มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 1997

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมมั่นใจ นอกจากนี้ทักษะทลายห้วงสุญญะยังมาพร้อมกับวิธีการอันเป็นประโยชน์ ตราบใดที่ผมมีไพ่ใบนี้ในมือ ก็เชื่อได้เลยว่าผมจะสามารถเอาชนะเวสลีย์ได้”

แนชเลิกคิ้วด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ถูกปลุกขึ้น “วิธีการแบบไหนกัน?”

“การบ่มเพาะทักษะทลายห้วงสุญญะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพลังและเพิ่มการสำรองพลังที่แท้จริงของผมเท่านั้น แต่มันยังทำให้ผมเข้าใจกฎแห่งสุญญะในเบื้องต้นด้วย เพราะมันประกอบด้วยกฎแห่งสุญญะ”เฟนด์อธิบายอย่างอดทน

“กฎแห่งสุญญะ?” นี่เป็นครั้งแรกที่แนชได้ยินคำนี้ เขาสามารถเข้าใจความหมายจากคำพูดนี้ได้ แต่ไม่เคยเห็นมันด้วยตาตัวเอง

เฟนด์จิบชาและพูดว่า “ก็อย่างที่ผมบอกไง ผมเองก็เข้าใจมันแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ถ้าผมเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้แล้ว ผมจะแสดงให้พ่อดูว่าผมกำลังหมายถึงอะไร”

แนชพยักหน้า เขายังคงกังวลว่าเฟนด์จะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเวสลีย์ เขาถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “พ่อรู้ว่าลูกรู้จักจุดแข็งของตัวเองดีที่สุด แต่ยังไงพ่อก็ต้องพูด บางครั้งความแตกต่างในเรื่องระดับบ่มเพาะก็ไม่ใช่สิ่งที่ลูกจะสามารถมองข้ามไปได้ ถ้าเวสลีย์อยู่สูงกว่าลูกหนึ่งระดับ ก็หมายความว่าเขาอยู่สูงกว่าลูกหนึ่งระดับ แม้ว่าทักษะยุทของลูกจะสูงกว่าเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลูกแข็งแกร่งกว่าเขา”

สนามประลองเดิมพันตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของตำหนักสองกษัตริย์นี่เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่กำหนดไว้เป็นพิเศษสำหรับสนามประลองเดิมพัน ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดนอกจากลานประลองขนาดใหญ่ทั้งเจ็ดที่สร้างด้วยรูปแบบพิเศษ

สนามประลองเดิมพันแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งคือลานประลองทั้งเจ็ดที่ตั้งอยู่ตรงกลาง และอีกส่วนคืออัฒจันทร์สำหรับชมที่อยู่รอบลานประลอง อัฒจันทร์เต็มไปด้วยที่นั่งนับไม่ถ้วน และในเวลานี้ ที่นั่งครึ่งหนึ่งถูกจับจองไปแล้ว

เว้นก็แต่ศิษย์ที่ถูกเลือก ศิษย์ในขั้นอื่น ๆ ต้องมาที่สนามประลองเดิมพันทุกเดือนเพื่อทำการประลอง หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้พวกเขาเข้าร่วมได้หรือหากเพราะเขาอยู่ในช่วงการฝึกปลีกวิเวก การต่อสู้จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึงเวลาที่พวกเขาพร้อมที่จะต่อสู้ เป็นการรับประกันว่าที่นั่งชมจะเต็มหากมีนักสู้จากสามร้อยอันดับแรกหรือหากมีบุคคลที่มีชื่อเสียงกำลังประลองกันในสนามประลองเดิมพัน