มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 2004

ดาบเล่มดังกล่าวมีแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวในทางช้างเผือก และจากรูปลักษณ์ของมัน ดูคล้ายว่ามันจะมีน้ำหนักไม่น้อย เดลเองก็หยิบสรรพาวุธของเขาออกมาจากแหวนยุทธเช่นกัน และสรรพาวุธที่เขาเลือกก็คือกริชคู่หนึ่งที่มีลวดลายสีแดงลึกลับ

เมื่อมองไปที่สรรพาวุธของคนทั้งสอง เฟนด์ก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นับตั้งแต่มาถึงโลกนี้ เขาเคยสงสัยว่าเขาควรจะเลือกใช้สรรพาวุธที่เหมาะกับเขามากกว่านี้หรือไม่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว สรรพาวุธสามารถเพิ่มพลังยุทธได้เป็นอย่างมาก แต่ทักษะทลายห้วงสุญญะที่เขาฝึกฝนอยู่ตอนนี้คือทักษะธาตุวิญญาณ และสรรพาวุธธาตุวิญญาณก็เป็นหนึ่งในสรรพาวุธที่พบเจอได้ยากที่สุด

เดลกำกริชในมือทั้งสองข้างแน่น และด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาดเขาก็ข้ามลานประลองไปได้อย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน สิ่งที่พวกเขาเห็นคือแสงสีแดงลึกลับจากกริชของเขาเท่านั้น

เวสลีย์เย้ยหยัน นี่เป็นเหมือนของเด็กเล่นสำหรับเขา เขาเหวี่ยงดาบเอาไปในตอนที่เดลอยู่ห่างจากเขาไม่กี่ฟุต และดาบก็ฟาดลงมาที่เดลราวกับประกายดาวตก พลังของการโจมตีเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วจะทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงพลังอันพิเศษได้แล้ว เดลป้องกันการโจมตีจากดาบของเวสลีย์ด้วยกริชของเขา และแสงสีเงินก็กลบแสงสีแดงของกริชของเขาจนมิดในทันที

ในขณะที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ เขาบิดตัวออกห่างจากแสงดาบสีเงินที่ปะทะเข้ากับลานประลองจนเกิดเสียงดังโครมคราม โชคดีที่ลานประลองสร้างด้วยวัสดุพิเศษที่ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่นักสู้จะทำลายมันลงได้ แต่การโจมตีด้วยดาบของเวสลีย์นั้นทรงพลังมากจนทิ้งร่องรอยไว้จาง ๆ

หลังจากได้เห็นสิ่งนั้นผู้ชมส่วนใหญ่ก็ถึงกับอ้าปากค้างและเรียกความสนใจของผู้คนได้เล็กน้อย

เฟนด์เลิกคิ้วในขณะที่ฟังคำอธิบายของโนเอล “แล้วที่คุณบอกว่าเขาบรรลุถึงระดับหนึ่งแล้ว นี่หมายถึงระดับไหน?” โนเอลถาม

ทั้งเดลและเวสลีย์กำลังประลองฝีมือกันอยู่บนลานประลองโดยที่ยังไม่มีใครปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แต่จากที่เห็นด้วยตาเพียงอย่างเดียวไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้ว่าเดลเทียบอะไรกับเวสลีย์ไม่ได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหาเทพ แห่ง สงคราม