจนขึ้นสวรรค์ไปเลยใช่ไหม?”
เสี้ยห้าวยิ้มแหะ ๆ แล้วพูดมา ท่วงท่าของเสี้ยเมิ่งเหยานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้จะเป็นดาราสาวสวยแค่ไหนก็เทียบไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดแล้วละก็ เขาก็อยากจะลองมีความสุขดูสักครั้ง
พอได้ยินแบบนี้ ดวงตาของกู้ตงเชินเกือบจะพ่นไฟออกมาแล้ว
มีความสุขเหรอ? ข้าจะไปมีความสุขกับผีนะซิ!
ถ้าหากได้มีอะไรกับเสี้ยเมิ่งเหยาสักหน่อยก็ช่างเถอะ แต่ที่สำคัญคือ เขาแตะยังไม่ได้แตะเสี้ยเมิ่งเหยาสักนิด ก็โดนฟันมือขาดแล้ว นี่จะให้เขาไปทวงความยุติธรรมได้จากที่ไหน
แต่ว่าตอนนี้ใจที่กู้ตงเชินอยากจะสับเสี้ยห้าวก็มีขึ้นมาแล้ว แต่ว่าเขายังไม่ลืมฝ่ามือนั้นของเฉินเฟิงก่อนที่เขาจะจากไป โต๊ะหินอ่อนหนาสามนิ้วยังโดนเฉินเฟิงตบแค่เบา ๆ ก็แตกจนเป็นเสี่ยง ๆ นี่มันเกินมนุษย์มนาแล้วจริง ๆ
ฝ่ามือนั้นถ้าตบอยู่บนตัวคน สงสัยกระดูกคงจะแตกหักจนหมดแน่!
แน่นอนกู้ตงเชินต้องไม่อยากเอาตัวเองไปทดลองแน่ ๆ เรื่องของเฉินเฟิง ตีให้ตายเขาก็ไม่กล้าพูดออกไปหรอก
“มีความสุขอะไร ข้าแค่กำลังจะทำอะไรเธอ ตำรวจก็มาถึงแล้ว” กู้ตงเชินแสร้งทำเป็นพูดอย่างหดหู่
“ตำรวจเหรอ? ! พวกเขามาได้ยังไง?” เสี้ยห้าวจ้องตาเขม็ง ทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้
“เฮ้อ ใครจะไปรู้ล่ะ บางทีวันนี้พวกเขาอาจจะบังเอิญมาตรวจตราพอดีมั้ง”
“ท่านเชิน แล้วยังไงต่อ? คุณคงไม่ได้ปล่อยให้ยัยเด็กขายตัวนั่นหนีไปแล้วใช่ไหม?” เสี้ยห้าวพูดขึ้นอย่างตกใจ ถ้าหากไม่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ เขาจะเอาอะไรไปข่มขู่เสี้ยเมิ่งเหยาล่ะ และที่สำคัญเสี้ยเมิ่งเหยาก็จะต้องนำเรื่องนี้ไปฟ้องเสี้ยหยุนเสิ้งแน่ เสี้ยหยุนเสิ้งจะต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ ๆ !
“พูดไร้สาระ ถ้าข้าไม่ปล่อยเธอไป หรือว่าจะให้ชวนเธออยู่กินข้าวต่ออีกเหรอ!” กู้ตงเชินพร่ำบ่น “สำหรับนาย ควรทำยังไงก็ทำอย่างนั้นไปละกัน ข้าก็ไม่ยุ่งแล้ว”
อยู่ ๆ นัยน์ตาของเสี้ยห้าวก็สว่างวาบขึ้นมา เขาตบมืออย่างแรงขึ้นมา ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงจุดนี้นะ?
เสี้ยเมิ่งเหยาสามารถไปฟ้องเสี้ยหยุนเสิ้งว่าเธอโดนตัวเขาหลอกให้ไปทางโน้น
แต่ตัวเขาก็สามารถฟ้องเสี้ยหยุนเสิ้งได้ว่า เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นฝ่ายวิ่งไปหากู้ตงเชินเอง แล้วมาใส่ร้ายตัวเขา!
ในเมื่อเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ใช่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน เมื่อหลายวันก่อน เธอยังเพิ่งจะไปนอนกับหลินจงเหว่ยมาแล้วเลย
เสี้ยห้าวอยู่ ๆ ก็มีความสุขขึ้นมาทันที
“พี่ ฉันนึกว่าเรื่องนี้มีแค่ฉันรู้อยู่คนเดียวซะอีก เฮ้อ คิดไม่ถึงว่าพี่ก็รู้เรื่องนี้ด้วย” เสี้ยห้าวถอนหายใจทีหนึ่ง แสร้งทำเป็นน้ำเสียงหนักหน่วง
“หรือว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ? !” เสี้ยจื่อหลันตกใจจนตาค้าง
เสี้ยห้าวพยักหน้าแรง ๆ แล้วพูดขึ้น “ช่วงบ่ายวันนี้ผมเพิ่งคุยธุรกิจกับกู้ตงเชินเสร็จ ตอนที่เตรียมตัวจะออกมา ก็เห็นเสี้ยเมิ่งเหยาเข้า ตอนนั้นเธอดูเหมือนจะลนลานอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเธอคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะอยู่ตรงนั้นด้วย หลังจากที่ฉันออกมาจากห้องส่วนตัวของกู้ตงเชินแล้ว ฉันก็เห็นเธอดูมีลับลมคมในแล้วเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของกู้ตงเชิน หลังจากนั้น ตลอดทั้งบ่ายก็ไม่ออกมาเลย……”
“ เชี่ย! ยัยเด็กขายตัวนี่! แม้แต่หน้าสักนิดก็ไม่เอาแล้วจริง ๆ !” เสี้ยจื่อหลันด่าเสียงแหลม
“ใช่แล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาหวังจะได้เลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นไป ในสายตาคงไม่มีคำว่าคุณธรรมกับความอับอายอยู่อีกแล้ว เธอก็ไม่คิดสักหน่อยว่า คนอย่างกู้ตงเชินนั้นจะเป็นคนที่เธอเอาอยู่หมัดได้เหรอ”
“ไม่ได้แล้ว เรื่องนี้จะต้องบอกให้คุณปู่รู้ ให้คุณปู่ไล่ยัยเด็กขายตัวเหม็น ๆ นี่ออกจากตระกูลเสี้ยไปเลย! หน้าตาของตระกูลเสี้ย จะโดนยัยเด็กขายตัวเหม็น ๆ นี่ทำให้ป่นปี้ไปหมดแล้ว ลำพังนอนกับหลินจงเหว่ยแล้วไม่ว่า ตอนนี้คนแบบกู้ตงเชินเธอก็ยังถูกตาต้องใจอีก ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป จะไม่กลายเป็นว่าผู้ชายคนไหนก็นอนกับเธอได้หมดเหรอ” เสี้ยจื่อหลันพูดไปด่าไป เธอไปได้คิดด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เสี้ยห้าวพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จากที่เธอดูแล้วเสี้ยห้าวไม่กล้าปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ออกมาหรอก ในเมื่อตระกูลเสี้ยเป็นวงศ์ตระกูลที่มีชื่อเสียง ถ้าหากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ก็ต้องทำให้ตระกูลเสี้ยทั้งหมดเสียชื่อไปด้วย และที่สำคัญคนอย่างเสี้ยหยุนเสิ้งนั้น ก็ยิ่งเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลอยู่ด้วย ถ้าเสี้ยห้าวกล้าสร้างข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วละก็ ก็คงไม่มีใครที่จะคุ้มครองเขาได้หรอก
มุมปากของเสี้ยห้าวมีรอยยิ้มได้ใจโผล่ขึ้นมา เมื่อมีเสี้ยจื่อหลันช่วยเขาพูด เรื่องนี้ก็พูดได้ว่ามีโอกาสสำเร็จไปเก้าส่วนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...