บทที่ 674 สภาวะจิตใจของจอมยุทธ์
“ฮ่าฮ่า ทำได้ดี คุณเข้าถึงหลักการของกระบี่เทียนซานแล้วล่ะ มา แสดงความสามารถของคุณออกมาให้เต็มที่!”
ร่างของอู่จื่อโจวอยู่ห่างออกไปกว่าแปดเมตร เว้นระยะห่างระหว่างเทียนอิงไว้พลางเอ่ยชมเทียนอิงอย่างไม่ปิดบัง
“มา ผมหวังว่าคุณจะทำให้ผมขยับตัวได้อีกครั้ง!” บนใบหน้าของอู่จื่อโจวมีรอยยิ้มประดับอยู่ เห็นได้ว่าเขาชื่นชมเยาวชนคนนี้ไม่น้อย
“ผู้อาวุโสอู่ชมเกินไปแล้ว!”
เทียนอิงเพิ่งเอ่ยจบร่างของเราก็พุ่งไปหาอู่จื่อโจวทันที กระบี่ในมือทั้งฟัน แทง ฟาดเชื่อมต่อกันเป็นกระบวนท่าโดยฝีมือของเทียนอิง ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือครั้งนี้ปรมาจารย์อู่หลบกระบี่ของเขาได้อย่างง่ายดาย
ทว่าเทียนอิงก็ไม่หยุดพักแต่กลับตวัดกระบี่ในมือติดต่อกันกว่าสิบครั้ง วิชากระบี่ที่แปลกประหลาดนี้บีบให้อู่จื่อโจวต้องถอยหลังอีกครั้ง
เทียนอิงเล็งเห็นโอกาส เขาถีบตัวขึ้น กระบี่สิบกว่ากระบวนท่าเมื่อสักครู่แปลงเป็นท่าเดียวแล้วฟันลงมา สังหารเทียนซานในครั้งเดียว นี่คือหัวใจของวิชากระบี่เทียนซาน กระบี่นี้สามารถตัดแผ่นฟ้าผ่าแผ่นดินได้
ตอนนี้เทียนอิงและกระบี่คมกริบรวมเป็นหนึ่งเดียว เทียนอิงฟันกระบี่ลงมาจากฟ้า มาดดูยิ่งใหญ่ ราวกับไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของใดก็ไม่อาจต้านทานได้
ชั่วพริบตาร่างของเทียนอิงก็พุ่งลงมา อู่จื่อโจวรีบเอนตัวขยับหลบกระบี่พิฆาตนี้ โชคดีที่หลบได้ทันไม่อย่างนั้นตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ภาพนี้ล้วนตกอยู่ในสายตาของก่วนหนานเทียน เย่หนานเทียน จีอู๋ฉางและปรมาจารย์ฟางเจิ้ง เทียนอิงแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก
สายตาเฉินเฟิงฉายแววครุ่นคิด ความสามารถของเทียนอิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ หากเป็นตัวเขาที่สู้กับอีกฝ่าย แล้วต้องการชนะก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
อีกด้าน ฉู่เหอยังคงมีสีหน้าดูถูก ถึงแม้ภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่จะทำให้เขาตะลึงไปบ้าง แต่เขามีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะเทียนอิงได้แน่นอน
“เทียนอิง พอแค่นี้เถอะ คุณทำได้ดีมาก น่าตื่นตาตื่นใจมาก!”
ขณะนั้นเองอู่จื่อโจวก็เอ่ยปากหยุดการต่อสู้อย่างฉับพลัน แต่ก็ยังไม่หยุดเอ่ยชมเทียนอิง
“ปรมาจารย์อู่ชมเกินไปแล้วล่ะ เสี่ยวเทียนจะกล้าอวดวิชาต่อหน้าปรมาจารย์อู่ได้อย่างไร!”
เทียนอิงยังคงไว้ซึ่งความนอบน้อม ยกมือคารวะอู่จื่อโจวจากนั้นก็หันหลังเดินกลับไปหาชางโป๋
เมื่อเห็นเทียนอิงเดินเข้ามาหา ใบหน้าของชางโป๋จึงประดับไปด้วยรอยยิ้ม ส่วนข้างในนั้นได้ใจเป็นอย่างมาก
ความสามารถของเทียนอิงในวันนี้โดดเด่นมาก แกร่งกว่าศีลสามและจียุ่นอยู่มาก ดูความสามารถแล้วไม่แน่ว่าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันเพียงหนึ่งเดียวในครั้งนี้อาจจะตกเป็นของเขา ซึ่งนั่นจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับสำนักกระบี่เทียนซานอีกด้วย
ความสามารถของเทียนอิงในวันนี้ล้วนตกอยู่ในสายตาของจีอู๋ฉางและปรมาจารย์ฟางเจิ้ง ความสามารถของเทียนอิงแข็งแกร่งกว่าจียุ่นและศีลสาม ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาหดหู่ใจ
ฟางเจิ้งคิดมาถึงตรงนี้ก็หันไปมองศีลสามแวบหนึ่ง เขาล่ะอยากตบหัวโล้นๆนั่นสักทีสองที
เขารู้ดีว่าหากศีลสามทำอย่างเต็มที่จริงๆก็คงไม่ด้อยไปกว่าเทียนอิงสักเท่าไหร่ ถึงแม้สุดท้ายจะไม่ได้โควตาเข้าร่วมการแข่งขันแต่ก็คงไม่ถึงขั้นทำให้พระพุทธศาสนาต้องเสียหน้า
“ใครเป็นคนต่อไป?”
อู่จื่อโจวจับจ้องไปยังเฉินเฟิงและฉู่เหอ เพื่อรอคำตอบจากพวกเขา
“ไอ้คนน่ารำคาญ ฉันให้โอกาสแกขึ้นก่อน ฉันกลัวว่าเมื่อฉันแสดงความสามารถจะทำให้แกตกใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าหากตอนนั้นแกคุกเข่ายอมแพ้ก่อน การต่อสู้แห่งความเป็นความตายของเราก็จบใช่ไหมล่ะ!”
ฉู่เหอไม่ได้ตอบคำถามอู่จื่อโจว ทว่ากลับปรายตามองเฉินเฟิง สายตาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยดูถูก ราวกับว่าตนสามารถตัดสินชีวิตอีกฝ่ายว่าจะเป็นหรือตายได้อย่างง่ายดาย
ทุกคนในที่นี้ล้วนได้ยินคำพูดหยิ่งผยองของฉู่เหอ ด้านอู่จื่อโจว ก่วนหนานเทียนต่างก็ขมวดคิ้ว
เมื่อได้ยินเสียงของเฉินเฟิง ความต้องการฆ่าของฉู่เหอก็มากกว่าเดิม ทว่าเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเดินไปทางอู่จื่อโจว เขาจึงไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เขาไม่รีบ สำหรับเขาแล้วเฉินเฟิงเป็นเพียงมดตัวหนึ่งเท่านั้น เดี๋ยวเขาจะฆ่ามันต่อหน้าทุกคนเพื่อแก้แค้นให้กับหวังอีเตา
หวังอีเตาไม่พูดไม่จาทว่าแสยะยิ้ม พวกเขาลงทุนไปมากเพื่อฝึกฝนฉู่เหอ ส่วนความสามารถของฉู่เหอพวกเขารู้ดี เมื่อสักครู่ที่ให้เฉินเฟิงเริ่มก่อนก็เพราะเกรงว่าหลังฉู่เหอแสดงฝีมือแล้ว อีกฝ่ายจะกลัวจนเปลี่ยนใจ
ตอนนี้เฉินเฟิงเริ่มก่อนแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอีก อีกประเดี๋ยวก็รอดูฝีมือของฉู่เหอก็พอ
ทว่าปรมาจารย์ฟางเจิ้ง จีอู๋ฉางและชางโป๋ล้วนมองเฟิงด้วยสายตาคาดหวัง ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงจะมีอะไรมาทำให้พวกเขาประหลาดใจ
เจ้าสำนักรุ่นก่อนของศาสนาพุทธตะวันตก ตระกูลจีและสำนักเทียนซานก็พอรู้จักตระกูลจีอยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่เห็นการต่อสู้ระหว่างเฉินเฟิงและจิ่งเถิงด้วยตาตัวเอง
ทว่าเฉินเฟิงสามารถฆ่าจิ่งเถิงได้ นั่นก็หมายความว่าความสามารถของเฉินเฟิงนั้นไม่ธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเฟิงยังฆ่าจอมยุทธ์ตงอิ๋งและยังมีเรื่องของผู้แข็งแกร่งอันดับเทพอีก ซึ่งทำให้พวกเขาแปลกใจในตัวของเฉินเฟิงเป็นอย่างมาก
ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า เฉินเฟิงก้าวเดินไปทางอู่จื่อโจว โดยแทบจะสัมผัสไม่ได้ถึงพลังของเขา ราวกับตอนนี้เขากำลังเดินเล่นไม่ใช่กำลังจะต่อสู้
“หืม?”
ก่อนต่อสู้ จิตใจสงบดุจสายน้ำไม่ปรากฏคลื่นใดๆ ความสงบมั่นคงแบบนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะทำได้
ถึงแม้เมื่อสักครู่เทียนอิงก็เป็นเช่นนี้ ทว่าเขาสงวนพลังก็เพื่อสะสมพลังไม่ได้เงียบสงบเหมือนกับเฉินเฟิงในตอนนี้
ภาพนี้ดึงดูดความสนใจของปรมาจารย์ฟางเจิ้ง ชางโป๋และจีอู๋ฉางได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเขาคือผู้แข็งแกร่งของวงการศิลปะการต่อสู้แน่นอนว่าพวกเขาดูออก
จอมยุทธ์ไม่ว่าความสามารถจะแข็งแกร่งขนาดไหน สภาวะจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดูจากแค่เรื่องนี้ถือว่าเฉินเฟิงแกร่งกว่าทายาทของพวกเขาไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...