มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1885

ชายอีกคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดก็ต้องการหนีจากวงล้อมไปในทิศทางดังกล่าวเช่นกัน เขาหน้าซีดเพราะตกใจเมื่อเห็นฉากนี้ และหันหนีไปทางอื่นเพื่อที่จะหลบหนี

เสียงการต่อสู้อันน่าสยดสยองยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงบ่ายก่อนที่มันจะจบลง

แม้ว่าเฟนด์และคนอื่น ๆ จะช่วยฆ่าคนของฝ่ายตรงข้าม แต่สมาชิกตำหนักโลหิตแกร่งกล้าหลายแสนคนก็มีจำนวนมากเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว จำนวนคนราวหนึ่งพันถึงสองพันคนก็​โชคดี​พอ​ที่จะ​หนีไปได้

“ฮ่าฮ่า! เราเกือบจะกวาดล้างพวกเขาทั้งตำหนัก แต่บางคนกลับโชคดีและให้หนีเข้าไปในป่าทัน เราจัดการคนพวกนั้นไม่ได้ แต่ผมคิดว่าพวกเขาเหลือกันเพียงหนึ่งถึงสองพันคนเท่านั้น ฮ่าฮ่า!” ออสตินหัวเราะออกมาเสียงดังหลังจากการต่อสู้จบลง พวกเขาฆ่าคนของฝ่ายตรงข้ามไปมากมาย แต่เผ่าเก้าเทพกับเผชิญกับความสูญเสียสมาชิกไปเพียงสองพันถึงสามพันคนเท่านั้น มีหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ แต่หากพูดรวม ๆ แล้ว นับว่าเป็นชัยชนะที่น่าตกใจทีเดียว

"ใช่ ผมเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราจะสามารถกวาดล้างตำหนักที่เราเคยหวาดกลัวพวกเขาในอดีตได้ ฮ่า ๆ…! นับจากนี้ตำหนักโลหิตแกร่งกล้าก็นับว่าใกล้จะถึงคราวอวสานแล้ว!” ผู้อาวุโสอีกคนอุทาน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เผ่าเก้าเทพของเราก็ถือได้ว่ามีชื่อเสียงขึ้นมานิดหน่อยแล้วใช่หรือเปล่า?”

“จะค่ำแล้วเรามาเก็บกวาดสนามรบกันเถอะ” อเล็กซานเดอร์และคนที่เหลือได้จัดการให้คนเริ่มเก็บกวาดสมรภูมิแล้ว

หลังจากกวาดล้างกองกำลังที่ใหญ่โตในครั้งนี้ พวกเขาย่อมได้รับสิ่งของล้ำค่ามากมายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากปรมาจารย์ที่อยู่ในระดับทะลวงวิญญาณ แน่นอนว่าพวกเขามีทักษะยุทธที่ดีและทักษะศิลปยุทธที่ทรงพลังบรรจุอยู่ในแหวนยุทธของพวกเขาด้วย นี่จะสามารถช่วยในการบ่มเพาะตัวเองของพวกเขาในอนาคต

ก่อนหน้านี้บางคนมีเพียงทักษะศิลปยุทธสำหรับระดับเทพสูงสุดเท่านั้น ตอนนี้ พวกเขาจะสามารถใช้ทักษะศิลปยุทธจากตำหนักโลหิตแกร่งกล้าในการทะลวงถึงระดับทะลวงวิญญาณได้แล้ว

ด้วยความกลัวว่าเขาจะไม่พอใจเฟนด์ ออสตินจึงอธิบายอย่างลนลานว่า “หัวหน้าเผ่า คุณต้องล้อผมเล่นแน่ ๆ ผมเทียบอะไรกับคุณไม่ได้หรอก ถึงผมจะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สามในระดับทะลวงวิญญาณแล้วก็เถอะ แต่ตอนนี้คุณฆ่าปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นที่สามในระดับทะลวงวิญญาณได้ทีเดียวสองคน ดังนั้นคุณต้องมีพลังการต่อสู้เทียบได้กับปรมาจารย์ที่อยู่ในขั้นที่สี่ในระดับทะลวงวิญญาณแล้วอย่างแน่นอน”

ในตอนนั้นเองคีแรนบินไปและส่งตำราโบราณให้เฟนด์ “หัวหน้าเผ่า! นายท่าน! เราพบทักษะยุทธขั้นต้นระดับสี่ในแหวนยุทธของพวกเขา แต่ผมประเมินแล้วว่ามันยากมากที่จะฝึกฝนทักษะยุทธนี้ได้ ดังนั้น สมาชิกของตำหนักโลหิตแกร่งกล้าจึงไม่มีโอกาสได้ใช้ทักษะนี้”

เฟนด์พินิจมองอย่างถ้วนถี่ และรู้สึกตื่นเต้นมาก “มันเป็นทักษะยุทธขั้นต้นระดับสี่ไม่ผิดแน่ ‘ตราประทับจักรพรรดิ’ ถือเป็นทักษะยุทธที่ค่อนข้างน่าประทับใจ และเฉพาะผู้ที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจสูงเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าตำนักโลหิตแกร่งกล้าไม่ได้ฝึกฝนทักษะยุทธนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม