จนมาถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครเคยเห็นควีนน่ามีนิสัยแบบนี้มาก่อน ถึงอย่างไรก็ตาม ด้วยน้ำเสียงวางอำนาจของเธอ ทุกคนจึงทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากเชื่อฟังคำสั่ง เพราะความน่าเกรงขามของเธอนั้นช่างมีอิทธิพลเหลือเกิน!
เธอไม่ได้สนใจที่พวกเขาบอกว่าถึงแล้ว ควีนน่าแค่ก้าวเท้าลงจากรถ และออกเดินเข้าไปในคฤหาสน์
ภายในคฤหาสน์ ดูเหมือนจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในครอบครัวนิดหน่อย...
ถ้าไม่รวมเรื่องที่ว่าพวกยอร์นวิคยืนอยู่ด้วยกันหลายคน เฟรย่ากำลังเดินไปเดินมาด้วยความกังวลใจ
ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะรีบไปรับเพื่อนที่สนามบิน แต่เธอก็เพิ่งมารู้ว่าควีนน่าได้นำรถของครอบครัวออกไปกับเธอทุกคัน!
‘ให้ตายสิ!’ เฟรย่าสบถอยู่ในใจ
ควีนน่าก็เป็นแค่ลูกสาวของคุณอาคนที่สามของเธอเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเธอไม่ได้มีสถานะที่สูงส่งเลย! เมื่อคิดว่าเธออาจหาญพอที่จะใช้รถทุกคันออกไป ทั้ง ๆ ที่เฟรย่า...ที่ทึกทักเอาเองว่า...มีเพียงเธอเท่านั้นที่ใช้รถได้! ช่างน่าหงุดหงิดเสียจริง!
ขณะที่เฟรย่ายังคงโกรธอยู่นั้น ในที่สุดเธอก็เห็นควีนน่าเดินช้า ๆ ไปหากลุ่มพวกยอร์นวิค
“คราวนี้เราน่าจะทำโทษควีนน่าให้สาสมนะคะคุณพ่อ! ถึงเธอจะมาจากครอบครัวของอาสาม แต่นับวันเธอยิ่งจะเลินเล่อมากขึ้นทุกที เพราะความไม่เคารพผู้อาวุโสของเธอ!” เฟรย่าบอก
ส่วนลินัสนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมา พ่อแม่ของควีนน่ารีบเข้ามาหาเธอด้วยความโมโห ก่อนที่จะพูดขึ้น “เราจะลงโทษลูกสาวของเราเอง คุณหนู!”
“เพราะเธอใช้ทรัพย์สินของครอบครัว มันก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณอาว่าอยากลงโทษเธอยังไง แต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะสั่งสอนเธออยู่ดี!” เฟรย่าแผดเสียงด้วยความโกรธ
ถึงเฟรย่าอยากจะต่อว่าควีนน่าตั้งแต่เธอยืนอยู่ต่อหน้าเธอ แต่ควีนน่าไม่ได้หยุดเดินเลย...ความจริงแล้ว เธอไม่แม้แต่จะเอ่ยทักทายใครเสียด้วยซ้ำ!
ราวกับว่าเธอไม่เห็นคนในคฤหาสน์ ควีนน่าเพียงเดินไปยังห้องของเธอ โดยไม่พูดอะไรสักคำ!
และแน่นอนว่าการกระทำแบบนั้น ยิ่งทำให้เฟรย่าโกรธมากขึ้นไปอีก
เฟรย่าจึงตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “นี่ควีนน่า! เธอไม่เห็นหรือไงว่าเรายืนอยู่ตรงนี้? เธอจะไม่ทักทายเราสักหน่อยเหรอ? ไม่คิดเหรอว่าทำไมเธอถึงเอารถทุกคันของครอบครัวไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต? ขณะที่เรา...”
ถึงเฟรย่าจะมีเรื่องให้พูดอีกมาก เมื่อเธอได้เห็นหญิงสาวที่บอดี้การ์ดของครอบครัวลากเข้ามาในตอนนั้น เสียงของเธอก็ลดเบาลงด้วยความตกใจ ไม่ใช่เพียงเธอคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
หลังจากนั้นไม่นานนัก แจสมินก็ถูกพาเข้ามาในห้องของควีนน่า และเมื่อเธอถูกปล่อยตัว แจสมินก็จ้องมองมาที่เธอก่อนจะพูดขึ้น “...ฉันเคยเจอควีนน่ามาก่อน... เธอเป็นคนใจดีและอ่อนโยน! ความจริงแล้วที่คุณปู่ น้องสาว และท่านโจชัวยังคงปลอดภัยตลอดเวลาที่ผ่านมา ก็เพราะเธอแอบให้ความช่วยเหลือ! เธอมันโหดเหี้ยมเกินกว่าจะเป็นเธอได้!”
“...อ้าว? เธอไม่กลัวฉันเหรอ...? เธอไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าเธออย่างนั้นเหรอ?” ควีนน่าตอบ ขณะที่เธอมองหญิงสาวด้วยความสงสัย
“ไม่เลยสักนิด! ให้ตายเถอะ ไม่ใช่แค่ฉันไม่กลัวเธอ แต่ฉันยอมตายเพื่อเจอรัลด์ คนที่ฉันรักที่สุด! ถ้าเธอวางแผนจะใช้ฉันมาขู่ให้เจอรัลด์แต่งงานกับผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอ เธอล้มเลิกความคิดนี้ซะดีกว่า! รู้ไว้ซะด้วยว่าที่เธอข่มขู่เขาด้วยวิธีนี้ ฉันจะยอมฆ่าตัวตาย เพื่อไม่ให้เจอรัลด์ต้องมาเป็นห่วงฉันอีก!” แจสมินบอกให้รู้ โดยไม่แสดงความอ่อนแอออกมาทางน้ำเสียงของเธอ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของควีนน่าก็กระตุก ดูเหมือนว่าสิ่งที่แจสมินเพิ่งพูดออกมาจะทำให้เธอโกรธมาก
“...เธอเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยไม่ใช่เหรอ? โลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมาย ทำไมเธอถึงยังดึงดันที่จะรักเขาอยู่อีก? ถึงขั้นยอมสละชีวิตตัวเอง! เธอจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย! ทำไมถึงทำแบบนั้น?” ควีนน่าถามขึ้น ความหึงหวงฉายแววออกมาจากดวงตาของเธอ
จากสิ่งที่แจสมินพอจะบอกได้คือคำพูดของเธอ ทำให้ควีนน่านึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดของเธอ
“...เพราะฉันรักเขา! ด้วยความรู้สึกที่มั่นคงที่ฉันมีต่อเจอรัลด์ ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อเขาโดยไม่สงสัยในสิ่งที่ต้องทำ!” แจสมินตอบ
“...ฉันไม่เชื่อในความรัก และฉันจะไม่ยอมเชื่อว่าผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเกียรติและฐานะสูงส่งอย่างเธอ จะยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาได้จริง ๆ! เพราะแม้แต่ฉันเองก็ยังทำแบบนั้นไม่ได้... และเพราะแบบนี้ไง ฉันถึงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมาตลอดชีวิต!” ควีนน่าแผดเสียงพูดออกมา ขณะที่เธอกำมือแน่นจนเล็บแหลมจิกลึกลงไปในฝ่ามือของเธอ ทำให้เธอเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน
แต่งนิยายยังไงให้ดูโง่ได้ขนาดนี้...