เย่เซิ่งเทียนและคนสามสี่คนออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในหนึ่งวัน ฆ่าแดนทะลุเทพติดต่อกันหลายคน สังหารเทพหนึ่งตน !
ทั้งตระกูลลึกลับ ล้วนแต่ตกอยู่ในความบ้าคลั่งแล้ว!
หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครทำได้ถึงขั้นนี้เลย!
“ฆ่าแดนทะลุเทพติดต่อกันหกท่าน สังหารเทพหนึ่งตน นี่มันบ้าไปแล้ว!”
“หรือว่าพวกเราไม่ได้เกิดมาจากปริภูมิ-เวลาเดียวกันกับเย่เซิ่งเทียนงั้นเหรอ?หรือว่าพวกเราพลาดไปหลายสิบปีแล้วงั้นเหรอ?”
“เหลือเชื่อเลย ฆ่าแดนทะลุเทพติดต่อกันหกท่าน สังหารเทพหนึ่งตน นี่มันบ้าไปแล้วนะ!”
แต่ละตระกูล เรียกประชุมลับกันทันที
จะต้องปรึกษาหารือและตกลงกลยุทธ์ลำดับต่อไปใหม่อีกครั้งแล้ว
เย่เซิ่งเทียน นำมาซึ่งความโชคร้ายอย่างมาก
การปรากฏตัวของเขา หมายความว่า แดนทะลุเทพ ไม่ได้เป็นผู้แข็งแกร่งอีกแล้ว!
ไม่ใช่การมีอยู่ที่ไม่มีวันตายอีกแล้ว!
แดนทะลุเทพ ยังคงถูกฆ่าตายได้!
ยังคงตายได้!
ผู้แข็งแกร่งที่หลับลึกของตระกูลเหล่านี้ ขืนหลับลึกต่อไปก็ไม่มีความหมายแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว!
แดนทะลุเทพล้วนแต่พูดฆ่าก็ฆ่าเลย อีกอย่างเมื่อฆ่าก็ฆ่าตายหกท่าน!
แม้แต่พลังอำนาจของเทพก็สับฆ่าได้!
ขืนนอนหลับลึกต่อไปอีก ตระกูลก็อาจจะไม่มีแล้ว!
จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแล้ว!
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวที่สุด คือพรสวรรค์ระดับปีศาจนั่นของเย่เซิ่งเทียน
จงหยู่ขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า : “คิดอยากจะไปถึงจุดสูงสุด ยังต้องการโชคดีอย่างมากด้วย ผู้ที่ทำการใหญ่ พละกำลัง โชคชะตาห้ามขาดแม้แต่อันเดียว!โชคชะตา ก็เป็นศักยภาพอย่างหนึ่ง !ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนโชคไม่ดีมาก ท้ายที่สุดเสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย งั้นก็ไม่ถือว่าอะไร!แม้ว่าตระกูลจงของเราลงทุนกับเย่เซิ่งเทียน แต่อย่างน้อยตอนนี้ ยังไม่สามารถสนับสนุนเขาอย่างชัดเจนได้โดยสิ้นเชิง เผื่อว่าเขาไม่ได้มีโชคชะตาที่สอดคล้องกัน สุดท้ายล้มเหลว งั้นสำหรับตระกูลจงของเราแล้ว เป็นหายนะครั้งใหญ่!”
จงกวงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า : “พ่อ ฉันเข้าใจ ทางฝั่งฉัน จะให้รายชื่อบางส่วนเกี่ยวกับคนเหล่านั้นที่ลงมือกับเขาในครั้งนี้ให้กับเย่เซิ่งเทียน สำหรับตระกูลจงของเรา นี่เป็นการให้ความช่วยเหลือที่มากสุดที่ให้แก่เขาได้แล้ว!”
จงหยู่ยิ้มพร้อมพูดว่า : “นี่คือดีมากแล้ว เย่เซิ่งเทียนเข้าใจได้ การเครื่องไหวครั้งนี้ สำหรับเขาแล้วไม่ต่างอะไรจากให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที และสำหรับตระกูลจงของฉัน ก็เป็นเรื่องเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้”
ดังนั้นในขณะเดียวกันทางตระกูลเหย้
เป็นครั้งแรกที่เหย้มั่วเรียกประชุมตระกูลในนามของเขาแล้ว
“ข่าวที่ทางฝั่งเย่เซิงเทียนส่งมาพวกคุณรู้กันหมดแล้วใช่ไหม?ลองพูด ว่ามีความคิดเห็นอะไรกันบ้าง?”
พ่อของเหย้ซูหลิง ก็คือเหย้หวงผู้นำตระกูลเหย้ เอ่ยปากพูดว่า : “การแสดงออกมาของเย่เซิ่งเทียน เหนือการคาดหมายของคนจริงๆ พรสวรรค์เช่นนี้ เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนแรกตลอดห้าพันปีที่ผ่านมา !แต่พรสวรรค์เช่นนี้ จะได้ไปไกลได้แค่ไหนกัน?จะถึงระดับไหน?พวกเราล้วนแต่ต้องพิจารณา พวกเราลงทุนให้เขาบางอย่างได้ แต่ว่าไม่จำเป็นต้องสนใจมากเกินไป ถึงยังไง เขาก็เป็นแค่ตัวทดลองของสรวงสวรรค์ แม้ว่าตอนนี้กลายเป็นการมีอยู่ของแดนทะลุเทพหนึ่งวัง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรเช่นเดิม อัจฉริยะที่เดินต่อไปได้ ต่างหาก ที่จะเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง และสำหรับสรวงสวรรค์แล้ว ยิ่งพรสวรรค์ของเย่เซิ่งเทียนสูง มูลค่าการหลอกใช้ประโยชน์ก็ยิ่งมาก! ”
เหย้ซูหลิงค่อนข้างรู้สึกผิดหวังต่อพ่อ กัดฟันแล้ว เดินออกมาพร้อมพูดว่า :“งั้นพวกคุณเคยคิดกันบ้างไหมว่า ถ้าหากเย่เซิ่งเทียนทำลายสรวงสวรรค์ได้ขึ้นมาจริงๆล่ะ?ตระกูลเหย้ของเราควจะทำยังไง? ถึงตอนนั้นจะต้องไปประจบสอพลอเย่เซิ่งเทียนหรือเปล่า? ถึงตอนนั้น แม้ว่าตระกูลเหย้จะลดท่าทางที่สูงส่งไปประจบสอพลอได้ แต่เย่เซิ่งเทียนจะรับเหรอ?”
อารองเหย้หวางพูดตะโกนว่า : “กำเริบเสิบสาน!หลิงเอ๋อร์ ทำไมแกพูดจาอย่างนี้นะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...