บทที่ 773 น้ำโสม
สีหน้าของเฉินเฟิงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ภายในใจหม่นหมอง เขารู้และเข้าใจความสามารถของตนเองทั้งยังรู้และเข้าใจความสามารถของอาเธอร์
ตอนประลองกับอาเธอร์ เขาใช้ประสบการณ์การต่อสู้มากมายที่สะสมมา ทำให้อาเธอร์คลายความระมัดระวัง จากนั้นค้นหาตำแหน่งที่เหมาะสมใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งทะลุฟ้า
แต่ว่าในตอนหลังเฉินเฟิงถามตัวเอง ถ้าหากตอนนั้นอาเธอร์ปฏิกิริยาตอบกลับเร็ว ใช้ตัดลมมฤตยูเหมือนกัน แม้เฉินเฟิงจะสามารถรับเอาไว้ ก็คงไม่สามารถทำให้อาเธอร์บาดเจ็บสาหัส เช่นนั้นผลการประลองจะไม่จบลงด้วยการพ่ายแพ้ของอาเธอร์อย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของวิลเลียมเหนือชั้นกว่าอาเธอร์
"เป็นยังไง ตอนนี้นายมั่นใจว่าสามารถเอาชนะวิลเลียมได้ไหม!”
เย่หนานเทียนสังเกตสีหน้าของเฉินเฟิงมาโดยตลอด เวลานี้เห็นสีหน้าของเฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
"ศิษย์พี่ ศิษย์พี่วางใจเถอะ ผมจะต้องชนะให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้กับศิษย์พี่!”
เฉินเฟิงกำหมัดแน่น ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะไม่ดังมากแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ความรู้สึกนี้คล้ายกับว่าเฉินเฟิงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะการประลองในครั้งนี้
"เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี!”
เย่หนานเทียนได้ฟังคำพูดของเฉินเฟิงภายในใจรู้สึกสบายใจมาก เขากังวลเล็กน้อยว่าเฉินเฟิงจะไม่มีความมั่นใจในการประลองครั้งนี้
"จริงด้วย บาดแผลที่เหลือทิ้งไว้ในการประลองเมื่อครั้งก่อนเป็นยังไงบ้าง?”
เย่หนานเทียนนึกถึงคำพูดของอู่จื้อโจว เวลานี้หันไปมองเฉินเฟิงพร้อมกับเอ่ยถาม
"ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ยารักษาบาดแผลที่ท่านอู่ส่งมาให้ผมใช้ไปแล้ว ตอนนี้บาดแผลฟื้นฟูได้ไม่น้อยแล้ว!”
คำพูดนี้เฉินเฟิงไม่ได้พูดตามความจริง บาดแผลจากการประลองเมื่อครั้งที่แล้วตอนนี้เขายังไม่หายทั้งหมด แต่เขาบอกเย่หนานเทียนไม่ได้
เพราะหากบอกไปตามความจริง นอกจากจะทำให้เย่หนานเทียนเป็นกังวล ไม่มีความหมายอื่นใดและไม่มีประโยชน์ใด เมื่อเทียบกับการเป็นแบบนั้นสู้โกหกแล้วทำให้เย่หนานเทียนสบายใจยังจะดีเสียกว่า
"ดี ไม่เป็นอะไรก็ดี!”
เย่หนานเทียนพยักหน้าก้อนหินที่กดทับอยู่ภายในใจในที่สุดก็ร่วงหล่นลงพื้นแล้ว
"เวลาพอประมาณแล้ว นายเก็บตัวถือศีลให้มั่นคงหนักแน่น!”เย่หนานเทียนพูดจบเตรียมจะเดินออกไป
เฉินเฟิงเดินขึ้นหน้าไม่กี่ก้าว เข็นวีลแชร์ของเย่หนานเทียนเพื่อเตรียมจะส่งเขาไปชั้นล่าง
ตอนที่เฉินเฟิงมาชั้นล่าง อู่จื้อโจว จีอู๋ฉาง ชางโป๋ อาจารย์ฟางเจิ้น เทียนอิงและจียุ่นล้วนรออยู่ตรงห้องโถงใหญ่
"เสี่ยวเฟิง ศิษย์พี่ของนายน่าจะเล่าสถานการณ์ทุกอย่างให้นายฟังแล้ว เป็นยังไง มีความมั่นใจว่าจะชนะวิลเลียมไหม!”
เมื่อเฉินเฟิงมาถึง อู่จื้อโจวถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
"ท่านอู่ ท่านรู้จักผมเป็นอย่างดี!”เฉินเฟิงไม่ได้พูดออกไปตรงๆ แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
"อื้ม ดี!”
