บทที่ 741 นิสัยของเทียนอิง
จากเรื่องนี้จึงเห็นได้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับการแข่งขันของเฉินเฟิงและจั่วจู้ จอมยุทธ์ที่เป็นตัวเต็งในการคว้าตำแหน่งแชมป์ทั้งสองคนอย่างอาเธอร์และวิลเลียมก็มาที่สนามแข่งขันด้วย
ในช่วงที่เหลือเวลาไม่ถึงสองก้านธูปก่อนการแข่งขัน พระสันตะปาปาแห่งคูเรียวาติกันและธิดาเทพทิฟฟานี่ก็มาถึงสนามแข่งขัน และคนที่มาพร้อมกันคือโมดริชเลขาธิการขององค์การศิลปะการต่อสู้ระดับโลก การมาของพวกเขาเกิดเป็นกระแสใหญ่โตพอสมควร
อาเธอร์และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเดินมุ่งไปยังพื้นที่สำหรับผู้เข้าแข่งขัน ส่วนพระสันตะปาปามุ่งไปยังพื้นที่วีไอพีภายใต้การดูแลของทิฟฟานี่และเลขาธิการโมดริช
“การแข่งขันรอบนี้คงน่าตื่นตาตื่นใจมาก คุณคิดว่ายังไงโมดริช?” ฉับพลันพระสันตะปาปาที่นั่งอยู่บนที่นั่งวีไอพีก็เอ่ยถามเลขาธิการที่อยู่ด้านข้าง
เลขาธิการโมดริชครุ่นคิดก่อนเอ่ย “กระผมคิดว่าจั่วจู้จากประเทศญี่ปุ่นจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้!”
“เอ๋? ทำไมคุณถึงสรุปแบบนั้นล่ะ?” คำตอบของเลขาธิการโมดริชเหนือความคาดหมายของพระสันตะปาปา อีกฝ่ายจึงอดที่จะเอ่ยถามเหตุผลไม่ได้
“เท่าที่ดูมา เฉินเฟิงจากประเทศหวาคนนั้นเผยความสามารถของตัวเองออกมาแล้ว เริ่มจากฆ่าหลี่ชางซีและรอน ต่อด้วยการดวลกับหงอี้ จึงเห็นได้ว่าเขาใช้พลังจนหมดแล้ว ด้านจั่วจู้นั้นไม่เหมือนกัน เขาคืออัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่แทบจะไม่ปรากฏตัว ที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ก็เพื่อมาฆ่าเฉินเฟิง!”
เลขาธิการโมดริชเอ่ยแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป “หลังจากได้เห็นฝีมือของเฉินเฟิงแล้ว จั่วจู้ยังคงยืนยันที่จะดวลกับเขา อีกทั้งยังกลัวว่าเฉินเฟิงจะถอนตัวก่อนจนต้องเอ่ยปากท้าทาย ส่วนเฉินเฟิงกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กระผมจึงคิดว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจั่วจู้!”
เรียกได้ว่าเลขาธิการโมดริชอธิบายอย่างละเอียดเลยทีเดียว เขาเพิ่งเอ่ยจบพระสันตะปาปายังไม่ทันได้เอ่ยปาก ธิดาเทพทิฟฟานี่ก็เอ่ยขึ้น “ท่านเลขาธิการ ท่านรู้ไหมว่าหลี่ชางซี รอนและหงอี้ แต่ละคนล้วนอวดเก่งและหยิ่งยโสแต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับเฉินเฟิงอยู่ดี อีกทั้งเท่าที่ฉันรู้มีอิทธิพลมากมายที่ต้องการชีวิตของเฉินเฟิง แต่สุดท้ายเฉินเฟิงก็รอดมาได้ตลอด ส่วนคนพวกนั้นกลับจากโลกนี้ไปก่อนแล้ว!”
