มหาเทพ แห่ง สงคราม นิยาย บท 2261

หลังจากแอบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็พูดอย่างไม่เต็มใจขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าศิษย์พี่เนลสันไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่คุณก็ต้องใช้เวลานั่งสมาธิและฟื้นฟูร่างกาย ทำไมคุณยังมายืนอยู่แบบนี้อีก? ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกมาได้เลย”

สิ่งที่เขาพูดไม่ได้ฟังดูแปลกอะไร เนลสันหัวเราะเบา ๆ และพยักหน้าให้กริฟฟิน เนื่องจากอีกฝ่ายเจตนาดี เนลสันจึงไม่คิดที่จะโต้แย้งในสิ่งที่เขาพูด “ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ฉันยังไม่เข้าใจ เราพาศิษย์ร่วมสำนักมาที่นี่ยี่สิบคน แต่ทำไมถึงเหลือกันแค่สิบเก้าคนเท่านั้น?” ทุกคนเงียบไปหลังจากได้ยินคำถามของเนลสัน พวกเขามองหน้ากันและแววตาแปลก ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา

สีหน้าสงบสุขแต่เดิมของกริฟฟินกลับมืดมนขึ้นราวกับเผลอเกินแมลงเข้าไปหลายตัวทันที เนลสันรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้าของทุกคน เขาหันกลับไปมองฝูงชน ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าใครคือคนที่หายไป

“เฟนด์อยู่ไหน? ฉันเห็นเขาก้าวขึ้นไปบนหุบเหวแห่งสุญญะด้วยตาของฉันเองแล้ว แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงไม่อยู่ที่นี่ล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า?” เนลสันถามด้วยความประหม่าเล็กน้อย

คนอื่น ๆ มีสีหน้าแปลกเสียยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำถามของเขา หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ ริฟก็ทำลายความเงียบและชี้ไปที่บริเวณข้าง ๆ เขา “ดูที่ว่างข้าง ๆ ผมสิ คุณจำได้ไหมว่าก่อนหน้านี้ใครเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้”

เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ เนลสันรู้อย่างชัดเจนว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร เฟนด์สังหารผีดิบไปแล้วอย่างน้อยหกสิบตัว และมันเทียบได้กับจำนวนที่เขาทำได้ เพียงแต่เฟนด์สามารถฆ่าผีดิบได้มากกว่าเขาเสียอีก! เฟนด์แข็งแกร่งมากจนแม้แต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟนด์เลยเหรอ? ถึงกระนั้นเฟนด์เพิ่งจะอยู่เพียงแค่ขั้นกลางของระดับแรกกำเนิดเท่านั้นไม่ใช่หรือ? เนลสันรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มุมปากของเขาสั่นเล็กน้อย “เฟนด์จริง ๆ เหรอ? ยังมีคนอยู่ในโลกสีโลหิตอีกกี่คน?”

ริฟให้ความสนใจกับผู้คนในโลกสีโลหิต เมื่อรวมกับการสนทนาที่ทุกคนมีในตอนนี้ เขาสามารถบอกได้เลยว่าใครยังคงต่อสู้อยู่ในโลกสีโลหิตอยู่ในขณะนี้ “ยังเหลือคนที่อยู่ในโลกสีโลหิตอีกห้าคน ในบรรดาห้าคนนั้น สองคนเป็นศิษย์จากสำนักสหัสบรรณ ในขณะที่อีกสองคนเป็นศิษย์จากสำนักวายชนม์ คนสุดท้ายคือเฟนด์จากตำหนักสองกษัตริย์ของเรา เหล่าสาวกจากสำนักอื่นได้ขจัดอุปสรรคไปได้สามขั้นแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาได้สังหารเหล่าผีดิบไปแล้วอย่างน้อยเก้าสิบตัว พวกเขาจะสามารถผ่านการท้าทายได้หากพวกเขาสังหารเหล่าผีดิบได้อีกสามสิบศพ”