มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1965

แนชหยิบป้ายหยกประจำตัวที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ขึ้นมา เขาพินิจพิเคราะห์มันจนครบถ้วนและไม่อาจเก็บความประหลาดใจไว้ได้ในขณะที่พูดขึ้นว่า “แม้แต่การเก็บสมุนไพรวิญญาณก็ยังได้รับคะแนนสะสมของตำหนัก นี่มันงานของพวกคนงานหรือคนใช้ไม่ใช่เหรอ?”

การรับคะแนนสะสมของตำหนักมีหลายวิธี พวกเขาสามารถล่าสัตว์อสูรในป่าดึกดำบรรพ์และรับแก่นวิญญาณจากสัตว์อสูรได้ พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนแก่นวิญญาณ และส่วนอื่น ๆ ของสัตว์อสูรยังสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินมูลค่าเท่ากันกับคะแนนสะสมอีกด้วย

พวกเขายังสามารถช่วยศิษย์อาวุโสของตำหนักทำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถช่วยบ่มเพาะโอสถชนิดน้ำหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยด้วยลมปราณของพวกเขาได้ สิ่งเหล่านี้เองก็เป็นกิจกรรมที่สามารถใช้แลกคะแนนสะสมของตำหนักได้

แม้แต่การเก็บเกี่ยวหญ้าวิญญาณและบุปผาวิญญาณบนภูเขาก็สามารถใช้แลกคะแนนสะสมได้เช่นกัน แต่กิจกรรมที่ทำให้ได้คะแนนสะสมของตำหนักมากที่สุดคือการทำภารกิจลับที่ตำหนักประกาศไว้ให้สำเร็จ

ป้ายหยกประจำตัวไม่ได้กล่าวถึงภารกิจลับเหล่านี้อย่างชัดเจน แต่จากคำอธิบายเกี่ยวกับภารกิจเหล่านี้ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความยากลำบากในการทำภารกิจลับเหล่านี้ให้สำเร็จ

แนชพูดด้วยท่าทางเป็นกังวลเล็กน้อย “ในอนาคตลูกจะต้องรับภารกิจนั้นอย่างแน่นอน ลูกต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ใครจะไปรู้ว่าโลกนี้อันตรายกว่าโลกของเรามากน้อยเพียงใด”

เฟนด์พยักหน้าในขณะที่เขาตระหนักในเรื่องเหล่านี้ในใจ “ผมคิดว่าเร็ว ๆ นี้ผมจะมีโอกาสที่จะได้รับคะแนนสะสมมากมายเลยล่ะ”

เฟนด์พยักหน้าเมื่อเขารู้ว่าพ่อของเขากังวลเรื่องเขามากแค่ไหน “พ่อไม่ต้องห่วง ผมจะตามสถานการณ์ให้ทันและจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตราย”

แนชมั่นใจในตัวเฟนด์เสมอ เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายเขาก็รู้ได้ว่าเฟนด์มีแผนของตัวเอง แนชหัวเราะเบา ๆ และพูดต่อ “เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ทำไมลูกไม่บอกพ่อล่ะว่าลูกคิดจะทำอะไรต่อไป วอร์เรนจะทำให้ลูกต้องเดือดร้อนในอนาคตแน่นอน ลูกวางแผนที่จะจัดการกับเรื่องนั้นในอนาคตไว้ยังไงบ้าง?”

เฟนด์เลิกคิ้วและพูดอย่างไม่แยแสว่า “ก่อนหน้านี้วอร์เรนยังเอาชนะผมไม่ได้เลย และในอนาคตเขาก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมด้วย เขาไม่ได้ดีเด่นอะไรและเขาจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ต่อไปเขาจะไม่สร้างปัญหาให้ผมผมก็ต้องจัดการเขาให้ได้ ครั้งนี้ ถ้าผมไม่พอมีปัญญาอยู่นิดหน่อยและทำอะไรลงไปเสียบ้าง ผมคงไม่อาจเข้าร่วมการประเมินการรับสมัครและไม่อาจเข้าร่วมเป็นศิษย์ในตำหนักสองกษัตริย์ได้!”