“พ่อค่ะ โนโนะเจ็บมากเลย! โนโนะจะตายอยู่แล้ว...”
“โนโนะไม่รักษาแล้วได้ไหม?”
“โนโนะไม่อยากเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว แล้วก็ไม่อยากให้พ่อต้องมาเสียเงินกับโนโนะแล้วด้วย”
“พาโนโนะกลับบ้านหน่อยได้ไหม? โนโนะอยากกลับบ้าน…โนโนะอยากกลับบ้านจริง ๆ นะ…”
ในห้องไอซียู มีคนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกำลังนอนอยู่ที่นั่น ใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีความน่ารักจิ้มลิ้มแต่เดิมนั้นซีดเผือดไปหมด แต่กลับมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกอยู่ตลอดเวลา มีจุดเลือดออกทั่วร่างกาย! !
มือเล็ก ๆ ข้างหนึ่งพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายคว้ามือของเย่เฟิงเอาไว้ ดวงตาที่กลมโตของเธอแสดงออกถึงความรู้สึกเจ็บปวดและความคิดถึงอาวรณ์พ่อของเธอ!
ดวงตาของเย่เฟิงแดงก่ำ เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับโดนเข็มทิ่มแทงอย่างไรอย่างนั้น ความเจ็บปวดนั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าบาดแผลที่ถูกมีดแทงที่ไตด้านซ้ายของเขาเป็นร้อยเป็นพันเท่า
“โนโนะลูกรัก พ่อจะหาทางรักษาลูกให้หายให้ได้ เมื่อลูกอาการดีขึ้นแล้ว พ่อจะพาโนโนะกลับบ้าน แล้วก็จะทำปีกไก่โค้กให้โนโนะด้วย โอเคไหม?”
เย่เฟิงจับมือเล็ก ๆ ข้างนั้นเอาไว้ เขาพูดด้วยเสียงสะอื้น
“พ่อโกหก โนโนะรู้ว่าไม่มีทางรักษาให้หายได้ พ่อเก็บเงินไว้เถอะ หากโนโนะตายแล้วพ่อก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนะ”
“พ่อ พ่อไม่ต้องมาเสียเงินกับโนโนะอีกแล้ว…”
หลังจากที่พูดจบ เด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก แล้วก็ถอดหยกรูปมังกรออกมาจากคอของเขา
“หยกนี้โนโนะจะแขวนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก พ่อเอาไปแขวนเถอะ ขอมันปกปักษ์รักษาคุ้มครองพ่อนะ!”
จี้หยกนี้เป็นของที่ระลึกที่พ่อของเย่เฟิงเก็บเอาไว้ให้ ว่ากันว่าเป็นของที่บรรพบุรุษของตระกูลเย่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มันสามารถทำให้หายจากโรคภัยและคุ้มกันสิ่งชั่วร้ายได้
หลังจากที่โนโนะล้มป่วย เย่เฟิงก็สวมจี้หยกนี้ให้กับเด็กน้อย โดยหวังว่ามันจะปกป้องเธอได้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า การที่ทำให้หายจากโรคภัยและคุ้มกันสิ่งชั่วร้ายได้อะไรเหล่านี้ จะเป็นเพียงแค่การนึกคิดเท่านั้น!
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เย่เฟิงก็รู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดลงมาที่กลางใจอย่างไรอย่างนั้น เขากำจี้หยกที่ยังมีอุณหภูมิร่างกายของโนโนะอยู่เอาไว้ในมือแน่น น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
โนโนะอายุเพียง5ขวบ แต่กลับมีเหตุผลอย่างมาก
แต่ยิ่งเจ้าตัวน้อยรู้เรื่องมากเท่าไหร่ เย่เฟิงก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจมากขึ้นเท่านั้น!
หน้าอกของเขาแน่นไปหมดจนเขาแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว ซึ่งมันทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าไปเสียตอนนี้เลย!
การที่ลูกสาวมาอยู่กับพ่อที่ไร้ประโยชน์อย่างเขา มันทำให้เธอไม่มีโอกาสได้เสพความสุขกับโลกใบนี้ เธอก็เลยกำลังจะจากไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ไม่นะ! ไม่จริง!
เขายอมเสี่ยงชีวิต ยอมเสียหน้า ก็เพื่อต้องการให้ลูกสาวของได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
“คุณเย่คะ ค่าใช้จ่ายที่คุณจ่ายไปครั้งที่แล้วได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้วนะคะ ยังต้องการรักษาอีกไหมคะ? อาการของลูกสาวคุณในตอนนี้ หากได้รับการรักษาด้วยยาพิเศษ เธออาจจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองสามวัน บางทีภายในช่วงหลายวันนี้ อาจจะพบไขกระดูกที่ตรงกันก็ได้นะคะ”
แพทย์ที่ดูแลของโนโนะถามเย่เฟิงด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย
“รักษา! ต้องรักษาอยู่แล้ว!หมอจ้าวครับ โปรดให้ยาพิเศษแก่ลูกสาวของผมต่อด้วยนะครับ! ผมขอร้องเถอะนะครับ! โนโนะจะตายไม่ได้ ลูกผมจะตายไม่ได้เด็ดขาด!”
เย่เฟิงจับแขนของหมอไป เขาขอร้องอ้อนวอนด้วยเสียงที่ร้อนใจอย่างมาก
“หากชำระเงินแล้วค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันนะคะ”
หมอพูดอย่างไม่แยแส
“ได้ครับ ผมจะไปรวมเงินมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“หมอจ้าว หมอโปรดให้ยากับลูกสาวผมก่อนเถอะนะครับ!”
“ได้โปรด! ได้โปรดเถอะนะครับ!”
เมื่อเย่เฟิงพูดจบ เขาก็รีบวิ่งออกจากห้องผู้ป่วยไปอย่างบ้าคลั่ง
ข้างหลังเขามีเสียงหมอจ้าวและพยาบาลหลายคนที่กำลังพูดคุยกันและถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
“ให้ยาไปก่อนงั้นเหรอ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? เฮ้อ.....”
“เพื่อรักษาอาการป่วยของลูกสาวได้ยินมาว่าผู้ชายคนนั้นเพิ่งขายไตไปข้างหนึ่งเองไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะ น่าสงสารหัวใจของคนเป็นพ่อแม่ในโลกจริง ๆ ! พอไม่มีเงินก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย…”
เวลานี้ เย่เฟิงรีบออกจากโรงพยาบาลไปอย่างบ้าคลั่ง แต่แล้วเขากลับไปยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล
เงิน! เงิน! เงิน!
ตอนนี้ เงินคือชีวิตของโนโนะ
แต่ จะเอาเงินมาจากที่ไหนล่ะ?
เมื่อกี้เขาคิดแค่ว่าต้องรีบไปหาเงินมาโดยเร็วที่สุด ตอนนี้เขาเพิ่งจะมาคิดได้ว่า คนที่เขาสามารถยืมได้ เขายืมไปหมดแล้ว
ในขณะที่กำลังสิ้นหวังไร้รทางออก เย่เฟิงก็กดโทรออกไปหาใครคนหนึ่ง!
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คงทำได้แค่ ลองขอร้องเธอดูเท่านั้น
แม้ว่า มันจะเป็นความอัปยศอดสูอย่างมาก แล้วก็ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีสุด ๆ
แต่เมื่อเทียบกับชีวิตของโนโนะแล้ว ศักดิ์ศรีของเขามันจะไปมีค่าอะไรล่ะ?
“ใครคะ?”
ที่ปลายสาย มีเสียงที่ไพเราะของผู้หญิงที่คนหนึ่งดังขึ้น น้ำเสียงฟังดูมีเสน่ห์อย่างมาก
“ผมเองเย่เฟิง”
“คุณเองเหรอ?คุณยังจะโทรมาหาฉันทำไมอีก พวกเราหย่ากันไปตั้งนานแล้วนะ!”
เสียงผู้หญิงหวาน ๆ เมื่อกี้นี้ หลังจากที่ได้ยินว่าเป็นเย่เฟิง มันก็กลับกลายเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที
อีกฝ่ายคือภรรยาเก่าของเย่เฟิง แล้วก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของโนโนะด้วย เธอคือโจวชิงนั่นเอง!
ในตอนแรกเย่เฟิงก็ไม่ได้ยากจนเหมือนตอนนี้หรอก เขาในวัย 20 ต้น ๆ ก็เริ่มที่จะประสบความสำเร็จแล้ว เขาเปิดโรงงานเล็ก ๆ ของตัวเอง มีรายได้ต่อปีนับล้าน
โจวชิงและเย่เฟิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมหาวิทยาลัยกัน ในตอนนั้นเขาได้เป็นเดือนของสาขา ในการรวมตัวของเพื่อนในชั้นเรียนครั้งหนึ่ง เธอใช้ประโยชน์จากรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างดีของเธอ เริ่มเป็นฝ่ายเข้าหาและยั่วยวนเย่เฟิงเอง สุดท้ายก็คบกันจนได้จดทะเบียนสมรสกันในที่สุด
หลังจากแต่งงานตอนแรก ๆ ก็ยังดีอยู่ แล้วโจวชิงก็ให้กำเนิดลูกสาวกับเย่เฟิงมาหนึ่งคน
ทว่า นับตั้งแต่ที่โนโนะป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดไมอีลอยด์ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
เพื่อรักษาอาการป่วยของลูกสาว เย่เฟิงจึงใช้เงินออมทั้งหมดจนหมดเกลี้ยง จนถึงขั้นต้องเอาโรงงานไปจำนองและขายออกไปในที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว