ลูกเขยมังกร นิยาย บท 639

บทที่ 639 เรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น

เป็นไปตามที่เจี่ยหวั้นเหาคาดการณ์เอาไว้ ในวันนั้นนอกจากลู๋เจิ้งเฟิงที่มาจากหนานกังรีบมายังทะเลสาบตะวันตกแล้วนั้น เหอหรงหัวหน้าตระกูลเหอจากหนานอ้าว จิ้นเป่ยหัวหน้าใหญ่ของยุทธภพ ผู้อาวุโสคนใหม่จิ้นซีรวมถึงคนใหญ่คนโตในโลกใต้ดินของหวาเซี่ยล้วนมาถึงทะเลสาบตะวันตกแล้ว

เหตุผลเดียวที่คนใหญ่คนโตพวกนี้มาทะเลสาบตะวันตกก็คือ ทำความรู้จักกับเฉินเฟิง รวมถึงรวดดู ว่าจะสามารถผูกมิตรกับเฉินเฟิงได้ไหม!

ทะเลสาบตะวันตกตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบตะวันตก เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของประเทศแห่งแรกและเป็นหนึ่งในสิบจุดชมวิว นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ของหวาเซี่ยที่ถูกบันทึกว่าเป็นมรดกโลก

ทั้งสามด้านของทะเลสาบตะวันตกล้อมรอบด้วยภูเขาขนาดประมาณ 6.39 ตารางกิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกและตกกว้างประมาณ 2.8 ตารางกิโลเมตร ทางด้านทิศใต้และทิศเหนือยาวประมาณ 3.2 ตารางกิโลเมตร ล้อมรอบทะเลสาบประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร ในทะเลสาบถูกแบ่งแยกโดยภูเขากู เขื่อนป๋าย เขื่อนซูและเขื่อนหยางกง อิงจากขนาดของพื้นที่แบ่งเป็นทะเลสาบตะวันตก ทะเลสาบซีหลี่ ทะเลสาบเป่ยหลี่ ทะเลสาบเสี่ยวหนาและทะเลสาบเย่วรวมห้าทะเลสาบ เขื่อนซูและเขื่อป๋ายผ่านน่านน้ำของทะเลสาบ ทวีปเล็กเสี่ยวหยิง ศาลาหูซิน เกาะหย่วนกงสามเกาะตั้งอยู่นอกใจกลางของทะเลสาบตะวันตก เจดีย์ Leifengของภุเขาซีจ้าวและเจดีย์ Baochuของภูเขาเป่าซื๋ออยู่กั้นกลางทะเลสาบ

ด้วยเหตุนี้จึงแบ่งเป็น "หนึ่งภูเขา สองเจดีย์ สามเกาะ สามเขื่อน ห้าทะเลสาบ"

ประจวบเหมาะกลายเป็นหกหนึ่ง ตอนเวลาแปดโมง จุดชมวิวของทะเลสาบตะวันตกเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทุกที่ล้วนมีคนมากมาย ผู้คนเต็มไปหมด มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาก็ยังไม่สิ้นสุด

"ทะเลสาบตะวันตกใหญ่ขนาดนี้ พี่เฉินเฟิงจะประลองวรยุทธ์กับจิ่งเถิงที่ไหนกันแน่?" ในฝูงชน หลินหวั่นชีวมองดูกลุ่มคนมากมายและทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ของทะเลสาบตะวันตก รู้สึกตกตะลึงเธอแอบหนีมาจากฐานกองกำลังพิเศษมังกร เพราะออกมาด้วยความเร่งรีบ เธอจึงไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย เธอแค่ถามเพียงสถานที่ประลองวรยุทธ์ของเฉินเฟิงและจิ่งเถิงเท่านั้นแล้วออกมาเลย แต่หลังจากที่มาถึงที่นี่ เธอกลับพบว่า ทะเลสาบตะวันตกกว้างใหญ่มาก ถ้าไม่รู้สถานที่ประลองวรยุทธ์ที่แน่ชัด เธอไม่มีทางที่จะได้เจอกับเฉินเฟิง!

หลังจากตกตะลึง หลินหวั่นชีวรีบเดินออกมาจากฝูงชน จากนั้นเธอก็เจอจุดบริการบริเวณจุดชมวิว เธอถึงขั้นเดินตรงไป แล้วถามออกไปตามตรง:“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าวันนี้สถานที่ประลองวรยุทธ์ที่จัดขึ้นบนจุดชมวิวอยู่บริเวณไหนคะ?"

"ประลองวรยุทธ์? ประลองวรยุทธ์อะไรคะ?" พนักงานที่จุดบริการสีหน้ามึนงง

"ก็คือการประลองวรยุทธ์ของผู้สืบทอดตระกูลจิ่งศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่กับเฉินเฟิง" หลินหวั่นชีวอธิบาย

"ผู้สืบทอดศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่? คุณคะ คุณดูหนังกำลังภายในมากไปรึเปล่าคะ? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว จะมีศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่อะไรนี้ได้ยังไง? อีกเรื่องหนึ่ง ที่นี่ไม่มีการประลองวรยุทธ์อะไรทั้งนั้น" พนักงานที่จุดให้บริการมองหลินหวั่นชีวด้วยสีหน้าแปลกๆ

"——" หลินหวั่นชีวหมดคำจะพูด ในเวลาเดียวกันเธอก็เข้าใจ พนักงานในจุดบริการไม่รู้เรื่องการประลองวรยุทธ์ของเฉินเฟิงและจิ่งเถิง

หื้ม? จากนั้น ขณะที่หลินหวั่นชีวกำลังเคร่งเครียด เธอก็เห็นคนสวมชุดจีน ผ้าคลุมตัวยาวหลายคน เธอรู้สึกตงิดใจขึ้นมา จึงตามไปทันที

ตอนนี้เธอเข้าใจบูโดอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว ดังนั้นเธอจึงมองออกว่า คนที่แต่งตัวแปลกๆพวกนั้น ไม่ธรรมดา ตัวของพวกเขามีพลังแปลกๆแพร่ออกมา น่าจะเป็นคนในบูโด

เมื่อเป็นแบบนี้ ขอแค่เธอตามคนในบูโดไป ต้องเจอสถานที่ประลองวรยุทธ์ระหว่างเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงอย่างแน่นอน แล้วจะได้เจอกับเฉินเฟิง เห็นเฉินเฟิงประลองวรยุทธ์ด้วยตาตนเอง

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หลินหวั่นชีวแทบจะวิ่งเหยาะๆตลอดทาง จึงจะสามารถตามจอมยุทธ์พวกนั้นทัน เธอตามมาจนถึงท่าเรือแห่งหนึ่งบนจุดชมวิวทะเลสาบตะวันตก

ท่าเรือถูกปิดล้อมเอาไว้ ที่นั่นมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยลาดตระเวนและสหพันธ์บูโดรวมดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย คนที่จะขึ้นไปบนเรือต้องแสดงเอกสารรับรอง

ดูเหมือนว่าจอมยุทธ์พวกนั้นจะรู้แต่แรกแล้ว พวกเขาเดินตรงไป หยิบเอกสารสำหรับยืนยันตัวตน จากนั้นเข้าไปในพื้นที่ที่ปิดล้อมเอาไว้ แล้วขึ้นไปบนเรือขนาดใหญ่

บนเรือขนาดใหญ่มีคนจำนวนมากแล้ว คนพวกนั้นกับคนที่หลินหวั่นชีวสะกดรอยตามมานั้นเหมือนกัน พวกเขาใส่ชุดคลุมตัวยาวหรือไม่ก็แต่งกายด้วยชุดจอมยุทธ์ มีบางคนถึงขั้นพกมีดพกกระบี่เอาไว้ แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนของบูโด

เมื่อเห็นภาพนี้ หลินหวั่นชีวครุ่นคิด แล้วเดินตรงไป

"เปล่าค่ะ ฉันแค่เดาว่าเขาจะรับคำท้า" หลินหวั่นชีวส่ายหน้า แล้วตอบ

"คนที่มาวันนี้ต่างก็เดาว่าเฉินเฟิงจะรับคำท้า ถ้าเขาไม่รับคำท้า ก็สนุกละสิ!” พนักงานได้ฟัง ยิ้มเศร้าแล้วส่ายหน้า จากนั้นก็ไม่ถามอะไรหลินหวั่นชีวอีก ปล่อยให้หลินหวั่นชีวเดินไป

หลินหวั่นชีวไม่ได้ไปไหนไกล แต่ยืนอยู่ที่ไม่ไกล ตามที่พนักงานบอก ไม่รู้ว่ากำลังรอโอกาสในการเข้าไปพื้นที่ปิดล้อม หรือว่ากำลังรอการมาของเฉินเฟิง

"เจ้าสำนักเส้าเป่ยปรมาจารย์เฉียวอู่โต่มาถึงแล้ว!" อย่างรวดเร็ว พนักงานเห็นจอมยุทธ์วัยกลางคนพาลูกศิษย์สองคนเดินมา หัวใจเต้นแรง รู้ว่าคนที่มาเป็นใคร จึงร้องตะโกนเสียงดัง

ฉึบๆๆๆ.......

สิ้นเสียงของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานคนอื่นที่อยู่ตรงบริเวณปากทางเข้าสถานที่ปิดล้อม หรือว่าเหล่าจอมยุทธ์ที่ขึ้นไปบนเรือแล้วต่างก็มองมาที่ปรมาจารย์เฉียวอู่โต่

"สวัสดีครับ ปรมาจารย์เฉียว ผมเป็นพนักงานของสหพันธ์บูโดหางโจวครับ" จากนั้น ในสายตาของทุกคน ปรมาจารย์เฉียวอู่โต่พาลูกศิษย์สองคนเดินมายังปากทางเข้าสถานที่ปิดล้อม พนักงานคนนั้นให้การต้อนรับ โดยเริ่มจากแนะตัวตนเอง จากนั้นพูดขึ้น:“ปรมาจารย์เฉียว เนื่องด้วยการประลองวรยุทธ์ในครั้งนี้พิเศษ จากคำสั่งของเบื้องบน ถ้ามีการประลอง ต้องอยู่ในพื้นที่ปิดล้อมที่ตั้งเอาไว้ ทุกคนที่ชมการประลองต้องอยู่บนเรือ ตอนนี้ มีคนส่วนหนึ่งขึ้นไปบนเรือแล้ว ท่านจะขึ้นไปบนเรือ หรือจะเดินเที่ยวเล่นก่อน แล้วค่อยขึ้นเรือก่อนจะมีการประลองครับ?"

"ขึ้นเรือ"

ปรมาจารย์เฉียวอู่โต่พูดสั้นๆสองคำ เรียบง่ายเข้าใจ

วันนี้เขาพาลูกศิษย์สองคนมาที่ทะเลสาบตะวันตก มาเพื่อดูการประลองวรยุทธ์ของเฉินเฟิงและจิ่งเถิง ส่วนเรื่องชมวิว——เขาไม่มีอารมณ์สุนทรีย์ขนาดนั้น!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร