ลูกเขยมังกร นิยาย บท 631

บทที่ 631 ยอดฝีมือลึกลับ

"ไอ้ลูกเมียน้อยมันทำมากเกินไปแล้ว ไม่ว่ายังไง อิงไฉก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของมัน แต่มันกลับให้แอนนี่ทำกับอิงไฉแบบนี้" ผ่านไปครู่หนึ่ง ยังคงเป็นเฉินเจี้ยนกั๋วที่ทำลายความเงียบ น้ำเสียงของเขาเกรี้ยวกราดกัดฟันพูดออกมา จากที่เขาดูนั้น เฉินอิงไฉถูกไล่ออก เป็นเพราะเฉินเฟิงแอบทำลับหลัง

"พ่อครับ ไอ้ลูกเมียน้อยนั่นมันไปรู้จักแอนนี่ได้ยังไง?!” เวลานี้ เฉินอิงไฉพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เขาในตอนนี้ก็เกลียดเฉินเฟิงมาก แต่เมื่อเทียบกับความเกลียดแค้นที่มีต่อเฉินเฟิง เขาอยากรู้มากกว่า ไอ้ลูกเมียน้อยที่ไม่สามารถออกหน้าออกตาอย่างเฉินเฟิง เกี่ยวข้องกับองค์หญิงแห่งราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ได้ยังไง

"เมื่อแปดปีก่อนไอ้ลูกเมียน้อยเคยไปประเทศอังกฤษ" เฉินโป๋ยุงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

"เมื่อแปดปีที่แล้วมันเคยไปประเทศอังกฤษ?!ทำไมพวกเราถึงไม่รู้?!”

ได้ฟังคำพูดของเฉินโป๋ยุง เฉินเจี้ยนกั๋วและเฉินอิงไฉต่างตกตะลึง

"ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ เมื่อแปดปีก่อนไอ้ลูกเมียน้อยนั่นเคยช่วยชีวิตแอนนี่ที่ประเทศอังกฤษ และเพราะเหตุนี้ ครั้งนี้แอนนี่ถึงมาหวาเซี่ย" เฉินโป๋ยุงพูด

"เมื่อแปดปีที่แล้วมันไปทำอะไรที่ประเทศอังกฤษ? แล้วก็ มันไปกับใคร? ทำไมเมื่อแปดปีก่อน พวกเราถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย?" เฉินอิงไฉอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา ความเป็นจริงตระกูลเฉินไม่เคยหยุดจับตามองเฉินเฟิงมาก่อน จากที่เขาดูนั้น ทุกย่างก้าวทุกการกระทำของเฉินเฟิง ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของตระกูลเฉิน แต่ตอนนี้ เฉินโป๋ยุงกลับพูดว่า เมื่อแปดปีก่อนเฉินเฟิงเคยไปประเทศอังกฤษ และเรื่องนี้ตระกูลเฉินกลับไม่รู้แม้แต่น้อย

เฉินโป๋ยุงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ได้พูดอะไรมาก ความเป็นจริง เวลานี้เขาก็สับสนเหมือนเฉินอิงไฉ เขารู้สึกว่า หลายๆเรื่องได้อยู่เหนือการควบคุมของเขาไปนานแล้ว

"ต้องมียอดฝีมือที่พวกเราไม่รู้จักคอยแอบช่วยเหลือและสนับสนุนไอ้ลูกเมียน้อยแน่นอน" เฉินโป๋ยุงพูดเสียงเรียบ นี่คือสิ่งเดียวที่เขาสามารถคาดเดาได้ และเป็นการคาดเดาที่ใกล้เคียงกับความจริงที่สุด

ไม่ว่าเฉินเฟิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน หรือว่าเมื่อแปดปีก่อนเฉินเฟิงจะแอบไปประเทศอังกฤษโดยปิดบังไม่ให้ทุกคนรู้ ล้วนสามารถใช้การคาดเดานี้มาอธิบาย

"ยอดฝีมือ?" หนังตาของเฉินอิงไฉกระตุก ยอดฝีมือที่เฉินโป๋ยุงพูดถึง เห็นได้ชัดว่าเป็นจอมยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นจอมยุทธ์ที่แดนสูงมากด้วย......

"พ่อครับ ยอดฝีมือที่พ่อพูดถึง จะเป็นอาจารย์ของไอ้ลูกเมียน้อยหรือเปล่า?"

"มีความเป็นไปได้สูง" เฉินโป๋ยุงพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง ความเป็นจริงภายในของตระกูลเฉินได้มีการคาดการณ์นี้มานานแล้ว เฉินเฟิงมีอาจารย์ ไม่อย่างนั้น พวกเขาไม่สามารถอธิบาย เรื่องที่ความสามารถบู๊ของเฉินเฟิงก้าวหน้าพัฒนาด้วยความเร็วที่แสนจะมหัศจรรย์ได้

อายุยี่สิบสี่ บรรลุระดับหั้วจิ้ง ถูกเรียกว่าเป็นชายหนุ่มอันดับหนึ่งของหวาเซี่ย......

