การตบคราวนี้ของเย่เซิ่งเทียนรุนแรงมาก ทำให้หลี่กั๋วเฉียงนอนอยู่บนพื้น เดิมฟันที่เหลือเพียงไม่กี่ซี่ ตอนนี้หลุดออกมาหมดแล้ว
การตบคราวนี้ ทำให้ทุกคนดูเหมือนจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดและมุมปากกระตุก
หลี่กั๋วเหว่ยจับแก้มซ้ายของตนเองโดยไม่รู้ตัว เมื่อสักครู่เขาถูกเย่เซิ่งเทียนตบไปหนึ่งที ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง
เดิมทีเขาอยากจะดุด่าอีก แต่เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เขาก็หุบปากทันที
ไอ้สัตว์เดรัจฉาน กล้าลงมือทำร้ายคนจริง ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาเป็นผู้อาวุโส แต่เย่เซิ่งเทียนก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย
"ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?"
เย่เซิ่งเทียนมองคนของตระกูลหลี่
ดวงตาของหลี่เฟิงเปล่งประกาย เขารู้ว่าคนบ้าระห่ำอย่างเย่เซิ่งเทียนจะต้องลงมือ ดังนั้นหลังจากยุยงเมื่อสักครู่แล้ว เขาก็รู้ว่าควรหุบปาก
แต่หลี่เผิงเฉิงแกว่งเท้าเข้าหาเสี้ยนเอง ยืนกรานที่จะแข็งกร้าวกับเย่เซิ่งเทียน ซึ่งมันเป็นการรนหาความตาย?
ความจริงแล้วหลี่เฟิงรู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่นอยู่ในใจ ไอ้แก่หลี่กั๋วเฉียงถือโอกาสคราวนี้เรียกร้องผลประโยชน์จากเขามากมาย ไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย
เขารู้ว่าเย่เซิ่งเทียนอาจจะลงมือทำร้ายคน แต่หลี่เฟิงก็ไม่อยากเตือนพวกเขา
"โอ้ เรื่องราวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? มีอะไรก็คุยกันดี ๆ ไม่จำเป็นต้องลงมือทำร้ายคน ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้มันจบเถอะ เพราะการขับไล่ครอบครัวของหวางซีออกจากตระกูลหลี่ ถือเป็นการลงโทษแล้ว พวกเราเป็นตระกูลใหญ่ ไม่ควรจะเป็นคนใจคอคับแคบ"
หลี่เซิ่งที่สังเกตการณ์อย่างเงียบ ๆ ขณะนี้เขายืนขึ้นและพูดไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความสันติ
เขาเป็นตัวแทนญาติสายรองของตระกูลหลี่ และเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ เขารู้ดีว่าความคิดเห็นของตนเองไม่มีผลใด ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะล่วงเกินทั้งสองฝ่าย
เขาสนับสนุนให้หลี่เฟิงยึดอำนาจ แต่เขาก็ไม่อยากให้เย่เซิ่งเทียนและหวางซีเกลียดเขาเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรมาโดยตลอด
เขาคิดว่าในเมื่อตนเองได้รับผลประโยคตามที่หลี่เฟิงสัญญาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายนี้
"พวกกลุ่มคนที่กลัวคนที่แข็งแรงกว่า และรังแกคนที่อ่อนแอกว่า เป็นคนไม่เอาถ่านที่ไม่สามารถเยียวยาได้แล้ว"
หลี่เซิ่งพูดเยาะเย้ยไปหลายประโยค ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตัวแทนของญาติสายรอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะถูกคนเหล่านี้ดูหมิ่น
หลังจากพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา เขาก็หันหลังแล้วเดินจากไป
หลี่กั๋วเฉียงแทบอยากจะฆ่าคน แต่ตอนนี้ขาที่หักของหลานชายถึงจะเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเขาจึงติดต่อโรงพยาบาลทันทีเพื่อจะรักษาขาของหลี่เผิงเฉิง
ดวงตาของหลี่กั๋วเหว่ยเคร่งขรึม ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากยึดอำนาจสำเร็จแล้ว หลี่เฟิงก็ไม่อยากจะประจบชายชราพวกนี้อีกต่อไป เขาพูดปลอบโยนสองสามประโยค จากนั้นก็ไม่สนใจอีก
อย่ามองว่าเมื่อสักครู่คนเหล่านี้สามัคคีกันเป็นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจนยึดอำนาจสำเร็จ แต่ควาจริงแล้วพวกเขาเป็นเหมือนหมากัดกันเอง เจ็บหนักทั้งคู่ และไม่มีใครอยากเห็นอีกฝ่ายได้ดี
ณ โรงพยาบาล หัวเวิ่นยีรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลหลี่แล้ว และโกรธมากจนขว้างแก้วน้ำที่อยู่ในมือ "พวกคนเนรคุณและจิตใจเหี้ยมโหด อาจารย์และอาจารย์แม่ช่วยพวกแกมากขนาดนี้ แต่พวกแกกลับเนรคุณ! อยากจะรักษาขาใช่ไหม ฝันไปเถอะ!"
หัวเวิ่นยีโทรศัพท์ทันทีและกล่าวด้วยความโมโหว่า "นับจากนี้เป็นต้นไป หมอทุกคนฟังให้ดี ถ้าคนของตระกูลหลี่แห่งเมืองโมตูต้องการมารักษา ไม่ต้องรักษาให้พวกเขา โดยเฉพาะหลี่เผิงเฉิง ถ้าใครกล้ารักษาขาให้กับเขา ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับผม!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...