กานดาออกมานั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะหินหน้าโรงพยาบาล เธอพยายามติดต่อหาพลอยขวัญ แต่ก็ติดต่อไม่ได้สักทาง พอพลอยขวัญลงจากรถก็รีบวิ่งเข้าไปหากานดาทันที จุดที่กานดานั่งอยู่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล
“พี่ดา!” หญิงสาวร้องเรียก คนที่นั่งอยู่เงยหน้ามองพลอยขวัญ
“ยายเสียแล้ว เธอไปไหนมา!” กานดาบอกพลอยขวัญกึ่งตวาดทั้งน้ำตา เสียงเคลือแหบแห้ง ทันทีที่เห็นหลานสาวคนเดียวของยายพรก้าวเข้ามา
ขาของพลอยขวัญอ่อนแรงลง ทรุดฮวบลงกับโต๊ะหิน ทันทีที่เธอก้าวมาถึงโรงพยาบาลและได้รับข่าวร้าย เลขาสาวของกริชสุดหนทางที่จะถ่วงเวลาให้นายกลับมาถึงก่อน จำต้องพาพลอยขวัญมาที่โรงพยาบาลเอง
เป็นความบังเอิญที่โรงพยาบาลที่ยายของพลอยขวัญเข้ารับการรักษา เป็นโรงพยาบาลรัฐใกล้ๆ กับโรงแรมที่กริชบริหารงานอยู่ เมื่อมาไม่ทันชายหนุ่มก็สั่งให้เลขาสาวไปจัดการแทน และเขาตามมาสมทบที่โรงพยาบาล
กานดามองพลอยขวัญอย่างไม่พอใจ หล่อนกลับมาร้องขอให้เธอกับยายพรเชื่อใจ แต่กลับหายไปสองคืนเต็ม ปล่อยให้ยายต้องทุกข์ใจจนสิ้นลมไปเงียบๆ ไม่ได้สั่งเสีย มีแต่รอยคราบน้ำตาอาบสองแก้มเหี่ยวๆ
“ทำไมกลับมาป่านนี้” กานดาขึ้นเสียงแหลม หันไปมองผู้ชายที่เดินตามเข้ามาทีหลังอีกคน พลอยขวัญยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเดินตามเข้ามา
“ผู้ชายคนนี้ใช่ไหมที่พลอยไปแย่งเขามา จนคุณศยาต้องมาอาละวาดด่ายายจนถึงโรงพยาบาล”
“พี่ดาว่าอะไรนะคะ”
“พี่ถามว่าที่พลอยหายไปสองวันไปกับผู้ชายคนนี้ใช่มั้ย” กานดาถามเสียงดังกึ่งตวาดด้วยความโมโห เธอรักยายพรเหมือนแม่คนหนึ่ง และรักพลอยไม่น้อยกว่ายาย แต่สิ่งที่พลอยขวัญทำมันเลวร้ายมากจริงๆ
“ไม่ใช่นะคะ” พลอยขวัญส่ายหน้าปฏิเสธ
“แล้วมันยังไง ถึงได้หายไปสองวัน ทั้งที่ยายป่วยแหมบรอการรักษาอยู่บนเตียง จิตใจพลอยทำด้วยอะไร”
พลอยขวัญปล่อยธารน้ำตาออกมา เพราะเธอเองที่ทำให้ยายต้องเสียใจ และที่ยายเสียก็เพราะเธอ
“พลอยขอโทษ...”
“ขอโทษตอนนี้จะทำให้อะไรดีขึ้นมามั้ยพลอย” กานดาบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน “พี่เสียใจที่หลงคิดว่าพลอยเป็นคนดี รักและเป็นห่วงยาย แต่ถึงตอนนี้ พี่เชื่อสนิทใจว่าสิ่งที่คุณศยามลพูดมีเค้าความจริง”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ...คุณพลอยป่วยจริงๆ” ชายหนุ่มแทรกขึ้น
“ก็เพราะอยู่ด้วยกัน คนรวยเห็นแก่ตัว ส่วนคนจนก็ไม่เจียมลืมกำพืด ทะเยอทะยาน ถ้ายังสำนึกได้ก็ช่วยจัดงานศพให้ยายด้วย คนรวยคงทำได้สบาย เว้นเสียว่าคนบางคนจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นลูกคนใช้ หลานคนใช้” กานดาต่อว่าก่อนที่นางจะเดินออกไป
“พี่ดา...” พลอยขวัญรำพึงตามเสียงเจือสะอื้น ลมในช่องท้องของเธอขาดเป็นห้วงๆ จนเป็นลมล้มพับไปอีกครั้ง ยังดีที่เลขาสาวของกริชยืนอยู่ใกล้ๆ รับเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มพับตกเก้าอี้
แขกเหรื่อหลอมแหลมมานั่งฟังสวดอภิธรรม คนในบ้านกนกนารายไม่เหยียบย่างมาขออโหสิกรรมกับศพสักคน มีเพียงคนใช้มาช่วยงาน กานดามาช่วยงานแต่ก็ยังมึนตึงกับพลอยขวัญ ญาติเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ยืนไหว้ส่งแขกอยู่หน้างาน หลังจากวันนี้ไปเธอก็เหมือนเหลืออยู่ตัวคนเดียวในโลก
จนเวลาผ่านไปจนกระทั่งแขกทยอยกลับกันหมดพลอยขวัญนั่งมองโลงศพด้วยสีหน้าหงอยเศร้า น้ำตาเริ่มปริ่มขอบไหลพังทลายออกมาอีกครั้ง เธอปล่อยธารน้ำตาออกมาอย่างไม่อาจห้าม มือใหญ่ของบางคนวางโอบไหล่อย่างปลอบโยน
พลอยขวัญหันหน้ากลับมามอง
“นายหัว!”
“ผมเสียใจด้วยนะพลอย”
“พลอย...พลอย...ใจเย็นๆ นะครับ คิดถึงลูกในท้องบ้าง”
คำว่า “ลูก” ทำให้พลอยขวัญหยุดเหมือนถูกสาป เขารู้ว่าเธอกำลังท้อง พอได้สติ พลอยขวัญก็ยกมือดันหน้าอกของชายหนุ่มออกจากตัว
ชายหนุ่มอมยิ้มไม่พูดอะไรออกมา แต่จูงมือพลอยขวัญไปที่กระถางธูปหน้าโลงศพยายพร จูดธูปและพนมมือไหว้ขอขมา
“ยายครับ...ผมมาขอโทษและขอขมา ขออโหสิกรรมกับเรื่องทั้งหมดที่ผมทำกับพลอย และเป็นต้นเหตุให้ยายต้องเสียใจ พลอยไม่ผิดสักเรื่อง ผมผิดคนเดียว ยายยกโทษให้พลอยนะครับ ที่ผ่านมาผมทำผิด แต่ต่อจากนี้ไปผมสัญญาว่าจะดูแลพลอยขวัญเป็นอย่างดี รักให้เท่าชีวิตของผม ยายไม่ต้องห่วงพลอยนะครับ” ชายหนุ่มปักธูปลงบนกระถาง และกราบศพ
พลอยขวัญหันไปมองหน้าคนพูด
“ผมมีเรื่องอยากคุยกับพลอยหลายเรื่อง คิดถึงพลอยมาก ปะการังก็รอพลอยกลับทุกวัน นี่ก็ฝากมาบอกแม่พลอยของเธอว่าปะการังเป็นเด็กดีให้แม่พลอยรีบกลับ”
“คุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่มีเรื่องที่ต้องคุยกับคุณ เรื่องทะเบียนสมรส ฉันฝากคุณทนายที่สวนปาล์มของคุณจัดการแทนแล้ว ถ้าต้องเซ็นเอกสารก็ส่งมาให้ก็แล้วกัน” พลอยขวัญบอกเสียงเรียบ แววตานิ่งเฉยเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ในอกมิดชิด
“คุณโกรธอะไรผม เป็นผมมากกว่าที่ต้องโกรธคุณนะพลอย ไม่ยอมปริปากบอกอะไรสักอย่าง ปล่อยให้คนพวกนั้นข่มเหงรังแกโดยไม่ตอบโต้ และยังยอมให้ผมเข้าใจผิดอีก” ชายหนุ่มจ้องตาหญิงสาวนิ่ง
“นี่ยังไม่รวมกับที่คุณถอดแหวนแต่งงาน แล้วเซ็นเอกสารขอหย่าอีกนะ คุณเคยรักผมบ้างไหม พอจะมาก็มาง่ายๆ”
“โกรธ!...” หญิงสาวทวนคำพูดของเขา
“ใช่...คุณโกรธอะไร ทั้งที่คุณเป็นคนผิดนะพลอย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ
สนุกน่ะ...