บทที่ 646 ตะลึง
“ตามที่นายปรารถนาเลย ฉันมาส่งนายเดินทางเอง!” เฉินเฟิงตอบไม่ตรงคำถาม ตัดสินโทษตายให้จิ่งเถิงเลย!
“เอ๋...” จิ่งเถิงอึ้งตะลึงอีกครั้ง
ถ้าก่อนนี้เขาแค่ตกใจล่ะก็ งั้นวินาทีนี้เขาตะลึงแล้วจริงๆ
เฉินเฟิง!
ถึงเขาจะไม่รู้ว่าจิ่งหรินกับมู่หยางไปเจอเฉินเฟิงเข้าได้ยังไง แต่ ณ วินาทีนี้เขาแน่ใจได้ทันทีว่า ทางปลายสายคือเฉินเฟิง ไม่งั้นคงไม่พูดกับเขาแบบนี้แน่!
“ตู้ด....ตู้ด....”
จากนั้น ในตอนที่จิ่งเถิงกำลังคิดระหว่างที่ตะลึงอยู่ อีกฝ่ายก็ตัดสายไป
“คนเมื่อกี้คือเฉินเฟิง?” จิ่งเซ่อเหมิงหูดีเป็นพิเศษ ได้ยินบทสนทนาของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิง และเห็นปฏิกิริยาทั้งหมดของจิ่งเถิงด้วย
“น่าจะเป็นเขา!”
จิ่งเถิงกัดฟันพูด เขาโกรธจนแทบเขวี้ยงมือถือทิ้ง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต แทบอยากเข้าไปจับเฉินเฟิงเผาเป็นผุยผง “จิ่งหรินกับมู่หยางเรียบร้อยในเงื้อมมือเขาแล้ว คนหนึ่งตาย อีกคนพิการ---มันกำลังท้าทายตระกูลจิ่งของเรา ผมจะสับมันเป็นหมื่นชิ้นแล้วโยนให้ปลากิน!”
“ไป ไปดูกันก่อน” จิ่งเซ่อเหมิงโกรธแทบควันออกหูเหมือนกัน เขาหมุนตัวเดินออกจากห้องวีไอพีด้วยสีหน้าถมึงทึง จิ่งเถิงเก็บมือถือเข้าที่ ตามติดไม่ลดละ
ในขณะเดียวกัน
เฉินเฟิงพาพวกเสี้ยเมิ่งเหยาขึ้นรถมาที่ทางเข้าเขตพิเศษ
“ดูสิ มีขบวนรถมาแหน่ะ เฉินเฟิงหรือเปล่า?”
พวกเฉินเฟิงยังไม่ทันลงจากรถ ก็ดึงดูดความสนใจจากคนทั้งหมดไปแล้ว บางคนถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจเลยทีเดียว
วินาทีต่อมา เฉินเฟิงเปิดประตูลงมาจากรถท่ามกลางสายตาของทุกคน
“เฉินเฟิง!”
“คิดไม่ถึงจริงๆว่า เฉินเฟิงจะมาในตอนสุดท้ายพอดี!”
“ฮะฮะ ฉันบอกนานแล้ว เก่งแบบเฉินเฟิงน่ะ ไม่มีทางทำตัวเป็นเต่าหดหัวหรอก!”
พอเฉินเฟิงลงจากรถ ทำให้กลุ่มคนที่เดิมทียืนกันเงียบเชียบพากันสนทนากันยกใหญ่
พอได้ยินคำวิจารณ์ของทุกคน จิ่งหยุนเฟิง เจ้าตระกูลจิ่ง มองหน้าเฉินเฟิงคนที่เขาเคยเห็นแต่ในรูปแล้วหัวเราะออกมา
เดิมเขายังกังวลว่าเฉินเฟิงจะไม่กล้ารับคำท้า ดูท่าแผนการทั้งหมดของตระกูลจิ่งคงต้องพังซะแล้ว ตอนนี้เฉินเฟิงปรากฏตัวแล้ว ความกังวลในใจเขาหายไปเป็นปลิดทิ้ง
เพราะเฉินเฟิงในสายตาเขาตอนนี้คือคนตายคนหนึ่ง----จิ่งเถิงต้องฆ่าเฉินเฟิงได้แน่!
จากนั้น----
ไม่นาน รอยยิ้มบนใบหน้าของจิ่งหยุนเฟิงก็ชะงักค้าง
เพราะเขาเห็นได้ชัดเจนว่า พอเฉินเฟิงลงจากรถก็หิ้วจิ่งหรินและมู่หยางลงจากที่นั่งด้านหลังด้วย คนหนึ่งนิ่งเหมือนหมาตาย ไม่ขยับตัวสักนิด อีกคนเนื้อตัวสั่นเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สิ่งที่เห็นทำให้จิ่งหยุนเฟิงสะท้านเยือกในอก และคิ้วเริ่มขมวดมุ่น
เขารู้และยอมรับกลายๆกับแผนการรับมือเร่งด่วนที่จิ่งหรินปรึกษากับจิ่งเถิง พอมาตอนนี้เห็นฉากนี้เข้า ใช้เท้ายังคิดได้เลยว่า ตอนจิ่งหรินกับมู่หยางใช้อำนาจไปข่มเหงให้เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นหญิงรับใช้ให้กับจิ่งเถิง เจอเข้ากับเฉินเฟิงพอดี จากสายตาอันแสนดีของเขา ยังเห็นอีกว่า มู่หยางไม่รอดแล้ว จิ่งหรินเองก็พิการแล้วเหมือนกัน!
ไม่แค่เขา ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้คนอื่นที่อยู่บนเรือลำที่สองก็มองออกถึงจุดนี้เหมือนกัน ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หนึ่งในนั้น อู่จื่อโจวซึ่งเป็นสมาชิกสหพันธ์สงครามขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เฉินเฟิงเมินเฉยกับคำพูดของจิ่งเซ่อเหมิง และเบนสายตามองเรือใหญ่ทั้งสามลำ จนหยุดสายตาลงที่ลำที่สอง พูดเสียงขรึมว่า: “เพราะผมไม่รับคำท้าซะที คนตระกูลจิ่งเลยคิดว่าผมไม่กล้ารับคำท้า เพื่อบีบบังคับให้ผมรับคำท้า พวกเขาให้คนสองคนนี้ไปที่ที่ผมเข้าฌานฝึกยุทธ อาศัยว่ามีวิทยายุทธ์แก่กล้า บีบบังคับเสี้ยเมิ่งเหยาภรรยาของผมไปเป็นหญิงรับใช้ของคนสนิทของจิ่งเถิง!” “เสี้ยเมิ่งเหยาภรรยาผมไม่เห็นด้วย พวกเขาเลยลงมือใช้กำลังบังคับ จากนั้นยังลงมือกับเพื่อนคนอื่นของผม---พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดากลุ่มหนึ่งเท่านั้น!”
“คนตระกูลจิ่งทำเกินไปล่ะมั้ง?”
“ไม่ใช่แค่เกินไป แต่โอหังเกินไปมากกว่า นี่จงใจละเมิดกฎของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยชัดๆเลยต่างหาก!”
ทุกคนพากันออกมาชี้หน้ากล่าวโทษตระกูลจิ่ง จิ่งเซ่อเหมิงได้แต่ก้มหน้ารับพูดอะไรไม่ออก เพราะเฉินเฟิงพูดความจริง
“เฉินเฟิง แกตายแน่!”
ในตอนนี้เอง จิ่งเถิงมาถึงที่กาบเรือ และได้ยินคำต่อว่าของทุกคน อีกทั้งยังเห็นจิ่งหรินและมู่หยางโดนเฉินเฟิงหิ้วเหมือนไก่ในกำมือ ก็ตะคอกออกมาเสียงดัง รังสีอำมหิตแผ่ซ่านประหนึ่งภูเขาไฟใกล้ระเบิด
“คนนี้เป็นจอมยุทธ์ อาศัยว่าตนมีวิทยายุทธ์แข็งกล้า บีบบังคับเสี้ยเมิ่งเหยาภรรยาของผมเป็นหญิงรับใช้ และยังลงไม้ลงมือกับคนธรรมดากลุ่มหนึ่ง ไม่เห็นกฎข้อระเบียบของสหพันธ์บูโดอยู่ในสายตาเลยสักนิด โชคดีที่ผมออกจากฌานมาเห็นเข้าพอดี ผมตบเขาไปสองฉาดตายคาที่ ก็ถือช่วยสวรรค์ลงโทษคนชั่วแล้วกัน!”
เฉินเฟิงทำเหมือนคำพูดของจิ่งเถิงเป็นผายลมที่ปล่อยออกมา แถมไม่มองหน้าจิ่งเถิงสักนิด ก่อนจะชี้ไปที่มู่หยางและจิ่งหรินตามลำดับ เขาพูดเสียงดังว่า: “ส่วนคนนี้ถึงจะไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ แต่ก็ร่วมมือกับเขากระทำการทั้งหมดนี่ ผมหักขาสองข้างของเขา ถือเป็นการลงโทษ!”
ฟุบ!ฟุบ!
พอพูดจบ เฉินเฟิงส่งพลังไปที่สองมือ และโยนศพมู่หยางกับร่างจิ่งหรินลงในทะเลสาบ “อ๊า---“
จู่ๆร่างก็โดนปล่อย ลมหนาวพัดผ่านหู จิ่งหรินตกใจจนหลับตาปี๋ มีของเหลวสีเหลืองไหลออกมาตรงหว่างขาเขา
เขาตกใจจนฉี่ราดเลย!
“ตู้ม!ตู้ม!”
ตามมาด้วยเสียงตกน้ำสองเสียง จิ่งหรินและศพของมู่หยางโดนเฉินเฟิงโยนลงทะเลสาบ! การกระทำทั้งหมดนี่ประหนึ่งตบหน้าฉาดใหญ่เน้นๆให้กับคนตระกูลจิ่ง!
ฉากนี้ทำทุกคนตะลึงงัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...