ลูกเขยมังกร นิยาย บท 860

ตอนนี้เซียงหลันเตรียมรับโชคชะตาชีวิตของตัวเองแล้ว เพราะในยามที่อยู่ต่อหน้าพลังอันเด็ดขาดแบบนี้ การต่อต้านล้วนไร้ประโยชน์ทั้งนั้น

เธอเหลือบมองไปยังประตูห้องที่ถูกปิดอยู่ พร้อมหวังว่าหญิงสาวที่อยู่ในนั้นจะไม่ออกมาเด็ดขาด แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เธอไม่ต้องการมากที่สุดกลับเกิดขึ้นแล้ว

“คุณห้ามฆ่าเธอนะ” หญิงสาวยืนตะโกนอยู่หน้าประตูห้อง

ตู๋กูหยุนสะดุ้งโหยงพลางมองไปยังหญิงสาวคนนั้น พร้อมกล่าวถาม : “คุณเป็นใครอีก?”

“ฉันชื่อว่าเชียนเสี่ยวหยุน เป็นเพื่อนของเธอ” เชียนเสี่ยวหยุนรวบรวมความกล้ากว่าจะเอ่ยปากกล่าวต่อ : “คุณปล่อยเธอไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะหาคนมาตามฆ่าคุณ”

ด้านตู๋กูหยุนเหมือนกับได้ยินเรื่องที่สุดแสนจะตลก ก่อนที่เขาจะหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ : “คุณกำลังรนหาที่ตายหรือไง?”

เซียงหลันเองก็พยายามดิ้นรนตะโกนออกมา: “คุณ……จะฆ่าเธอไม่ได้ เธอนามสกุลเชียน”

เมื่อสักครู่นี้ยังไม่ทันได้สงสัย แต่เมื่อได้ยินเซียงหลันกล่าวเตือน ตู๋กูหยุนถึงกับต้องกลับมายั้งคิดอีกครั้ง

นามสกุลเชียนเดิมทีก็เป็นเพียงแค่นามสกุลเล็กๆ เท่านั้น แต่หากอยู่ในทะเลทรายนี้กลับมีความหมายที่แตกต่างออกไป เพราะถ้าหากบอกว่าหมาป่าทะเลทรายเป็นนักล่าแห่งทะเลทรายแห่งนี้ อย่างนั้นตระกูลเชียนก็นับว่าเป็นจักรพรรดิแห่งทะเลทราย

ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกษัตริย์ ทางฝั่งทะเลทรายจึงมีจักรพรรดิ

ซึ่งอำนาจถือเป็นสัจธรรมสำคัญเพียงหนึ่งเดียวในโลกใบนี้

“คุณเป็นคนตระกูลเชียน?” ตู๋กูหยุนพึมพำออกมา

“คุณปล่อยเธอไป แล้วฉันจะให้เธอเอาของคืนให้คุณ ไม่อย่างนั้นฉันจะหามาฆ่าคุณจริงๆ ” หญิงสาวพูดอย่างแข็งกร้าว ซึ่งไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้มีความแข็งแกร่งแบบนั้นซ่อนอยู่ในร่างอันบอบบางนั้นของเธอได้

ตู๋กูหยุนจ้องมองไปยังสบถนเสี่ยวหยุน จากนั้นจึงนิ่งเงียบไปหลายวินาที ก่อนที่เขาจะพูดอีกครั้ง : “คุณเป็นคนตระกูลเชียนจริงงั้นหรอ?แต่ว่าต่อให้ผมฆ่าพวกคุณที่นี่ก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี”

นี่ช่างเป็นความคิดที่ชั่วร้ายจริงๆ แม้แต่ในตอนที่เขามองเชียนเสี่ยวหยุน แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้นเขาจึงเดินกำหมัดค่อยๆ เข้าไปหาเชียนเสี่ยวหยุนทีละก้าวๆ ราวกับว่าจะทำให้ความคิดของเขากลายเป็นความจริงเสียอย่างนั้น

“คุณ……คิดจะทำอะไร?” เชียนเสี่ยวหยุนหวาดกลัวจนเดินถอยกลับเข้าไปด้านในห้อง

“ถ้าหากว่าคุณฆ่าเธอ ตระกูลเชียนไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่ การใช้ชีวิตของพวกเราสองคนเพื่อแลกกับชีวิตของคุณ ก็ถือว่าคุ้มค่าเหมือนกัน” เซียงหลันหัวเราะอย่างเยือกเย็น

ตู๋กูหยุนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักฝีเท้าลง ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินกลับไปยังหน้าของเซียงหลัน แล้วตวาดฝ่ามือตบหน้าของเธอโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ

“ยัยตัวดี” เขาสบถคำด่าออกมา

เซียงหลันพยายามอดกลั้นกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า พร้อมทั้งมุมปากสามารถรับรู้ถึงรสชาติความหวานจากเลือดที่ไหลออกมาเมื่อสักครู่นี้ แต่ว่าเธอเพียงแค่มองหน้าตู๋กูหยุนด้วยความเกลียดชังเท่านั้น เพราะในใจของเธอคิดว่าอย่างไรเสียตู๋กูหยุนคงจะไม่มีทางลงมือแตะต้องเชียนเสี่ยวหยุนแน่นอน

“แม่งเอ้ย คุณนี่ดวงแข็งซะจริง” ตู๋กูหยุนสบถคำด่าใส่เซียงหลันอีกครั้ง

แต่ถึงต่อให้ครั้งนี้จะเอาชีวิตรอดไปได้ ยังไงซะเซียงหลันก็ยังอยากจะนำเอาลูกเหยียนหยุนนั้นออกมาให้เขาอยู่ดี ส่วนเชียนเสี่ยวหยุนที่อยู่ด้านในห้องนั้นก็อยากจะเข้าไปห้ามตู๋กูหยุนไม่ให้เขาทำแบบนั้นกับเซียงหลัน

แต่เป็นเพราะว่าความหวาดกลัวเมื่อสักครู่นี้ทำให้ขาของเธออ่อนแรงไปหมด ในใจสับสนจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก

เธอนามสกุลเชียนนั้นไม่ผิด และเป็นคนตระกูลเชียนก็จริง แต่เดาว่าตู๋กูหยุนคงจะไม่มีทางรู้ว่าที่จริงแล้วเธอเป็นเพียงคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับตระกูลเชียนเท่านั้น

เธอถูกเลี้ยงดูมาในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ โดยไม่เคยได้รับอิสระเลย เพราะคนตระกูลเชียนไม่อนุญาตให้เธอออกไปแสดงตัวตน ด้วยสาเหตุที่ว่าจะทำให้ตระกูลเชียนเสื่อมเสียชื่อเสียง

และในขณะเดียวกันก็ไม่เคยมีคนตระกูลเชียนมาเยี่ยมดูเธอเลย เพราะการมีอยู่ของเธอนั้นมีแต่ทำให้คนตระกูลเชียนเกลียดชังเท่านั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะเหตุผลบางอย่าง สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในการตายของเธอคงจะเป็นฝีมือของคนตระกูลเชียนแน่นอน

แต่ว่าตอนนี้ การที่สามารถใช้นามสกุล “เชียน” เพียงคำเดียวก็สามารถช่วยชีวิตเซียงหลันได้ เธอก็คิดว่ามันคุ้มค่ามากแล้ว

เธอพูดพึมพำด้วยเสียงต่ำๆ : “นี่อาจจะถือเป็นความช่วยเหลือครั้งยิ่งใหญ่ของนามสกุลนี้ที่มีต่อฉันแล้ว”

เฉินเฟิงก้มหน้าลงมองเม็ดหินในมือ ซึ่งนับว่ามันเป็นอัญมณีที่มีความสวยงามมากจริงๆ แล้วเมื่อนึกถึงตู๋กูหยุนที่ไล่ฆ่าเซียงหลันเพื่อก้อนหินเม็ดนี้แล้วก็รู้สึกราวกับว่ามันไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่เลย

หรือว่าหินก้อนนี้จะมีความลับแปลกประหลาดบางอย่างกันแน่ แต่เมื่อลองสำรวจรูปลักษณ์ของหินก้อนนี้แล้วเฉินเฟิงกลับไม่พบอะไรน่าสงสัยเลย

แรงลมจากหมัดนั้นรุนแรงอย่างมาก จนในทุกๆ ครั้งจะมีเสียงทะลุอากาศออกมาราวกับว่าหมัดนั้นได้ระเบิดอากาศ

ทางด้านเฉินเฟิงที่ไม่กล้าปะทะโดยตรง จึงเพียงพยายามหลบหลีกไปมาเท่านั้น และนั่นจึงทำให้หมัดที่ตู๋กูหยุนตวาดออกมาไปโดนเข้ากระจกรถที่อยู่ข้างๆ เฉินเฟิงจนแตกกระจาย ก่อนที่เสียงเตือนของรถจากส่งเสียงดังออกมา

และคนที่อยู่บริเวณโดยรอบจึงพากันหันมามองทางพวกเขาทันที

เฉินเฟิงตะโกนออกมา: “หากพวกเราสู้กันตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนจะยิ่งมามุงดูมากขึ้นแน่”

ทว่าตู๋กูหยุนกลับตอกกลับอย่างเฉยเมย: “วันนี้ไม่ว่าใครจะมา คุณก็จะต้องตายด้วยเงื้อมของผม”

ในขณะที่พูด ตู๋กูหยุนก็ทำหน้าต่างกระจกอีกบานแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นแบบนี้ จึงทำให้มีคนหันมามุงดูมากขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

เฉินเฟิงตะโกนออกมาอีกครั้ง: “เปลี่ยนไปสู้กันที่อื่นเป็นไง การอยู่ที่นี่แล้วถูกคนอื่นมองเหมือนตัวเองเป็นลิงแบบนี้ ผมไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นหรอกนะ”

เมื่อพูดจบเขาก็ตวาดเท้าเตะไปยังบริเวณเป้าล่างของตู๋กูหยุนทันที

หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายต่อกร เขาจึงหันไปมองบริเวณโดยรอบจึงเห็นว่ามีคนจำนวนมากจริงๆ จึงพูดขึ้น : “หลังจากนับหนึ่งสองสาม ทุกคนต้องหยุดพร้อมกัน แล้วพวกเราค่อยไปต่อสู้กันที่อื่น”

เฉินเฟิงยิ้มรับ: “ได้ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”

จากนั้นตู๋กูหยุนจึงเริ่มนับเลข

“หนึ่ง”

ถึงแม้ปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่แขนขากลับไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย ราวกับว่าแทบจะรอไม่ไหวที่จะฆ่าเฉินเฟิงให้ตายภายในสามวินาทีนี้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร