บทที่ 522 ยอมแพ้
จายเถิงจวั่นจู้สบถออกมาหนึ่งคำ เขากุมบาดแผลถอยหลังไปสองก้าว
ด้านล่างเวที จอมยุทธ์ญี่ปุ่นมากมายสีหน้าเปลี่ยนไปตามๆกัน
“จวั่นจู้!” มีคนร้องขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
จายเถิงจวั่นจู้โบกมือขึ้น ยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก: “ผมไม่เป็นไร”
ถึงปากจะบอกไม่เป็นไร แต่คนมีตาก็ดูออกว่า สีหน้าจายเถิงจวั่นจู้ดูซีดขาวกว่าก่อนนี้มากนัก แม้แต่มือที่ถือมีดสั้นยังสั่นเล็กน้อย
สิ้นหน้าไม้! (เปรียบเปรยว่าแรงเฮือกสุดท้าย)
นี่เป็นความคิดของที่เหมือนกันของคนส่วนใหญ่!
รวมถึงตัวจางเทียนเซอบนเวทีด้วย
“ฉันยังนึกว่านายจะเก่งกว่านี้ซะอีก ที่แท้ก็แค่นี้เอง!” จางเทียนเซอยิ้มหยัน เดิมคิดว่าการประลองกับจายเถิงจวั่นจู้วันนี้จะเป็นการประลองชั้นเยี่ยม แต่ไม่คิดว่า ฝีมือจายเถิงจวั่นจู้ที่แสดงออกมาวันนี้จะแย่แบบนี้
คนแบบนี้ไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย!
“หาเรื่องตาย!” จายเถิงจวั่นจู้หน้าแดงก่ำ เหมือนโมโหกับคำพูดของจางเทียนเซอ
วินาทีต่อมาเขาถีบพื้นอย่างแรง พุ่งขึ้นฟ้าทั้งตัว มีดสั้นสองเล่มในมือตวัดพารังสีเย็นเฉียบแทงไปที่จางเทียนเซอ
จางเทียนเซอทำหน้าไม่ยี่หระ ถ้าเป็นเขาก่อนหน้านี้เจอท่าทางเอาจริงแบบนี้ของจายเถิงจวั่นจู้ ต้องหลบแน่
แต่ตอนนี้จายเถิงจวั่นจู้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงแรงเฮือกสุดท้าย ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องหลบเลย
หลังแสยะยิ้ม จางเทียนเซอถือกระบี่มั่นรอตั้งรับจายเถิงจวั่นจู้
“จางเทียนเซอจะแพ้ละ....” ตอนนี้เองเฉินเฟิงจู่ๆก็พูดขึ้น
พอได้ยินเฉินเฟิงพูดแบบนี้ ทุกคนมองเขาอย่างไม่เข้าใจกันทั้งนั้น
เฉินเฟิงพูดอะไรนะ?
จางเทียนเซอแววชนะเห็นๆเลยไหม? จายเถิงจวั่นจู้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายแล้วเนี่ย การโจมตีของเขาครั้งนี้ก็แค่ความพยายามครั้งสุดท้ายเท่านั้นเอง ทำไมเฉินเฟิงถึงพูดว่าจางเทียนเซอจะแพ้ล่ะ?
ถ้าจะแพ้ก็ต้องเป็นจายเถิงจวั่นจู้สิ
ทุกคนต่างไม่เข้าใจ มีแต่หวังเฉียนและฉู่ยี่เฟยเท่านั้นที่มองเฉินเฟิงอย่างแปลกใจ
ที่หวังเฉียนแปลกใจ เพราะเขาเองก็มองออกถึงความไม่ชอบมาพากลของจายเถิงจวั่นจู้เหมือนกัน
ส่วนที่ฉู่ยี่เฟยแปลกใจ เพราะเขาเชื่อมั่นในฝีมือของเฉินเฟิง เขารู้สึกว่าเฉินเฟิงไม่ได้คาดเดามั่วๆแน่
“เฉินเฟิง ทำไมนายถึงว่าจางเทียนเซอจะแพ้ล่ะ? เขาไม่ใช่...” หวู่เหวินเชี่ยนถามอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ
เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นบนเวที!
จายเถิงจวั่นจู้ที่โซซัดโซเซอยู่ ณวินาทีที่ลงจากฟ้า พลังในร่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด!
เหมือนกับกระบี่ชั้นเยี่ยมพุ่งออกจากฝักยังไงยังงั้น! ความคมปลาบที่แสดงออกมาคมจนคนไม่กล้ามอง!
“ตายซะเถอะ!”
รอยยิ้มของจายเถิงจวั่นจู้ส่อแววเจ้าเล่ห์ ในจังหวะที่เข้าใกล้จางเทียนเซอ เขาปล่อยพลังทั้งหมดในตัวไปไว้ในมีดสั้นทั้งสองเล่ม
พริบตานั้น ความคมของมีดสั้นทั้งสองเล่มเปล่งประกายแสงสีเขียว!
ปล่อยพลังออก!
จางเทียนเซอกระตุกวูบ เขาตกใจมาก รังสีความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดแล้วว่า ทำไมจายเถิงจวั่นจู้ถึงเปล่งรังสีอำมหิตออกมาดื้อๆ
ตอนนี้เขาคิดได้อย่างเดียว ก็คือ รักษาชีวิต!
จางเทียนเซอรวบรวมพลังในตัวอย่างบ้าคลั่ง และยกกระบี่ยาวกั้นกลางหน้าอก หมายใจจะสกัดกั้นรังสีอำมหิตของจายเถิงจวั่นจู้
“แกร๊ง”
มีดสั้นกระทบเข้าที่กระบี่
ประหนึ่งลูกบอลไฟกระทบเข้ากับหิมะเย็น ไม่ถึงครึ่งวินาที กระบี่ยาวที่สร้างโดยหินอุกกาบาตรนอกโลกในมือของจางเทียนเซอละลายฉับพลัน!
และแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
วินาทีต่อมา มีดสั้นแทงเข้าที่หน้าอกของจางเทียนเซอ
เพื่อให้จางเทียนเซอผ่อนคลายและดูถูกเขา คิดว่าเขาก็แค่นี้
จากนั้นจะได้ใช้ไม้ตายในช่วงสุดท้ายเอาชนะไป
ปล่อยพลังในร่างออกมา
เป็นลักษณะเฉพาะของจอมยุทธ์ที่ใกล้สำเร็จหั้วจิ้ง!
ถึงจะไม่รู้ว่าจายเถิงจวั่นจู้ใช้วิชาลับอะไรปล่อยมันออกมา แต่ถ้าบนตัวจางเทียนเซอไม่ได้ใส่เกราะอ่อนเอาไว้ เขาในตอนนี้ต้องกลายเป็นศพแน่นอน เผลอๆแม้แต่โอกาสจะร้องยอมแพ้ยังไม่มี!
ต้องยอมรับจริงๆว่า จายเถิงจวั่นจู้เจ้าเล่ห์มากจริงๆ ชั่วร้ายเต็มๆเลย!
สำหรับคำด่าว่าไร้ศีลธรรมรัวๆของหวู่เหวินเชี่ยน เฉินเฟิงพูดได้แค่คำเดียวว่าไร้เดียงสา
นี่เป็นเวทีประลองความเป็นความตาย ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ถึงจายเถิงจวั่นจู้จะเจ้าเล่ห์ แต่ความเจ้าเล่ห์ของเขาเกือบฆ่าจางเทียนเซอแล้ว
ต่อหน้าความเป็นความตาย ไม่มีคำว่าศีลธรรมหรอก
บนเวทีทั้งคู่ไม่ได้ประมือกันต่อ ต่างพากันหอบหายใจและจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
จายเถิงจวั่นจู้เจ็บใจมาก ตั้งแต่เมื่อวานที่เขารู้ว่าจะต้องประลองกับจางเทียนเซอวันนี้ เขาก็วางแผนมาตลอด สุดท้ายเขาถึงคิดวิธีนี้ออกมาได้ แกล้งอ่อนแอก่อนแล้วค่อยระเบิดตอนหลัง
เดิมคิดว่าแผนการนี้คงสำเร็จแน่ๆ ต้องทำให้สมาคมจงไห่ต้องสูญเสียขุนศึกสำคัญไปได้คนหนึ่งแน่
แต่ไม่คิดว่า บนตัวจางเทียนเซอกลับใส่เกราะอ่อนที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องช่วยชีวิตดีเยี่ยมไว้
“เจ้าเล่ห์ชั่วร้าย! ตายซะเถอะ!”
ผ่านไปสักครู่ ในที่สุดจางเทียนเซอก็สงบพลังในร่างลงได้ เขาสะบัดกระบี่อีกครั้ง
ไม่ว่ายังไง วันนี้เขาต้องฆ่าจายเถิงจวั่นจู้ให้ได้!
“ฉันยอมแพ้!”
เห็นจางเทียนเซอสะบัดกระบี่เข้าใส่ จายเถิงจวั่นจู้สีหน้าเปลี่ยน ร้องออกมาเลย
เขาในตอนนี้บาดเจ็บหนักกว่าจางเทียนเซอซะอีก สู้ต่อไปเขาต้องแพ้แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...