@หลายวันต่อมา
"ทำไมหนูขี้เซาจังเลยตัวเล็ก ไม่อยากเล่นกับแด๊ดแล้วเหรอ เบื่อจะฟังแด๊ดพูดแล้วเหรอครับ" คาเรนเท้าคางถามลูกสาวตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟาด้วยน้ำเสียงเง้างอดติดน้อยใจ ขณะที่ตัวเองนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น เมื่อเห็นลูกสาวยังนอนหลับปุ๋ยจึงยื่นใบหน้าเข้าไปขบเม้มฝ่าเท้าน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงเท้าเบาๆเป็นเชิงหยอกเย้า เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอิงดาวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว
"นี่ใจคอจะให้ลูกตื่นมาเล่นด้วยทั้งวันเลยรึไง"
"ก็แค่อยากเล่นกับลูก" หญิงสาวส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับคำตอบของชายคนรัก ก่อนจะเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงข้างๆลูกสาว พร้อมกับยื่นถ้วยกาแฟให้คาเรน
"เมียฉันนี่ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ" มาเฟียหนุ่มชมเปาะอย่างประจบ พร้อมยื่นมือเข้าไปรับถ้วยกาแฟมาถือเอง ทว่าในจังหวะที่กำลังจะยกดื่ม แขกไม่ได้รับเชิญก็เดินเข้ามาเสียก่อน
"สวัสดีครับคุณคาเรน สวัสดีครับน้องอิง" ชานนท์ทักทายเจ้าของบ้านอย่างสนิทสนม แต่คาเรนกลับทำหน้าเซ็งที่เห็นนายแพทย์หนุ่มเดินเข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะ ต่างจากอิงดาวที่ยิ้มแย้ม ส่งยิ้มทักทายชานนท์อย่างสนิทสนม
"ตัวเล็กนอนหลับเหรอครับ ไหนขอหมออุ้มหน่อยได้ไหม" ไม่ว่าเปล่าแต่ชานนท์ยังเดินเข้ามาอุ้มเฟรย่าที่กำลังนอนหลับปุ๋ยขึ้นแนบอก ทำเอาคาเรนนิ่งอึ้งไปเมื่อลูกสาวตัวน้อยโดนผู้ชายคนอื่นถูกเนื้อต้องตัว เขากำถ้วยกาแฟในมือแน่นราวกับจะบีบมันให้แหลกลาญคามือ ก่อนจะเงยหน้ามองชานนท์อย่างเดือดดาล
"มึงอยากตายเหรอไอ้หมอ!"
"คะ..ครับ?" ชานนท์ขมวดคิ้วมึนงง
"มึงเป็นแค่คนตัดสายสะดือ มึงไม่มีสิทธิ์มาอุ้มลูกกูแบบนี้! วางลูกกูลงแล้วชีวิตมึงจะปลอดภัย"
"เอ่อ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเฟรย่าเลยนะครับ"
"แค่มึงหายใจรดต้นคอลูกกูมึงก็ผิดแล้ว วางลูกกูลงเดี๋ยวนี้! หรือต้องให้กูใช้กำลัง"
"นี่เมื่อไหร่นายจะเลิกกัดพี่หมอสักทีเนี่ย" อิงดาวที่นั่งมองมาสักพักพูดขึ้นอย่างเหลืออด ทำให้ชานนท์ที่กำลังจะวางเฟรย่าลงสบโอกาสกอดกระชับเด็กน้อยให้แน่นขึ้น ทว่าเสียงโวยวายของคาเรนก็ทำให้เฟรย่าค่อยๆลืมตาตื่น
"ฉันไม่ชอบให้มันถูกเนื้อต้องตัวเฟรย่า"
"พี่หมอเขาเป็นหมอนะ เขาอุ้มเด็กมาหลายคนจนนับไม่ถ้วนแล้ว นายเลิกบ้าสักทีเถอะน่า"
