เจียงลั่วเสินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ตอนนี้นายเข้าใจแล้วหรือยัง? นายรู้ไหมว่าเคล็ดวิชาของตระกูลลี้ลับมาจากไหน"
เย่เซิ่งเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความจริง แล้วเผ่าเทพโบราณกาลยังดำรงอยู่อีกไหม? ถ้ายังดำรงอยู่ แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน? เทพเจ้าสามารถมีชีวิตอมตะได้จริง ๆ หรือ?"
เจียงลั่วเสินหัวเราะและด่า "ผมจะรู้ได้อย่างไร? ทั้งหมดล้วนเป็นการเดาของผมจากเบาะแสต่าง ๆ แต่เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เป็นความจริง สรุปแล้วเป้าหมายของตระกูลลี้ลับคือกลายเป็นการดำรงอยู่เหมือนเผ่าเทพโบราณกาลบรรลุเป้าหมายแห่งความเป็นอมตะ เพื่อเป้าหมายนี้ทำให้ตระกูลลี้ลับบ้าคลั่งไปแล้ว"
"บ้าคลั่งจริง ๆ"
ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เจียงลั่วเสินไม่ต้องพูดอะไร ตอนนี้เขาก็รู้ว่าแล้วแม่ของเขาอยู่ที่ไหน
ต้องอยู่ที่ตระกูลลี้ลับแน่นอน
แต่ตอนนี้ เขากลับไม่กล้าไปหาแม่
ถ้าแม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้ละก็.....
เย่เซิ่งเทียนไม่กล้าคิดเรื่องนี้
เขาไม่เชื่อว่าแม่จะเป็นคนแบบนั้น แต่ก็ต้องคาดเดา
ขณะนี้ เขามีอาการทางประสาทเล็กน้อย และเริ่มสงสัยทุกสิ่ง
แม้แต่การเกิดของเขายังเป็นการทดลอง แล้วยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก?
เย่เซิ่งเทียนรู้สึกขมขื่นมาก สำหรับบางสิ่งบางอย่าง การไม่ได้รู้ความจริงนั้นมีความสุขมากกว่าการรู้ความจริง
เจียงลั่วเสินตบไหล่เย่เซิ่งเทียนเบา ๆ และกล่าวว่า "อย่าคิดมาก ไม่ว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร ชีวิตเป็นของนาย นายเป็นคนสร้างเส้นทางขึ้นมาเอง ไม่มีใครควบคุมนายได้ ถ้าสวรรค์ไม่ให้ทางรอดแก่พวกเรา ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็สร้างทางรอดเอง ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลลี้ลับทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์โดยไร้ยางอายเหมือนฝูงแมลงวันกับสุนัข ไม่มีความกล้าหาญแม้แต่น้อย"
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้าด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ชั่วขณะหนึ่ง เขามีความคิดที่จะหลบหนีออกไปจากโลก
อยากกลับไปที่เฉียนถัง และใช้ชีวิตของตัวเอง
แต่ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น ความโกรธก็พัดความคิดนี้หายไปจากสมองทันที
แม่งฉิบหาย!
เขาเป็นเย่เซิ่งเทียน เขาทำงานหนักและเสี่ยงตายมาหลายปี แต่สุดท้ายเขากลับพบว่ามันเป็นแผนของคนอื่น!
แม้แต่การเกิดของเขายังเป็นการทดลอง!
"นายทะลวงแล้ว?"
เย่เซิ่งเทียนส่ายศีรษะด้วยความรู้สึกอธิบายไม่ถูก "ผมฝึกฝนมาสี่ปีแล้ว และปีนี้ผมไม่สามารถทะลวงสำเร็จได้ ผมติดอยู่ในแดนเหนือโลกีย์มาหนึ่งปีกว่าแล้ว ถ้ามันจะทะลวงมันก็ทะลวงไปนานแล้ว แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมมันต่างออกไป ผมแค่อยากจะผ่าท้องฟ้านี้แยกออกจากกัน!"
สี่ปีแห่งการฝึกฝน!
นี่เป็นคำพูดของมนุษย์เหรอ?
เวลาสั้น ๆ เพียงสี่ปี เขาสามารถทะลวงสู่แดนเหนือโลกีย์แล้ว!
แล้วพวกเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
เจียงลั่วเสินกล่าวด้วยความสงสัย "มันเป็นเรื่องที่แปลก ก่อนหน้านั้นบนร่างกายของนายเป็นเพียงรัศมีฆ่าที่รุนแรง แต่ตอนนี้มีพลังที่ทรงพลังมาก หรือว่าเมื่อสักครู่จิตใจของนายกระวนกระวาย แล้วไปกระตุ้นสายเลือดเทพอีกประเภทหนึ่งทีอยู่ในร่างกาย?"
"สายเลือดที่สองเหรอ?"
เย่เซิ่งเทียนสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เขาไม่รู้สึกอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง "ไม่มีอะไร เหี้ย เมื่อก่อนตอนที่ผมปลุกเลือดประหลาดตื่น ตอนนั้นราวกับร่างกายถูกฟ้าผ่าและเลือดลมปั่นป่วน แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย พลังที่คุณกล่าวถึงน่าจะเป็นพลังเผด็จการบนร่างกายของผม เพราะผมปรับปรุงพลัง จนสามารถสยบคุณได้ ตอนนี้คุณจงคุกเข่าลงแล้วยอมรับผมเป็นเจ้านาย และกราบผม ต่อไปคุณจะมีโอกาสที่ดีไม่น้อย"
เจียงลั่วเสินตบด้านหลังศีรษะของเย่เซิ่งเทียน และด่าว่า "ไสหัวออกไป ผมยังถือเป็นปู่ของนายน่ะ ทำไมนายไม่กราบผม? รีบไสหัวออกไป ไดกสารเลวอย่างนายไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกฟ้าผ่า!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...