ผู้อาวุโสฮาร์ทแมนหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสโมสลีย์ ทว่าเขาดื้อรั้นมากเกินว่าจะยอมรับความพ่ายแพ้ “บรรลุไปสู่ระดับเทพสูงสุดงั้นเหรอ? คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยรึไง? ผมใช้เวลาสองถึงสามปีในการก้าวไปขั้นจุดสูงสุดของระดับเทพแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น ในระหว่างนั้นผมก็ล้มเหลวไปหลายครั้ง นอกจากนี้ ภายในอาณาเขตของเรา ผู้คนมากมายบรรลุไปสู่ขั้นสูงสุดได้ก็จริง แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คน ๆ หนึ่งจะบรรลุไปสู่ขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงได้ในคราวเดียว จริงไหม? ไม่ต้องพูดถึงระดับเทพสูงสุดอันยิ่งใหญ่เลย”
“ไม่ว่ายังไง เราก็จะเสี่ยงไม่ได้ เราควรมุ่งหน้าไปให้เร็วกว่านี้ หากสิ่งที่สามารถช่วยเราให้ก้าวไปสู่ระดับเทพขั้นสูงสุดได้นั้นแท้จริงแล้วเป็นผลวิญญาณบางอย่าง และมีอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นจะเป็นเช่นไร? พวกเขาอาจกินมันจนไม่มีเหลือให้เรา! หากเป็นเช่นนั้น เราจะไม่มีโอกาสไปถึงระดับเทพสูงสุดได้เลย!”
เจ้าแห่งวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้อาวุโสอีกครั้ง “เอายังไงดี ผู้อาวุโสล็อค คุณพาคนสองสามคนที่มีระดับพลังยุทธในขั้นสูงสุดของระดับเทพแท้จริงไปสอดแนมสถานการณ์รอบ ๆ หากมีอะไรผิดปกติรีบกลับมาแจ้งให้เราทราบทันที! ห้ามรอช้าแม้แต่วินาทีเดียวและเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด! พวกเรามีกันมากเกินไป และความเสี่ยงที่อีกฝ่ายจะค้นพบเรานั้นมีสูง ดังนั้น มันจะดีกว่าถ้าคุณไปในจำนวนที่น้อยลงและสำรวจหาเรา!”
“รับทราบครับ ท่านเจ้าวิหาร!”
ผู้อาวุโสล็อคโค้งมือและคำนับเจ้าวิหารของเขา จากนั้นเขาก็ไปโดยมีมีชายที่มีระดับพลังยุทธในขั้นสูงของระดับเทพแท้จริงสี่ถึงห้าคนติดตามไปเพื่อดูลาดเลาด้วยกัน
“ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าวิหารแห่งทวยเทพและราชาบอกเราว่าลูกบอลหินประหลาดวางอยู่บนต้นไม้โบราณ และต้นไม้นั้นตั้งอยู่ในจุดที่ลึกมากในพื้นที่อันตรายเหล่านั้น! เจ้าวิหารแห่งทวยเทพและราชาใจกว้างมากพอที่จะช่วยเหลือเราโดยการให้ข้อมูลเหล่านี้ เพราะข้อมูลเหล่านี้ เราจะประหยัดเวลาได้มากและหลีกเลี่ยงปัญหายิบย่อยไปได้!”
เฟนด์พูดขณะที่เขาบินไปพร้อมกับคนอื่น ๆ
ท้องฟ้าเหนือเกาะถูกปกคลุมด้วยเมฆครึ้มตลอดเวลาแม้ในตอนกลางวัน และเพราะมีเมฆครึ้มอยู่ตลอด แสงอาทิตย์จึงสลัวนัก และที่นี่จึงดูไม่ต่างจากกลางคืน
นอกจากนี้ สัตว์อสูรก็ดูเหมือนจะมีวิวัฒนาการให้เหมาะกับที่ที่มีแสงน้อยได้อย่างสมบูรณ์ แม้มีแสงน้อยแต่การมองเห็นของพวกมันก็ยังไม่ต่ำลง ดังนั้นเฟนด์และคนของเขาจึงไม่กล้าที่จะบินด้วยความเร็วสูงสุดแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งก็ตาม พวกเขาทำได้เพียงเดินทางผ่านท้องฟ้าอย่างระมัดระวังเท่านั้น
“ดู ๆ แล้ว ผมคิดว่าพวกมันมีกันหลายพันตัวเลยไม่ใช่เหรอ? บ้าเอ๊ย! สัตว์อสูรในวงศ์นกอินทรีพวกนี้น่ารำคาญมาก พวกมันปราดเปรียว ยิ่งกว่านั้น พวกมันมีขนสีดำ! ทำให้เรามองเห็นและติดตามพวกมันได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมฆดำทะมึนเหนือเราดูราวกับช่วยอำพรางพวกมัน ไม่เพียงเท่านั้น พวกมันยังเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังอีกต่างหาก!”
ผู้อาวุโสผู้ที่อยู่ในขั้นต้นของระดับเทพแท้จริงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองหลังจากเห็นสัตว์อสูรเบื้องหน้า
“ผมคิดว่าพวกมันมีกันมากกว่าสองสามพันตัวเสียอีก ดูแล้วผมเกรงว่าพวกมันจะมีกันมากกว่าหนึ่งหมื่นตัว และต้องมีอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในเมฆครึ้มมืดเหล่านั้น ซึ่งยากยิ่งที่เราจะค้นหาพวกมันเจอ!”
เฟนด์มองไปที่ท้องฟ้าที่มืดมิดและสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึม เขาได้ยินมาว่าเกาะวายุมืดเป็นสถานที่ที่เสี่ยงและอันตรายที่สุดในบรรดาจุดอันตรายทั้งเจ็ด ตอนนี้เขาเข้าใจถึงสาเหตุที่วิหารแห่งทวยเทพและราชาไปที่จุดอันตรายอีกสามแห่ง แต่ไม่มาที่เกาะนี้ ไหนจะเผ่าโบราณที่เหลือ ที่ปฏิเสธการมาสำรวจเกาะนี้อีก ไม่ต้องพูดถึงสัตว์อสูรด้วยซ้ำ แค่เฉพาะเมฆดำมืดที่นี่ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักสำรวจอยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม
รอๆ1026...
1026รอๆ...
รออ่าน 691 อยู่นะครับ ติดงอมแงมเลย อยากให้ลงทุกวันเลยครับ สนุกมาก...
มันจบแค่ตอนที่ 585 จริงดิ???? เหมือนดำเนินเรื่องได้แค่ไม่เท่าไหร่เอง...