มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1974

หลังจากดูดซับชิ้นส่วนวิญญาณของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เข้าไป เฟนด์ก็ได้สัมผัสกับโลกที่กว้างใหญ่ยิ่งขึ้น แม้ว่าเมื่อเทียบกับทวีปแคทธีเซียแล้ว ทวีปเฮสเทียจะแข็งแกร่งกว่ามากในแง่ของการบ่มเพาะตัวเอง แต่ที่นี่ก็ยังเทียบไม่ได้กับดินแดนเทพสาบสูญ

ตำแหน่งศิษย์ที่ถูกเลือกเป็นเพียงตำแหน่งในตำหนักเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะเวสต์ เซอร์ซีของทวีปเฮสเทีย เฟนด์ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ บรู๊คเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เฟนด์ก่อนที่เขาจะแอบส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้

เขามองออกได้เลยว่าเฟนด์มุ่งมั่นที่จะเป็นศิษย์ที่ถูกเลือกถึงขนาดไหน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขามีปฏิสัมพันธ์กับศิษย์ของตำหนักมาจำนวนนับไม่ถ้วน และเขาเคยเห็นสีหน้าเช่นนี้จะคนเหล่านั้นมาก่อนแล้ว

แต่ความมุ่งมั่นจะได้คว้าชัยชนะจะหมดไปภายในปีหรือสองปี การจะไปถึงตำแหน่งนั้นไม่ง่ายเลย เนื่องจากศิษย์ที่ถูกเลือกคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตำหนักเพียงสิบคนเท่านั้น

แม้ว่าตำหนักสองกษัตริย์จะไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมายในทวีปเฮสเทีย แต่ตำหนักนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตำหนักชั้นนำในเกาะเวสต์ เซอร์ซี ตำหนักนี้ได้ทำการคัดเลือกอัจฉริยะจากเกาะเวสต์ เซอร์ซีมามากมายและนี่คือค่ายฝึกอย่างเข้มงวดของเหล่าอัจฉริยะ

การจะไปกระทบไหล่กับอัจฉริยะเหล่านี้เพื่อขึ้นเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของพวกเขานั้น จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์และความมุ่งมั่นอันแรงกล้า มีศิษย์จำนวนมากที่ล้มเหลวในขณะที่พวกเขาพยายามไต่เต้าสู่ตำแหน่งศิษย์ที่ถูกเลือก พวกเขายอมรับชะตากรรมของตัวเองเมื่อตระหนักได้ว่าพวกเขาขาดความสามารถ

แต่เฟนด์ไม่เหมือนคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน เขามีความสามารถมากกว่าบรู๊คหลายเท่า แต่บรู๊คก็รู้สึกว่าเขายังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะขึ้นเป็นศิษย์ที่ถูกเลือก เฟนด์อาจเปล่งประกายท่ามกลางศิษย์ภายใน แต่เขาจะไม่สามารถเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ถูกเลือกได้

อย่างไรก็ตาม เขามีความประทับใจอย่างมากต่อเฟนด์ ศิษย์ภายนอกหรือศิษย์ภายในบางคนจะดูถูกเขาซึ่งมีฐานะเพียงศิษย์นอกสำนักในระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์กัน คนพวกนั้นจะตะโกนใส่เขาและพูดกับเขาอย่างดูแคลน

แต่เฟนด์ไม่ทำเช่นนั้นกับเขาและยังมองบรู๊คราวกับเป็นน้องชายของตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะเตือนเฟนด์ว่า “ศิษย์ของเราทุกคนไม่อาจมีระดับพลังยุทธสูงไปกว่าระดับแรกกำเนิดได้ คนที่แข็งแกร่งกว่าไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น”

บรู๊คตอบด้วยรอยยิ้ม “หอเจตสิกไม่ได้ตกอยู่ในความดูแลของใครทั้งนั้น พวกเขามีเพียงศิษย์ที่ได้รับภารกิจมาเท่านั้น นี่เป็นโอกาสที่จะได้รับคะแนนสะสมแบบสบาย ๆ เลยล่ะ”

หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่บรู๊คพูด เฟนด์ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ปรมาจารย์ที่ทะลวงเข้าสู่ระดับผสานวิญญาณไม่อาจรับผิดชอบการรวบรวมคะแนนสะสมในหอเจตสิกได้ เพราะนั่นจะไม่ต่างอะไรกับการขี่ช้างจับตั๊กแตน

แต่เหล่าศิษย์ที่ต้องการคะแนนสะสมสามารถมาทำงานนี้แทนได้ พวกเขาสามารถรวบรวมคะแนนสะสมและเปิดใช้อุปกรณ์ในหอเจตสิกได้

ประตูของหอเจตสิกดูคล้ายจะถูกทาด้วยหมึกสีดำ เฟนด์รู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณของเขาสั่นไหวมาแต่ไกล