“จริงหรือ เห็นที่ว่ากระผมจะพลาดข่าวไป ได้ฟังธิดาเทพวิเคราะห์เช่นนี้ ความคิดเห็นของผมที่ว่าจั่วจู้จะเป็นผู้ชนะเกิดการสั่นคลอนแล้วล่ะ!”เลขาธิการโมดริชเอ่ยปนหัวเราะ ทว่าใจเขากระตุกครั้งหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าทำไมธิดาเทพถึงรู้จักเฉินเฟิงดีขนาดนี้ อีกทั้งเมื่อสักครู่บทที่เขาบอกว่าเฉินเฟิงไม่มีทางชนะ สีหน้าของธิดาเทพปรากฏความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่แน่
“ฮ่าฮ่า ทิฟฟานี่พูดถูก ฉันก็คิดว่าเฉินเฟิงมีโอกาสเป็นผู้ชนะมากกว่า!” ขณะนั้นเองพระสันตะปาปาก็หันไปมองธิดาเทพทิฟฟานี่ด้วยสีหน้าประดับรอยยิ้ม ราวกับว่าเห็นความคิดของอีกฝ่ายอย่างทะลุปรุโปร่ง
ธิดาเทพทิฟฟานี่แก้มแดงเป็นริ้ว นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดวงตาคู่สวยสอดส่องไปยังด้านในสนามเพื่อตามหาร่างนั้น
แม้แต่คนในระดับพระสันตะปาปาและธิดาเทพยังถกเถียงกันเรื่องการแข่งขันในครั้งนี้ คนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนทั้งสนามไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ ผู้เข้าแข่งขัน คนระดับชั้นแนวหน้าหรือแม้แต่คนทั่วไปล้วนมีการถกเถียงผลการแข่งขันในครั้งนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น คนบางส่วนคิดว่าเฉินเฟิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง มีความสามารถแข็งแกร่งจะเป็นผู้ชนะ และก็มีคนที่คิดว่าอัจฉริยะที่หาตัวจับยากจากประเทศญี่ปุ่นอย่างจั่วจู้ที่ถูกส่งมาเพื่อฆ่าเฉินเฟิงนั้น ความสามารถคงไม่ธรรมดา
คนจำนวนมากกำลังถกเถียงกันอยู่จนเกิดเสียงดังวุ่นวาย ฉับพลันในสนามก็ครึกครื้นเป็นอย่างมาก
บรรยากาศในสนามครึกครื้นกว่าปกติ ทว่าคนที่เป็นตัวละครเด่นอย่างจั่วจู้ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเก๋งสีดำที่จอดสนิทคันหนึ่ง
กงปุ่นเหย่อู่เอ่ยปนหัวเราะ “จั่วจู้แกวางใจได้ อีกเดี๋ยวไอ้เฉินเฟิงก็มาแล้ว!”
พูดยังไม่ทันจบก็มีรถเอ็มพีวีคันหนึ่งขับเข้ามา กงปุ่นเหย่อู่และจั่วจู้รู้ว่าคนที่นั่งอยู่บนรถคันนั้นคือเฉินเฟิง
“อาจารย์วางใจได้ ผมจะเอาเลือดเฉินเฟิงมาล้างความอัปยศของประเทศญี่ปุ่นให้ได้!”
จั่วจู้มองรถคันที่ขับเข้ามาพลางแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น เขารอวันนี้มานานมากแล้ว
“ขับรถประสาอะไร ไม่มีตาหรือไง!” คนขับรถอดที่จะด่าออกมาไม่ได้
กระทั่งประตูรถเก๋งคันนั้นเปิดออก ก่อนที่เทียนอิงที่ยังมีผ้าพันแผลอยู่บนร่างกายจะกระโดดลงมาจากรถ
ชางโป๋จึงลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาก่อนเอ่ย “เทียนอิง ทำไมแกไม่นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล มาที่นี่ทำไม!”
“วันนี้เป็นการแข่งขันของเฉินเฟิงและไอ้ญี่ปุ่นนั่น ผมจะมาดูเฉินเฟิงจัดการมันด้วยตาตัวเอง!”
น้ำเสียงของเทียนอิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตและความคาดหวัง
การที่เทียนอิงมาถึงที่นี่ เฉินเฟิงไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้เทียนอิงจะเป็นคนพูดน้อยทว่าในใจลึกๆเป็นคนดื้อด้าน เขาแพ้อย่างคับข้องใจ ฉะนั้นการดวลระหว่างเฉินเฟิงและจั่วจู้จะขาดเขาไปได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตอนนี้เทียนอิงจะกระโดดขาเดียว ดูเหมือนว่าจะธรรมดาทว่ากระโดดได้ไกลและมั่นคงขนาดนี้ คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางทำได้ แม้แต่นักกีฬามืออาชีพบางคนก็ยังทำไม่ได้
เพื่อมาเป็นพยานดูเฉินเฟิงกำราบจั่วจู้ด้วยตาตัวเอง เขาถึงกับไม่สนใจคำเตือนของแพทย์และพยาบาล กระโดดขาเดียวออกมาจนถึงประตูโรงพยาบาลแล้วเรียกรถแท็กซี่มาที่นี่โดยเร็วที่สุด
“อืม ไหนๆก็มาแล้ว คงไม่ให้แกกลับไปอีกรอบหรอก!”
ชางโป๋ไม่ได้ยืนหยัดจะให้เทียนอิงกลับไป เพราะว่าเขารู้จักนิสัยของเทียนอิงดี ถึงแม้เฉินเฟิงจะชี้แนะเทียนอิงแล้วแต่ภายในใจของเทียนอิงก็ยังมีปมอยู่ หากได้ดูการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว ไม่แน่ว่าปมในใจของเทียนอิงอาจจะหายไปก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...