"มันจะอุ้มลูกของใครกี่คนก็เรื่องของมัน แต่ลูกของฉัน ฉันไม่อนุญาต!" คาเรนเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ พร้อมกับวางถ้วยกาแฟไว้บนโต๊ะหมายจะลุกขึ้นไปแย่งลูกสาวตัวน้อยมาจากอ้อมแขนของชานนท์ ทว่าภาพที่เห็นก็ทำให้เขาชะงักไป
"แอ๊ะ~" ฝ่ามือน้อยๆยื่นขึ้นไปสัมผัสริมฝีปากของนายแพทย์หนุ่มเบาๆราวกับทักทาย เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากชานนท์ได้เป็นอย่างดี
"ว่าไงครับ" เขาส่งยิ้มให้เฟรย่า พร้อมกับขบเม้มนิ้วน้อยๆของเธอเบาๆเป็นการทักทายกลับ เพียงแค่นั้นเด็กน้อยก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"แอ๊ะ~" ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าชานนท์มาก่อน แต่เฟรย่ากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวหรือร้องไห้เมื่อต้องอยู่ในอ้อมแขนของชานนท์ นั่นยิ่งสร้างความไม่พอใจให้คาเรน เพราะเขารู้สึกว่ากำลังจะโดนแย่งความสนใจจากลูกไป
"มึงมาทางไหนรีบไสหัวกลับไปทางนั้นเลย" มาเฟียหนุ่มกระชากตัวลุกขึ้น แล้วรีบแย่งลูกสาวตัวน้อยมาจากอ้อมแขนของชานนท์ ทำเอาอิงดาวถอนหายใจพรืดใหญ่กับความหวงลูกสาวเกินเหตุของคาเรน
"ผมแค่แวะเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาให้ครับ" นายแพทย์หนุ่มหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋ากางเกง ยื่นให้คาเรนด้วยสีหน้าตึงเครียด
"นี่รวมหัวกับมันแกล้งฉันเหรอ!"
"อันที่จริงเป็นความคิดของน้องอิงครับ ผมแค่ตามน้ำเฉยๆ" ชานนท์โพล่งขึ้น
"รอให้แผลเธอหายดีก่อนเถอะ เธอโดนลงโทษหนักแน่ยัยเด็กเลี้ยงแกะ" คาเรนคาดโทษเสียงเขียว แต่อิงดาวกลับหัวเราะในลำคอเบาๆ ไม่ได้หวาดกลัวคำขู่ของคาเรนเลย
"แอ๊ะ~" เด็กน้อยยิ้มหวานราวกับถูกอกถูกใจน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของผู้เป็นพ่อ
"มึงกลับไปได้แล้ว กูต้องการความเป็นส่วนตัวกับเมียกับลูกกู"
"กลับก็ได้ครับ" เขาวางซองเอกสารสีน้ำตาลซึ่งเป็นผลการตรวจดีเอ็นเอไว้บนโต๊ะ แล้วเดินอ้อมไปหาเฟรย่าที่กำลังนอนตาแป๋วซบพวงแก้มกับบ่าแกร่งของผู้เป็นพ่อ
"หมอกลับก่อนนะครับ" เพราะทนต่อความน่ารักของเด็กน้อยไม่ไหวชานนท์จึงแอบยื่นใบหน้าเข้าไปขโมยหอมแก้มป่องเบาๆ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากอิงดาวที่กำลังนั่งมองอยู่
"มึงทำอะไรลูกกู" คาเรนเอี้ยวหน้ากลับไปถาม
"บอกลาตัวเล็กเฉยๆครับ" ชานนท์ยิ้มสู้กลบเกลื่อนความผิด ก่อนจะเบนสายตาไปหาอิงดาว "พี่กลับก่อนนะ ถ้ามีอะไรจะปรึกษาก็โทรหาพี่ได้ตลอดนะ"
"ขอบคุณค่ะพี่หมอ ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ" อิงดาวโบกมือลา ทำให้ชานนท์รีบเดินเลี่ยงออกไป เพราะกลัวโดนคาเรนจับได้ว่าแอบหอมแก้มลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน