บทที่ 692 ถึงดูไบ
จุดหมายของเฉินเฟิงคือเมืองศักดิ์สิทธิ์อังกฤษ แต่เครื่องบินลำนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ
พูดถึงดูไบ เป็นเมืองในแถบพื้นที่อาราฮานที่คนเยอะที่สุด เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการเงินของตะวันออกกลาง และถูกเรียกว่าเป็นเมืองที่รวยที่สุดของอาราฮาน!
ดูไบเมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงของโลก ทุกครั้งที่คนพูดถึงดูไบ ภาพในหัวก็จะตัวอักษรสองคำลอยออกมาอัตโนมัติ "หรูหรา!”
ผ่านการบินหลายชั่วโมง เครื่องบินลำที่เฉินเฟิงนั่งลงจากที่สนามบินดูไบ ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องมีเวลาพักสี่ชั่วโมง หลังจากเฉินเฟิงลงจากเครื่องบิน เขาไม่ได้อยู่ที่สนามบิน เพราะถึงอย่างไรก็มีเวลาถึงสี่ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่น้อยเลย
อีกทั้ง มาถึงดูไบแล้ว ถึงแม้จะบอกว่าเวลามีจำกัดไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นได้ แต่ออกไปเที่ยวชมก็ยังพอได้
เฉินเฟิงกินอาหารเล็กน้อย เดินเล่นในสนามบิน เวลาค่อยๆผ่านไป เวลาประมาณแปดโมงถึงจะผ่านการตรวจแล้วเข้ามาในสนามบินอีกครั้ง
ในเวลานี้เองด้านหน้ามีเสียงเอะอะดังขึ้น ผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินออกมา ดูจากหน้าตาของคนกลุ่มนี้แล้วไม่เหมือนคนอาหรับ แต่เป็นยุโรปอเมริกานั้น
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าสุด ใส่ชุดสูท แต่งกายดูดีไม่เบา เพียงแต่สีหน้าของเขาดูไม่ดีเท่าไหร่ หน้าตาของเขามืดหม่นเหมือนน้ำ
ข้างๆผู้ชายคนนี้ มีผู้หญิงสง่างามคนหนึ่ง เธอสวมชุดทำงาน ตัวสูงโปร่ง มีทรวดทรงองค์เอวที่สวยงาม ทำให้คนที่มองเห็นดวงตาเป็นประกาย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พูด แต่เดินตามด้านหลังผู้ชายคนนั้น
ข้างหลังพวกเขาสองคน ยังมีผู้ชายรูปร่างกำยำเจ็ดถึงแปดคน ดูจากสีผิวของพวกเขาแล้วเหมือนจะไม่ได้มาจากที่เดียวกัน จากเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่และท่าทางของพวกเขา ดูออกว่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ด
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าสุด ไม่เพียงแต่อารมณ์ไม่ดี เขาก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เหมือนมีเรื่องด่วนกำลังรอเขา
ด้านหลังของเขามีผู้หญิงคนหนึ่ง รีบวิ่งตาม แต่ก็ยังคงถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บ่นอะไร ยังคงเดินตามหลังผู้ชาย
"ให้ตายสิ ไอ้พวกสารเลว ไม่รักษาคำพูดแม้แต่น้อย ตกลงกันดิบดี ตอนนี้กลับคำ สารเลวจริงๆ!”
ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้า ขณะที่เดินอยู่อดไม่ได้ที่จะสบถด่าออกมา ดูออกว่าเขาโมโหแค่ไหน
"คุณชายข่ายซ่าที่เคารพ คุณพูดถูก คนอาราฮานพวกนั้นไม่รักษาคำพูดแม้แต่น้อย!”
ผู้หญิงที่แต่งตัวสาวออฟฟิศที่เดินอยู่ข้างๆ พูดเห็นด้วย เธอเป็นผู้ช่วยของข่ายซ่า ข่ายซ่าที่เธอพูดถึงคือผู้ช่วยของประธานบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ มาอาราฮานในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือพูดคุยถึงการร่วมมือในการทำน้ำมัน
ก่อนหน้านี้พวกเขามารอบหนึ่งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง เดิมทีพูดคุยกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่จู่ๆฝ่ายนั้นกลับเปลี่ยนไป
เดิมทีเตรียมที่จะเซ็นสัญญาแล้ว แต่ฝ่ายนั้นกลับเพิ่มราคาน้ำมันทุกถังจากเดิมขึ้นไปอีกหนึ่งในสิบ
สิ่งนี้ทำให้บริษัทในประเทศอังกฤษรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจงใจ จงใจที่จะใช้วิธีนี้หลอกพวกเขา
ชายรูปร่างกำยำทั้งแปดคนเวลานี้กำลังโมโห สีหน้าของพวกเขาเหี้ยมโหด อารมณ์ของพวกเขาเปลี่ยนไปตามคำพูดของเจ้านาย เมื่อเห็นเฉินเฟิง ก็ทำทีจะพุ่งเข้ามา
เดิมทีเฉินเฟิงไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ เพียงแต่คำพูดของฝ่ายนั้นทำให้เขาไม่พอใจ เวลานี้เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เมื่อกี้ได้ยินพวกเขาพูดถึงองค์หญิงแอนนี่ เฉินเฟิงจึงมองไปด้วยความสงสัย ทว่าคิดไม่ถึงแค่ชำเลืองตามองไป ฝ่ายนั้นจะไม่พอใจขนาดนี้ ทั้งยังพูดจาหยาบคาย
"คุณชายข่ายซ่า ใจเย็นก่อนค่ะ ไม่จำเป็นต้องโมโหเพราะคนชั้นต่ำแบบนั้น พวกเรามีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ อีกทั้งองค์หญิงแอนนี่เชิญคุณด้วยไม่ใช่หรอคะ พวกเรารีบกลับไปกันเถอะค่ะ!”
ในเวลานี้เองหญิงสาวผมบลอนด์ทองพูดปลอบ
ขณะที่ข่ายซ่ากำลังจะโมโห หญิงสาวก็รีบพูดแก้ไขสถานการณ์ ถึงแม้เธอจะรู้สึกคุ้นหน้าเฉินเฟิง แต่นึกไม่ออก จึงไม่ได้คิดอีก อีกทั้งการไปร่วมงานเลี้ยงขององค์หญิงแอนนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถึงแม้ข่ายซ่าจะเป็นสายเลือดโดยตรงของตระกูล แต่ก็ไม่ถึงขั้นกล้าเพิกเฉยต่อแอนนี่
"อื้ม ซูซานเธอพูดถูก!”
ข่ายซ่าทำหน้าครุ่นคิด มองดูหญิงสาวพูด
เมื่อกี้ข่ายซ่าโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เกือบลืมเรื่ององค์หญิงแอนนี่ไปเลย เมื่อกี้ซูซานพูดขึ้นมา ข่ายซ่าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหน้าสวยๆขององค์หญิงแอนนี่ ความโมโหที่อยู่ในใจก็ลดน้อยลง
ครั้งนี้เขาเป็นตัวแทนของตระกูลในการพูดคุยเรื่องน้ำมันกับอาราฮาน แต่สุดท้ายกลับไม่สำเร็จ น้ำมันของอาราฮานมันเป็นอะไร เวลานี้ข่ายซ่ายืนอยู่ที่เดิมทว่าในสมองของเขากลับคิดจินตนาการชีวิตในอนาคตกับองค์หญิงแอนนี่ ในสถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่มีอารมณ์ถือสาเฉินเฟิงแล้ว ไม่แม้แต่จะมองเฉินเฟิง พาสาวผมบลอนด์ทองและบอดี้การ์ดทั้งแปดคนเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...