"พ่อครับ พอจะมีวิธีสืบหาอาจารย์ของไอ้ลูกเมียน้อยได้ไหม....." เฉินอิงไฉขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น ถ้าไม่สามารถสืบรู้ว่ายอดฝีมือลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเฉินเฟิงเป็นใคร เขารู้สึกไม่สบายใจตลอดเวลา

"ยากมาก แทบจะเป็นไปไม่ได้" เฉินโป๋ยุงส่ายหน้า พูด:“อาจารย์ของไอ้ลูกเมียน้อยต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่อย่างนั้นเมื่อแปดปีก่อน ตอนที่เขาพาไอ้ลูกเมียน้อยไปประเทศอังกฤษ พวกเราคงไม่รู้ข่าวแม้แต่น้อยแบบนี้"

"อีกอย่าง ตอนนี้สืบหาอาจารย์ของไอ้ลูกเมียน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว" เฉินโป๋ยุงพูดเสริม

ได้ฟังคำพูดนี้ของเฉินโป๋ยุงเห็นชัดเจนว่ามีอะไรบางอย่างอยากจะสื่อ เฉินอิงไฉและเฉินเจี้ยนกั๋วหยุดชะงัก:“พ่อ (พี่รอง) ความหมายของพ่อคือ......."

"ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งจะลงมือแล้ว" เฉินโป๋ยุงพูดเสียงเรียบ

"ผู้สืบทอดตระกูลจิ่ง?!”

เฉินอิงไฉและเฉินเจี้ยนกั๋วตกตะลึงอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เฉินโป๋ยุงเคยพูดแล้วว่า เชิญผู้สืบทอดของตระกูลจิ่งมาท้าประลองกับเฉินเฟิง แต่ตอนนั้น เฉินเฟิงยังไม่ได้ไปที่ประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ได้ทำโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงให้คนทั้งโลก

เฉินโป๋ยุงพยักหน้า:“ถูกต้อง ความสามารถของไอ้ลูกเมียน้อยไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างที่คนนอกพูดกัน ที่คนนอกประเมินเขาสูงแบบนี้ เป็นเพราะคนบางคนในสหพันธ์อยากจะสร้างคนระดับเทพขึ้นมาเท่านั้น"

"สร้างเทพ? หมายความว่าอะไรครับ?"

"ความหมายจากสิ่งที่พูดก็คือ" เฉินโป๋ยุงพูดเสียงเรียบ:“วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ยหลายปีแล้วที่ไม่มีคนเก่ง เก่งพอที่จะสามารถสยบคนทั้งโลกได้ ดังนั้นคนบางคนในสหพันธ์ จึงอยากจะสร้างคนแบบนี้ขึ้นมา"

"และไอ้ลูกเมียน้อย ก็มาได้ทันเวลาพอดี"

"พ่อครับ ผมเข้าใจแล้ว ความหมายของพ่อก็คือ ตอนนี้ไอ้ลูกเมียน้อยไม่ได้เก่งเหมือนอย่างที่คนเขาพูดกัน ความแข็งแกร่งของมัน เป็นเพราะคนบางคนกำลังพูดโอ้อวดเท่านั้น" เฉินอิงไฉดีใจเล็กน้อย เดิมที ความแข็งแกร่งของเฉินเฟิงทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง แต่ตอนนี้ เฉินโป๋ยุงกลับทำให้เขามีความมั่นใจอีกครั้ง

"พูดแบบนี้ก็ไม่ได้" เฉินโป๋ยุงไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เฉินอิงไฉพูดในทันที เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูด:“ไอ้ลูกเมียน้อยมีความสามารถ อย่างน้อยตอนนี้เรื่องที่มันอยู่ในระดับหั้วจิ้งชั้นต้นเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ มันยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ไม่มีคู่แข่ง"

"ครั้งนี้ ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งออกโรงเอง เป็นการหยั่งเชิงสักครั้งเท่านั้น"

"ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งก็บรรลุระดับหั้วจิ้งแล้วหรอครับ?" เฉินอิงไฉถาม ถึงแม้เขาจะไม่ใช่จอมยุทธ์ แต่เขาก็รู้ ช่องว่างระหว่างจอมยุทธ์แต่ละระดับนั้นต่างกันมาก จอมยุทธ์ระดับอ้านจิ้งชั้นสูงสุด กับจอมยุทธ์ระดับหั้วจิ้งชั้นต้น ถึงแม้จะต่างกันแค่ระดับเดียว แต่ข้อแตกต่างในการต่อสู้ ต่างกันราวฟ้ากับดิน!

พูดให้เห็นภาพก็คือ จอมยุทธ์ระดับหั้วจิ้งชั้นต้นหนึ่งคน อย่างน้อยๆสามารถสู้กับจอมยุทธ์อ้านจิ้งชั้นสุดห้าคนโดยไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบ!

ถ้าแดนของผู้สืบทอดตระกูลจิ่งในตอนนี้อยู่ในระดับอ้านจิ้งชั้นสูงสุด การที่เขาประลองกับเฉินเฟิง เกรงว่าจะรนหาที่ตาย

"แน่นอนว่าผู้สืบทอดตระกูลจิ่งต้องบรรลุระดับหั้วจิ้งแล้ว" เฉินโป๋ยุงพูดขึ้นช้าๆ ความเป็นจริง ผู้สืบทอดตระกูลจิ่งเองก็เพิ่งบรรลุหั้วจิ้งชั้นต้นเมื่อหลายวันก่อนเท่านั้น ตอนที่ผู้สืบทอดตระกูลจิ้งบรรลุหั้วจิ้งชั้นต้น เฉินเฟิงกำลังฆ่าขวัญนินจาที่ประเทศญี่ปุ่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร