บทที่ 373 นายกล้าเอาไหม
“เกินไป? ฉันเกินไปตรงไหน? ฉันไม่ได้เหลือให้ไอ้ขยะนี่หนึ่งแสนหรือไง?” เพิ้งเย้นฟางเบ้ปาก พูดสีหน้าไม่ยี่หระ
จากนั้นเธอเบนสายตามาที่เฉินเฟิง: “เฉินเฟิง ค่าคอมแปดแสนนั่น การเงินโอนเข้าบัญชีนายหรือยัง?”
“โอนเข้ามาแล้วครับ...”
เฉินเฟิงยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเพิ้งเย้นฟางตัดบทอย่างไม่ไว้หน้าว่า: “ในเมื่อโอนเข้าบัญชีนายไปแล้ว นายก็เอาออกมาสิ ทุกคนอยู่ที่นี่พอดี นายก็โอนเจ็ดแสนให้สื้อผิงต่อหน้าทุกคนนี่เลย”
เพิ้งเย้นฟางจิกเฉินเฟิงไม่หยุด เธอจะต้องให้เฉินเฟิงคายเจ็ดแสนออกมาให้ได้ ถ้าวันนี้เธอทำไม่ได้ พอเฉินเฟิงออกประตูนี้ไป ลาออกไปจากจงไห่เลย ยิ่งยากละงานนี้
“ขอโทษครับ เงินแปดแสน ผมใช้หมดแล้ว” เฉินเฟิงยิ้มบางพลางว่า
ใช้หมดแล้ว?!
ทุกคนตะลึง ตอนเช้าพึ่งโอนมาให้ ตอนบ่ายใช้หมดแล้ว? ผีหลอกหรือไง?
“เฉินเฟิง นายเห็นว่าพวกเราโง่หรือไงหา?!” เพิ้งเย้นฟางปรี๊ดแตกทันที: “พึ่งโอนมาตอนเช้า ตกดึกนายใช้หมดแล้ว?”
“แปดแสนนะ ไม่ใช่แปดสิบ!”
“นายไม่อยากแบ่งให้สื้อผิงก็พูดมาตรงๆ เอาเหตุผลไร้สาระแบบนี้มาหลอกทุกคนมันสนุกหรือไง?” เพิ้งเย้นฟางใกล้จะระเบิดแล้ว เธอไม่คิดเลยว่า เฉินเฟิงจะกล้าใช้เหตุผลไร้สาระแบบนี้มาตอบเธอ
เฉินเฟิงส่ายหน้ายิ้มๆ: “คุณน้าเพิ้ง ผมว่าผมจำเป็นต้องบอกคุณน้าสักเรื่องว่า ค่าคอมน่ะโอนมาตอนเช้าจริง แต่เงินแปดแสนไม่ใช่ของผมคนเดียว”
“ตอนนั้นคนที่ออกไปโรงพยาบาลตุงถิงด้วยกันกับผมคือหลี่เล่อ ดังนั้นผมแบ่งให้หลี่เล่อสองแสน”
“แล้วอีกหกแสนล่ะ?!” เพิ้งเย้นฟางเบิกตาโพลงใส่เฉินเฟิง
“ที่เหลือหกแสน ผมให้หลี่เล่อไปซื้อรถครับ” เฉินเฟิงบอกเสียงเรียบ
ทุกคนเงียบกริบอีกครั้ง
เพิ้งเย้นฟางกรี๊ดร้อง: “เฉินเฟิง ฉันว่านายจงใจไม่แบ่งเงินให้สื้อผิงมากกว่าใช่ไหม?”
“นายพึ่งมาจงไห่ ที่จะนอนยังไม่มี จะเอาเงินหกแสนไปซื้อรถหมดได้ไง?”
“คุณน้าเพิ้งไม่เชื่อ ผมก็ช่วยไม่ได้” เฉินเฟิงยักไหล่หน้าตาเหนื่อยใจ เขาพูดความจริงก็พอแล้ว เพิ้งเย้นฟางจะเชื่อไม่เชื่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
พอเห็นเฉินเฟิงทำหน้าไม่ยี่หระ เพิ้งเย้นฟางปรี๊ดแตก เธอกรี๊ดสนั่นขึ้นมา: “ฉันไม่สน! ฉันไม่สนว่านาจะใช้เงินแปดแสนนั่นหรือยัง ยังไงซะนายติดเงินสื้อผิงเจ็ดแสนอยู่ ห้ามขาดแม้แต่แดงเดียว!”
“วันนี้นายต้องจ่ายเงินเจ็ดแสนมา ไม่งั้นอย่าคิดจะออกไปจากบ้านฉัน!”
“เพิ้งเย้นฟาง อย่ามาทำหน้าไม่อายนะ!” หวางหงอี้ตบโต๊ะเสียงดัง เขาถลึงตาใส่เพิ้งเย้นฟางด้วยความโกรธ เขาไม่คิดเลยว่า เพิ้งเย้นฟางจะพูดแม้แต่คำว่าห้ามออกไปจากบ้านหวางออกมาได้ พฤติกรรมแบบนี้มันต่างอะไรกับการปล้น?
“คุณอาหวางอย่าโมโหไปเลยครับ” เฉินเฟิงขมวดคิ้วพลางปลอบหวางหงอี้ เดิมเขาไม่อยากถือสาคนแบบเพิ้งเย้นฟาง แต่เธอยิ่งได้ใจขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบบนี้ต่อไป เพิ้งเย้นฟางคงขึ้นมาเหยียบหัวเขาแน่
“ออเดอร์ของเจ้าขยะนี่ไม่ใช่เธอช่วยมันดิลมาหรือไง?”
“เปล่าครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย” หลี่สื้อผิงกัดฟันบอก เรื่องมาถึงขั้นนี้ เขาได้แต่ยอมรับความจริง และตีหน้าเพิ้งเย้นฟางแตกแล้วล่ะ
ถ้าเขาไม่ยอมรับ เฉินเฟิงพูดความจริงออกมาทั้งหมด จากนั้นหวางหงอี้แค่หาคนไปถามที่บริษัท ก็จะรู้เรื่องได้ทั้งหมด ตอนนั้นหน้าเขาคงบวมฉุแน่
“ไม่เกี่ยวอะไรกับนายเลย?!” เพิ้งเย้นฟางปรี๊ดแตกทันที “ไหนนายพึ่งบอกว่านายช่วยไอ้ขยะนี่ดิลออเดอร์มาได้ไง? ทำไมตอนนี้บอกไม่ใช่อีก?”
“คุณป้า ผมเหมือนจะ...ไม่เคยพูดแบบนั้นนะครับ” หลี่สื้อผิงยิ้มปฏิเสธ เขาไม่เคยยอมรับออกมาจริงๆ เขาแค่ทำเนียนตอนเพิ้งเย้นฟางพูดออกมาเท่านั้น
เฉินเฟิงซะอีก กลับยอมรับออกมาหน้าตาเฉย แต่ตอนนี้ดูแล้วเฉินเฟิงคงเห็นเพิ้งเย้นฟางเป็นคนโง่ซะมากกว่า
“นาย...” เพิ้งเย้นฟางโกรธแทบกระอักเลือด? เธอไม่คิดเลยว่าเธอพยายามช่วยสื้อผิง แต่สุดท้ายสื้อผิงกลับหักหลังเธอ!
“สื้อผิง บอกป้ามาตามความจริงนะ เจ้าขยะนี่ข่มขู่นายใช่ไหม? ไม่ยอมให้เธอพูดความจริงใช่ไหม?” เพิ้งเย้นฟางยังไม่พอใจ เธอรับไม่ได้ที่หลี่สื้อผิงหักหลังเธอ
หลี่สื้อผิงอยากร้องไห้เต็มแก่ นี่เพิ้งเย้นฟางน้ำเข้าสมองหรือไง? คำพูดแบบนี้เธอยังกล้าพูดออกมาอีก ต่อให้เฉินเฟิงข่มขู่เขาจริง เขาจะกล้าพูดหรอ?
“เปล่าครับ คุณป้า เฉินเฟิงเขาไม่ได้ข่มขู่ผม ออเดอร์โรงพยาบาลตุงถิงเขาเป็นคนคุยมาได้เองคนเดียว ผมไม่ได้ช่วยอะไรเลย” หลี่สื้อผิงพูดด้วยสีหน้าแทบร้องไห้ เขาได้แต่ทนจนถึงที่สุดละกัน
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะเอาเงินเฉินเฟิงนี่เลิกคุยเลย หลี่สื้อผิงไม่ยอมรับ ใครก็ไม่มีประโยชน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...