บทที่ 549 ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษยันเจียง
หลังจากฝึกซ้อมมาตลอดทั้งวัน เฉินเฟิงถอนหายใจยาวๆ
เขาลงจากเตียง หลังจากอาบน้ำแปรงฟันแล้วนั้น เฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมา
เดิมทีเขาอยากโทรหาสือโพ่จุน ถามเรื่องของหลินหวั่นชีวว่าเป็นยังไงบ้าง แต่กดเบอร์ไปได้ครึ่งหนึ่ง เฉินเฟิงกลับล้มเลิกความคิดนี้
ทางด้านสือโพ่จุนน่าจะไม่มีอะไรคืบหน้า ถ้ามีอะไรคืบหน้า เขาจะต้องบอกตน
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเฟิงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาเสี้ยเมิ่งเหยา ถามเสี้ยเมิ่งเหยาว่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง
ในเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปม ใครกันมาหาตนในเวลานี้? คนที่รู้ว่าตนอยู่นี่มีไม่มาก
เดินไปถึงที่ประตู หลังจากเปิดประตู
ผู้ชายสวมชุดทหารสามคนยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเฟิง
ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงกลางกระตุกยิ้มมุมปาก ด้านหลังของชายวัยกลางคน มีทหารใบหน้าเคร่งขรึมอายุราวสามสิบกว่าๆยืนเอาไว้
"สวัสดีครับคุณเฉิน" ชายวัยกลางคนคลายยิ้มแล้วยื่นมือออกมา
"สวัสดีครับ" เฉินเฟิงยื่นมือออกไปจับมือของชายวัยกลางคนด้วยความแปลกใจเล็กน้อย สามคนตรงหน้าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารอย่างชัดเจน อีกทั้งดูจากดาวบนบ่าของชายวัยกลางคน ยศของทหารทั้งสามคนไม่น้อยเลย
เพียงแต่ ทำไมทหารถึงมาหาตน?
"ขอแนะนำตนเองก่อนนะครับ ผมชื่อหวังเฟิง หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษยันเจียง" อย่างรวดเร็ว ชายวัยกลางคนบอกว่าตนเป็นใครมาจากไหน
ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ?
เฉินเฟิงตกใจเล็กน้อย เป็นองค์กรนี้
หวังเฟิงสังเกตสีหน้าของเฉินเฟิงมาโดยตลอด หลังจากที่เห็นแววตาตกใจของเฉินเฟิงที่ฉายออกมานั้น หวังเฟิงอดไม่ได้ที่จะพูด:“เหมือนว่าคุณเฉินจะรู้จักฝ่ายปฏิบัติการพิเศษของพวกผม?”
"พอรู้บ้างครับ" เฉินเฟิงพยักหน้า
ชื่อของฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ เขาเคยได้ยินมาก่อน นี่เป็นแผนกที่ทหารและวงการศิลปะการต่อสู้จัดขึ้นร่วมกัน
ได้ยินว่าแผนกนี้สร้างขึ้นมานานกว่าสามสิบกว่าปีแล้ว จุดประสงค์แรกเริ่มของแผนกนี้เพื่อทดสอบการผสมผสานระหว่างศิลปะการต่อสู้กับเทคโนโลยี
เหตุเพราะหลายปีที่ผ่านมานี้ การพัฒนาศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยและเทคโนโลยี มาถึงช่วงคอขวดแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนจึงมีคนเสนอขึ้นมา ให้นำศิลปะการต่อสู้แบบโบราณและเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันมาผสมผสานกัน เพื่อทำลายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์
แรกเริ่มเดิมที ความคิดนี้ได้รับความเห็นชอบจากคนส่วนมา
แต่ตอนที่ทำการพัฒนา ความคิดนี้กลับเจอปัญหาใหญ่
ซึ่งก็คือพลังของจอมยุทธ์แข็งแกร่งมาก เทคโนโลยีส่วนมากในยุคปัจจุบันที่สร้างออกมานั้น ไม่สามารถรองรับพลังของจอมยุทธ์ได้
ในช่วงระหว่างหมิงจิ้งและอ้านจิ้ง เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันยังพอจะสามารถรองรับพลังของจอมยุทธ์ได้ เทคโนโลยีสมัยใหม่บางอย่างยังถึงขั้นสามารถทำให้จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับหมิงจิ้งและอ้านจิ้งมีพลังที่แข็งแกร่งเต็มที่
แต่เมื่อมาถึงระดับหั้วจิ้ง ความแข็งแกร่งนี้น้อยลงไปมาก
ถึงขั้นที่ว่าพลังของจอมยุทธ์ระดับหั้วจิ้งบางคน เหนือกว่าความสามารถของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
ตั้งแต่โบราณ ในตอนหลังความคิดนี้ไม่ได้ดำเนินต่อไป แต่กลายเป็นไม่จบไม่สิ้นสักที
แต่แผนกที่มีเอาไว้เพื่อให้ความคิดนี้เป็นจริง กลับยังมีอยู่ กลายเป็นฝ่ายปฏิบัติการพิเศษอย่างเช่นทุกวันนี้
ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษในทุกวันนี้ แน่นอนว่ามีจอมยุทธ์เป็นตัวหลัก
มีทหารคอยหนุนหลัง คนบางคนที่คิดอยากจะทำอะไรเขา ก็ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว
"เสี่ยวส้ง" หวังเฟิงมองไปด้านหลัง
ตามด้วย ชายร่างท้วมเดินมาตรงหน้าเฉินเฟิง แล้วยื่นชุดทหารที่ถูกระเบียบให้เฉินเฟิงอย่างนอบน้อม
หลังจากทำความเคารพแบบทหารแล้ว เสี่ยวส้งรับกล่องใบหนึ่งมาจากมือผู้ชายอีกคนหนึ่ง แล้วยื่นไปตรงหน้าเฉินเฟิง
"คุณเฉินครับ นี่คือชุดทหารของคุณครับ ทั้งยังมีเหรียญและเอกสารรับรองด้วยครับ" หวังเฟิงยิ้ม "คราวหน้าตอนที่คุณมาภูเขาซี แค่แสดงเอกสารรับรองนี้ เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าตรงประตูก็จะให้คุณเข้า"
"ลำบากพี่ใหญ่หวังแล้ว" เฉินเฟิงพูดด้วยความเกรงใจ ถ้าเขาเข้ารับตำแหน่งในฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ หลังจากนี้ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าก็จะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา
"ไม่มีอะไรลำบากหรอก" หวังเฟิงยิ้มแล้วส่ายหน้า
"ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมกับพวกเสี่ยวส้งขอตัวก่อน"
"ครับ ผมไปส่งพวกคุณ"
หวังเฟิงมาเร็ว และกลับอย่างรวดเร็ว
เวลาไม่ถึงสามนาที หน้าวิลล่าก็ไม่มีแม้แต่เงาของพวกเขาแล้ว แต่ทว่าในมือของเฉินเฟิงกลับมีชุดทหารสีเขียวกากีและเหรียญ รวมถึงเอกสารรับรอง
เฉินเฟิงมองดูเนื้อความในเอกสารรับรอง เขาตกใจเล็กน้อย อาจารย์กองกำลังพิเศษมังกรได้เป็นยศพลตรี ซึ่งก็กล่าวได้ว่า ตำแหน่งของเขาในตอนนี้คือพลตรี
ตำแหน่งนี้สูงมาก เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เพิ่งจะอายุยี่สิบห้า
เวลานี้ เฉินเฟิงมั่นใจมากขึ้น ก่วนหนานเทียนอยากจะช่วยตน
เขาอยากให้ตนมียศทหาร มียศทหาร ตระกูลเฉินก็จะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามเหมือนก่อนหน้านี้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...