“ศิลาจารึกงั้นเหรอ?”
“ใช่ มีภาพเขียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โบราณบางอย่างถูกจารึกไว้บนนั้น เมื่อได้ใช้เวลาศึกษามันอยู่สักพัก ซีเอียนก็บอกได้แค่เพียงว่า มันเป็นภาพที่เกี่ยวกับพิธีกรรมฝังศพอะไรสักอย่าง เขาไม่เข้าใจภาษาที่เขียนกำกับเอาไว้เลยแม้แต่น้อย และไม่นานนัก เขาก็เลิกสนใจมัน ทำให้ศิลาจารึกพวกนั้นถูกเก็บเป็นผลงานศิลปะในห้องส่วนตัวของข้า!” เจ้าแห่งวิญญาณอธิบาย
ภาพจิตรกรรมประวัติศาสตร์อีกแล้วเหรอ…?
เมื่อใดที่เจอรัลด์ได้ยินเกี่ยวกับงานจิตรกรรม มันมักจะทำให้เขาหวนนึกถึงสิ่งที่เขาได้เห็นในสุสานโบราณ
หลายคนรู้ดีว่าภาพจิตรกรรมโบราณมักจะบอกเล่าประวัติศาสตร์ของชีวิตคนโบราณ ที่สะท้อนให้เห็นเรื่องราวทางสังคม การเมืองการปกครอง การเงิน วรรณกรรม งานศิลปะต่าง ๆ รวมถึงความสามารถทางด้านเทคโนโลยีของผู้คนในอดีต จิตรกรรมแต่ละแห่งที่ค้นพบมักจะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี และแนวคิดทางรสนิยมของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงาน
บางครั้งภาพจิตรกรรมเหล่านี้อาจเล่าเรื่องราวที่ยาวดั่งแม่น้ำ และมันมักจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นฉากที่สวยงามและชัดเจน จากความทรงจำและเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยิ่งเรื่องราวมีความเป็นมาที่ซาบซึ้งกินใจมากเท่าไร มันก็ยิ่งทำให้งานจิตรกรรมเหล่านั้นทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อครั้งที่เจอรัลด์ได้อยู่ที่สุสานโบราณของขุนพลเทพเจ้า เขามีโอกาสได้สัมผัสมาแล้วว่า ภาพวาดเหล่านี้มีรายละเอียดมากเพียงใด เขายังจำได้ดีว่าภาพจิตรกรรมได้บอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาได้พบกับขุนพลเทพเจ้า จนถึงวันที่ฝังร่างเขาไว้ในสุสาน
“พอพูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็เพิ่งจะนึกออก ข้าเคยเชิญเพื่อนเก่าของข้าคนหนึ่งมาดูแผ่นศิลาจารึกนั้น เขาบอกว่าภาพเหล่านั้นได้พรรณนาเกี่ยวกับการฝังศพในสุสานใต้มหาสมุทรอะไรทำนองนั้น” เจ้าแห่งวิญญาณพูดเสริม
“การฝังศพในสุสานใต้มหาสมุทร?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็มีความรู้สึกว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับราชาแห่งสุสานมหาสมุทรก็เป็นได้ เขาจึงพูดว่า “ผมขอดูมันหน่อยได้ไหมครับ?”
“ถ้ามันจะมีประโยชน์สำหรับท่าน ก็ได้!” เจ้าแห่งวิญญาณตอบ ในขณะที่กวักมือเรียกเจอรัลด์ให้เดินตามเขาไป
เจ้าแห่งวิญญาณได้พาเจอรัลด์ไปที่เนินที่ตั้งอยู่บนสวนด้านหลังของโบสถ์ บนนั้นมีห้องส่วนตัวที่ผู้นำวิญญาณชอบมานั่งสมาธิเป็นประจำ
ห้องส่วนตัวนั้นมีขนาดความสูงประมาณห้าเมตร และกว้างสามเมตร กำแพงสร้างจากหินอ่อน ภายในห้องค่อนข้างมืดและโล่ง มีโต๊ะตัวหนึ่งวางอยู่กลางห้อง พร้อมกับตะเกียงน้ำมันที่จุดไฟ แสงเพียงแห่งเดียวในห้อง
ภายในห้องยังมีแผ่นศิลาจารึกที่ดูเก่าแก่ และถูกปกคลุมไปด้วยมอส ทั้งหกแผ่นวางเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ ดูแล้วน่าจะเป็นศิลาจารึกที่เจ้าแห่งวิญญาณพูดถึง
เจอรัลด์ยกตะเกียงที่เจ้าแห่งวิญญาณนำมาให้ขึ้น เขาเริ่มสำรวจแผ่นศิลาจารึกทันทีที่ไปยืนอยู่ข้างหน้าพวกมัน
หลังจากนั้น เขาก็สังเกตได้ว่าตัวอักษรที่เขียนสลักไว้บนนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับตัวอักษรที่เขาเคยเห็นในสุสานโบราณ เมื่อนำแผ่นศิลาจารึกของทั้งสองแห่งมาเปรียบเทียบกัน เขาก็คาดคะเนได้ว่า ศิลาจารึกเหล่านี้น่าจะมีอายุเก่าแก่พอ ๆ กับสุสานโบราณที่เขาพบ
เมื่อผู้นำหมู่บ้านเดินเข้าไปถามว่าศพที่อยู่ในโลงเป็นใคร ชายชราได้บอกกับเขาว่า เธอคือนางฟ้าที่ตกลงมาจากสวรรค์
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว ชาวประมงต่างก็พากันโค้งคำนับโลงศพ และจากนั้น ผู้นำหมู่บ้านก็เหมือนจะถามต่อว่า ทำไมพวกเขาถึงนำร่างเธอมาที่นี่
พอเห็นว่าขอทานชราได้ยื่นทองจำนวนหนึ่งให้กับผู้นำหมู่บ้าน เขาก็เดาว่าขอทานชราผู้นั้นคงจะบอกกับผู้นำว่าจะนำร่างของเธอมาฝังที่นี่ และในภาพถัดไป ขอทานชราก็บอกผู้นำให้นำคนของเขาไปสร้างสุสานใต้มหาสมุทรที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้าน
ด้วยเหตุผลที่ว่า หญิงในโลงศพนั้นเป็นนางฟ้า และพวกเขาได้รับทองจำนวนมากไป ผู้นำหมู่บ้านจึงทำตามคำสั่งของเขา ทุกคนในหมู่บ้านมีส่วนรวมในการก่อสร้างครั้งนั้นด้วยความตั้งใจที่อยากให้งานเสร็จในเร็ววัน
ในเวลาเพียงไม่นาน ผู้นำหมู่บ้านก็รวบรวมคน ทั้งคนแก่และเด็กหนุ่มได้ประมาณแปดพันคน จากนั้นพวกเขาก็ล่องเรือออกไปกลางทะเล เพื่อเริ่มสร้างสุสานให้กับนางฟ้า
เป็นที่น่าแปลกใจว่า พวกเขาตั้งชื่อสถานที่นั้นว่า ราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทร แทนที่จะเป็นพระราชวังของนางฟ้า
ภายใต้การควบคุมของขอทานชรา พระราชวังนั้นถูกสร้างเสร็จภายในเวลาเพียงครึ่งปี ในภาพจิตรกรรม ทุกคนดูประทับใจกับผลงานปฏิมากรรมใต้น้ำครั้งยิ่งใหญ่มาก หลังจากนั้นไม่นาน ศพของผู้หญิงชุดขาวก็ถูกฝังลงที่นั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน
แต่งนิยายยังไงให้ดูโง่ได้ขนาดนี้...