“หลินเย่ผู้นี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหม? ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยได้ยินไม่รู้จักเขามาก่อนเลย? ”
จงกวงเจ้าบ้านตระกูลจงขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับครุ่นคิด และมองไปที่จงอู่แล้วพูดว่า: “อู่เอ๋อร์ นายเล่าเหตุการณ์ตอนที่ไปพบเจอกับเขาอย่างละเอียดให้ฟังอีกครั้งหน่อย”
จงอู่ไม่กล้าปิดบัง จึงรีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ่อนพนันขึ้นอีกครั้ง
จงหมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่หม่นหมองว่า: “หากไอ้หลินเย่คนนี้มีปัญหา แล้วที่เขาเข้าใกล้ตระกูลจงของพวกเรานี้เพราะเป้าหมายอะไร? หรือเพราะว่าต้องการตำราวิชา? ”
จงกวงไม่สามารถแน่ใจได้ จึงพูดว่า: “รอดูกันก่อน ดูว่าจะสามารถตรวจสอบอะไรได้บ้างไหม หากว่าต้องการตำราวิชา ก็คงจะไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้หรอก แต่ว่า ก็มีคนประหลาดบางคน ที่ชอบกระทำเรื่องที่แปลกประหลาด ไม่สามารถคาดเดาได้ด้วยหลักการเหตุผลทั่วไปได้”
จงอู่พูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า: “คุณพ่อ ลุงรอง หากว่าหลินเย่ผู้นี้ สามารถรักษาโรคของคุณปู่ให้หายได้จริง ๆ ล่ะ? พวกเราจะมอบตำราวิชาให้เขาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”
จงกวงไม่พูดอะไร ส่วนจงหมิงยิ้มเยาะและพูดว่า: “รดดูกันก่อน หากว่ารักษาให้หายได้ แล้วเราก็ให้ตำราวิชาของแดนฉ่องทิพย์และแดนลอยเมฆไปบ้าง ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลจงของเราอยู่แล้ว แต่หากว่ารักษาไม่ได้ ฮึ จะต้องทำให้เขารู้ว่า ตระกูลจงของเรานั้น ไม่ใช่ว่าคิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป”
จงเหวินปินกับจงเซิงมองหน้าสบตาซึ่งกันและกัน
ซึ่งต่างก็เข้าใจในความหมายของอีกฝ่ายหนึ่ง
หากหลินเย่คนนี้สามารถรักษาอาการป่วยของคุณท่านได้ ตำแหน่งผู้สืบทอดของจงอู่นั้นก็มั่นคงแน่นอนแล้ว
ไม่ได้ ห้ามให้หลินเย่กระทำการสำเร็จโดยเด็ดขาด
รู้แล้วว่า ห้ามให้เขายืนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับจงอู่
ครั้นแล้ว จงเหวินปินก็พูดขึ้นว่า: “คุณพ่อ ลุงรอง ตำราวิชานั้นมีความสำคัญอย่างมากกับตระกูลจงของพวกเรา อีกทั้งพวกเราเองก็ไม่อาจรับรองได้ว่าหลินเย่คนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ดังนั้นฉันเสนอว่า เปลี่ยนจากตำราวิชาเป็นเงินให้กับเขาแทนจะดีกว่า ในเมื่อเขาชอบเล่นพนัน ก็น่าจะขาดเงินอยู่บ้าง”
หลายปีมานี้ พวกเขาตระกูลจงคิดที่จะพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นมาโดยตลอด แต่ก็ติดอยู่ที่เรื่องของตำราวิชามาตลอดเช่นกัน
ตระกูลจงไม่เคยมียอดฝีมือแดนสะพานเทพเลย และก็เคยได้แอบเสนอขออย่างลับ ๆ ต่อทางตระกูลเซียวไปแล้วกี่ครั้ง ทางตระกูลเซียวก็ไม่เคยเต็มใจที่จะยื่นมือเข้าช่วย
นี่คือความผิดหวังและเสียใจของตระกูลจง
หากในตระกูลมียอดฝีมือแดนสะพานเทพสักท่านหนึ่งคอยผู้ปกป้องคุ้มครอง ถึงจะกลายเป็นตระกูลระดับอันดับหนึ่งได้
จงกวงหรี่ตาลงและพูดว่า: “นี่เป็นการเตือนฉันขึ้นมาเลย หากว่าหลินเย่คนนี้สามารถรักษาท่านพ่อได้จริง ๆ นั่นแสดงว่าเขาก็มีโอกาสที่จะรักษาโรคร้ายของเซียวเทียนเฉิงได้เหมือนกัน นี่ก็คือโอกาสที่ดีของตระกูลจงแล้ว หากว่าวิชาแพทย์ของเขาล้ำเลิศขนาดนั้นจริง ๆ ล่ะก็ ถือได้ว่าเป็นโอกาสดีที่หาได้ยากสำหรับตระกูลจงของพวกเราเลย”
จงอู่ตื่นเต้นดีใจ แต่ก็พูดขึ้นด้วยท่าทางที่กังวลว่า: “คุณพ่อ แต่ถ้าหลินเย่มีปัญหาล่ะ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Mars เจ้าสงครามครองโลก
เนื้อเรื่องน่าจะต่อได้อีกนะรีบจบไปหน่อย มีหลายปมเลย ปกแรกเย่หลงตายรึยัง ปมที่2ซือซือทำไม่ถึงลืมเรื่องที่เกิดขึ้น ปมที3หวางซีเป็นสเก็ดวิญาณของใคร หายไปไหนทำไมเห้ยซูหลิงถึงหาเจอ ปมที่4หมิงหยูเลยลูกชายจะช่วยแทบตายไม่กล่าวถึงเลยคือคาฝจมากคนแต่งน่าจะแต่งต่อได้อีกพันตอน...
ฟ้าสยบทำไม่ไม่ช่วย...
ตั้งแต่โดนวางยา..จนถึงตอนเย่เซิงเทียนดูโง่ๆเลย...
เจ้าเทพอะไรดูโง่จัง..โดนจูงจมูกเหนื่อยใจกับคนแต่ง...