อู่จื้อโจวพยักหน้า เพราะเขารู้จักเฉินเฟิงเป็นอย่างดี ดังนั้นคำพูดของเฉินเฟิงในตอนนี้ อู่จื้อโจวจึงเชื่อมาก
"เสี่ยวเฟิงเป็นศิษย์น้องของนาย นายน่าจะรู้จักเขาดีกว่าฉัน แต่จากที่ฉันเข้าใจ เขาไม่น่าจะใช่คู่ต่อสู้ของวิลเลียม ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความมั่นใจแบบนี้!”
หลังจากอู่จื้อโจวและเย่หนานเทียนพวกเขาเดินออกไปนั้น อู่จื้อโจวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยพูดกับเย่หนานเทียน
"ความมั่นใจของเขามาจากอะไร ฉันเองก็ไม่รู้แน่ชัด แต่ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา!” แววตาของเย่หนานเทียนทอดมองไปไกลด้วยความมุ่งมั่น
ตามฤทธิ์ยาของน้ำโสม ผิวหนังของเฉินเฟิงมีของเหลวสีดำออกมา
ของเหลวสีดำนี้คือสิ่งสกปรกภายในร่างกาย ต้องขจัดของสกปรกเหล่านี้ออกมานอกร่างกายเท่านั้นจึงจะทำให้บาดแผลหายดี
กลิ่นเหม็นคาวคลุ้งไปทั่วห้อง เฉินเฟิงไม่อาจสนใจอะไรมากมายได้ทำได้เพียงใช้พลังภายในเผาผลาญน้ำโสม
กระบวนการนี้ดำเนินการติดต่อกันนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ความเจ็บปวดค่อยๆลดลง แต่ก็ยังคงมีอยู่
หลังจากฤทธิ์ยาของน้ำโสมหมดไป บาดแผลของเฉินเฟิงหายดี อีกทั้งความสามารถของร่างกายก็เพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย
เฉินเฟิงเข้าใจหลักเหตุผลที่ว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ดังนั้นเขาจึงเม้มกัดฟันแน่นอดทนเอาไว้ หลังจากรักษาบาดแผลเรียบร้อยเฉินเฟิงคนใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นมา
การแข่งขันขององค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกดำเนินจนใกล้จะถึงตอนจบแล้ว เหลือเพียงการประลองรอบสุดท้าย ดังนั้นนอกจากผู้คน ผู้เข้าแข่งขันบางคนก็กลับกันไปหมดแล้ว โรงแรมขนาดใหญ่จึงดูว่างเปล่าเล็กน้อย
ถึงแม้จะบอกว่าภายในโรงแรมดูว่างเปล่า แต่ภายนอกโรงแรมกลับครึกครื้นมาก เวลานี้มีจอมยุทธ์และผู้ชมมากมายรวมตัวกัน พวกเขามาจากทั่วทุกมุมโลก ตอนนี้มาถึงที่นี่เพื่อจะดูท่วงท่าอันสง่างามของเฉินเฟิง
ทว่านับตั้งแต่เฉินเฟิงเข้าไปในโรงแรมเขาก็ไม่ออกมาอีกเลย มีจอมยุทธ์บางคนคาดเดาว่าเฉินเฟิงกำลังเก็บตัวถือศีล อีกทั้งยังมีข่าวลือไม่ดีที่ว่าเฉินเฟิงไม่สามารถเอาชนะวิลเลียมได้จึงกลับไปก่อน
เรื่องของพวกเขาหยุดเอาก่อนยังไม่พูดถึง ห้องภายในโรงแรม เวลานี้เฉินเฟิงนอนหอบอยู่บนเตียง
ผ่านการฟื้นฟูมากว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดเฉินเฟิงก็เผาผลาญน้ำโสมจนหมด อีกทั้งบาดแผลในร่างกายก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง
"เสี่ยงจริงๆ!”
เฉินเฟิงหวนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ภายในใจของเขารู้สึกหวาดกลัว ตอนที่น้ำโสมเข้าสู่ร่างกาย เขารู้สึกเหมือนกลืนกินลูกไฟขนาดใหญ่เข้าไป อวัยวะในร่างกายคล้ายกำลังถูกแผดเผา ความเจ็บปวดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทนรับไว้ได้ แม้แต่เฉินเฟิงก็ยังเจ็บจนหมดสติไป
เพียงแต่เฉินเฟิงผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายมาก ความเจ็บปวดแค่นี้เขาสามารถรับเอาไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...