วันรุ่งขึ้น วันเสาร์ พระอาทิตย์ขึ้น
หวางซีไม่ง่ายเลยที่จะได้พักวันหนึ่ง เย่เซิ่งเทียนพาทั้งครอบครัว ตั้งใจที่จะไปปีนเขา สิ่งนี้ก็เคยรับปากกับซือซือไว้ก่อนหน้านี้
แม่ยายพูดทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ: "เดือนหน้าเป็นวันเกิดของซือซือ อายุสี่ขวบแล้ว ก็จะเริ่มรู้เรื่องรู้ราวแล้ว ต่อไปน่ะ อย่าให้ลูกนอนห้องเดียวกันกับพวกเธออีก หลีกเลี่ยงไม่ให้มีเรื่องน่าอายอีก อยู่ในบ้านยังดี ถ้าอยู่นอกบ้าน จะให้คนอื่นเขาพูดยังไง?"
เย่เซิ่งเทียนหน้าแดงก่ำ เหลือบมองหวางซี
คำพูดของแม่เธอแฝงไปด้วยความหมายสินะ ความหมายแฝงถึงพวกเราสองคน ฉันก็ว่าแล้วนะ อย่าให้ฉันกินโกจิเบอร์รี่อีกต่อไป
หวางซีหน้าแดงก่ำ จ้องมองเย่เซิ่งเทียนอย่างโหดๆแวบหนึ่ง
โทษนายนั่นแหละ อีตาบ้า!
เย่เซิ่งเทียนก็จ้องกลับ
จะโทษฉันได้ยังไง? ฉันนอนอยู่ดีๆ เธอให้ฉันไปนอนบนเตียงของเธอ
ในแววตาของหวางซีแฝงไปด้วยความอาฆาต หรี่ตาลงครึ่ง จ้องมองเย่เซิ่งเทียน
นายลองพูดอีกคำสิ? ดื่มโกจิเบอร์รี่หมดหรือยัง? กลับไปนายก็ต้องดื่มสองแก้วใหญ่!
ฮ่าๆ ผู้ชาย มีแต่จะเหนื่อยจนร่างทรุดโทรม!
เย่เซิ่งเทียนแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
ฮ่าๆ ผู้หญิง มีแต่จะสวยเปล่งปลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ!
ซือซือกะพริบตา คุณย่ากำลังพูดอะไร ทำไมหนูฟังไม่รู้เรื่องเลย? ทำไมพ่อแม่ต้องเขม็งตาใส่กันด้วย? แปลกมาก จะต้องมีความลับอะไรที่บอกใครไม่ได้ปิดบังหนูอย่างแน่นอน รอกลับหนูแอบฟังพวกเขาคุยกันดีกว่า
แฮะๆ หนูฉลาดจริงๆ
บรรยากาศในรถน่ากระอักกระอ่วนมาก หลี่หลานไม่อยากที่จะสนใจพวกเขา ในใจเหยียดหยาม ยังเขินอายอีก มีอะไรน่าอาย? ตอนที่ฉันยังเป็นวัยรุ่นก็ผ่านมาแล้ว เรื่องแค่นั้นของคู่สามีภรรยาอย่างพวกเธอฉันยังไม่รู้เหรอ?
หลังจากจอดรถแล้ว ซือซือก็ตื่นเต้นราวกับนกน้อยออกมาจากกรง กางมือทั้งสองข้างก็วิ่งไปกอดภูเขา จากนั้นเหยียบลงไปก็ลื่น และร้องว้ายคำหนึ่งแล้วนั่งลงบนหิมะ
"ช้าหน่อยสิลูกช้าๆหน่อย ก็ไม่ฟัง คราวนี้ล้มลงเลยใช่มั้ย?"
หลี่หลานตามอยู่ข้างหลังจู้จี้เหมือนกับพี่เลี้ยง
ซือซือกลับลุกขึ้นมา หัวเราะเสียงดังจับหิมะตีไปที่บนตัวของหลี่หลาน
"เด็กไม่น่ารักนี่ หลานยังตีย่าอีก หยุดเดี๋ยวนี้ ดูสิว่าย่าจะจัดการกับหลานยังไง"
หลี่หลานวิ่งเหยาะๆไล่ตามไปทางด้านหลัง ซือซือวิ่งไปข้างหน้าอย่างมีความสุข
ในขณะนี้ มีเสียงทะเลาะวิวาทกันดังมาจากในระยะไกล เป็นเสียงของแม่ยาย
"แย่แล้ว เกิดเรื่อง!"
เย่เซิ่งเทียนและหวางซีรีบตามขึ้นมา
เห็นเพียงซือซือนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น แม่ยายถูกคนผลักล้มลงกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด กลับไปกอดขาของชายวัยกลางไว้แน่นๆไม่ปล่อย และด่าทอด้วยความโกรธเคือง: "ไอ้ฆาตกร แกเอาชีวิตสามีของฉันคืนมา ไอ้ฆาตกร แกอย่าคิดได้ที่จะหนี"
"แม่งเอ๊ย ปล่อย ปล่อยฉัน!"
เมื่อเห็นว่ามีคนมากขึ้นเรื่อยๆ ชายวัยกลางคนก็วิตกกังวล แววตาโหดร้าย มีเส้นเลือดฝอยเล็กน้อย ความดุร้ายเปิดเผยออกมาหมด แล้วก็จะเตะลงอีกครั้ง
หากการเตะนี้แม่นยำ แขนของหลี่หลานจะหักในทันที!
แกร๊ก!
ทันใดนั้น ขาข้างหนึ่งเตะลงไปที่น่องข้างนั้นที่เขายกขึ้นมา
ชายวัยกลางคนรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก น่องข้างนั้นของเขา และหักในทันที!
"เซิ่งเทียน อย่าปล่อยเขาไป เขาเป็นฆาตกร เขาก็คือฆาตกรที่ขับรถชนพ่อของลูกตาย!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...