ถึงแม้จะมีใครบางคนที่คิดต่าง แต่พวกเขาก็คงไม่กล้าที่จะออกความเห็น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้พวกเขาอาจได้รับรางวัล และชื่อเสียงจากการคิดค้นวิธีการรักษาที่ได้ผล แต่ถ้าพวกเขากระทำการผิดพลาดขึ้นมา พวกเขาก็คงจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนชั่วร้ายไปตลอดชีวิต
คงจะไม่มีใครอยากกลายมาเป็นแพะรับบาปของเรื่องนี้ด้วยความเต็มใจ
“... ไม่มีใครอยากพูดอะไรเลยเหรอครับ…?” เซนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ในขณะที่กำลังกวาดสายตามองคุณหมอทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุม
และแน่นอน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา พวกเขาเอาแต่หลบสายตาทุกครั้งที่ถูกสายตาของคุณหมอจับจ้องมา
เมื่อเห็นท่าทีของพวกเขาแล้ว เซนก็ได้แต่ถอนหายใจ อนาคตทางการแพทย์คงกำลังจะเดินทางมาถึงจุดจบแล้วเป็นแน่…
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังคิดว่าทุกอย่างได้พังทลายลงแล้ว ก็มีใครบางคนพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบว่า “ผมมีความคิดอะไรบางอย่างครับ”
เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนต้องการที่จะแสดงความคิดเห็น แพทย์ทุกคนที่อยู่ในห้องก็หันไปหาที่มาของเสียงทันที คนคนนั้นนั่งอยู่ตรงมุมห้องตลอดเวลาที่ผ่านมา หากเขาไม่พูดอะไรสักอย่างออกมา ทุกคนก็คงไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเขา
นอกจากทุกคนจะรู้สึกสับสนว่าทำไมเขาถึงต้องการที่จะออกความคิดเห็นแล้ว ทุกคนยังเข้าใจมาโดยตลอดว่า เขาอาจจะเป็นแค่ลูกศิษย์คนหนึ่ง คนขับรถ หรือเลขาส่วนตัวของคุณหมอแมบบ์เท่านั้น
“... ไหนบอกหน่อยสิ ว่าเขาเป็นใครกัน?”
“เขาไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของคุณหมอแมบบ์หรอกเหรอ…?”
“ไม่น่าจะใช่นะ! เท่าที่ฉันจำได้ คุณหมอแมบบ์มีลูกศิษย์แค่สองคนเท่านั้น!”
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน และจ้องมองมาที่เจอรัลด์ เขากลับไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับท่าทีเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ เขาได้เห็นข้อมูลทุกอย่างบนหน้าจอเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเขาเห็นว่าเด็ก ๆ มีอาการอวัยวะภายในล้มเหลวอย่างเฉียบพลันพ่วงเข้ามาด้วย เขาก็มั่นใจร้อยเปอร์เช็นแล้วว่า วิชากลืนกินดวงวิญญาณคือสาเหตุที่แท้จริงของอาการเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม คนที่ใช้วิชาเหล่านี้จัดการกับเด็กเล็ก น่าจะเป็นคนที่เพิ่งสำเร็จวิชามาได้ไม่นานนัก มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่เกินจริง หากจะบอกว่าพวกเขาใช้วิชานี้กับเด็ก ๆ เพื่อเป็นการฝึกฝนเท่านั้น!
เมื่อทุกคนกำลังตั้งใจฟัง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ความจริงก็คือ นี่ไม่ใช่อาการของโรคภัยไข้เจ็บ ที่เด็ก ๆ มีอาการแบบนี้ ก็เพราะมีคนกำลังระบายออกซิเจนออกจากร่างของพวกเขา ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายล้มเหลว! ด้วยเหตุที่อวัยภายในทำงานผิดปกติ พวกเขาจึงมีอาการปอดติดเชื้ออย่างที่เห็น!”
ทันทีที่เจอรัลด์พูดจบ เสียงอึกทึกครึกโครมก็ดังขึ้นภายในห้องประชุม หากจะให้พูดตามตรง หมอบางคนแทบจะหลุดหัวเราะออกมา แต่พวกเขาก็พยายามที่จะเก็บอาการ เพราะกำลังเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ตึงเครียดอยู่
“หนุ่มน้อย ฉันได้ยินหมอแมบบ์เรียกเธอว่า คุณคลอฟอร์ด ก็ตามนั้นเลยก็แล้วกันนะ เอาเป็นว่า ฉันอยากจะถามเธอหน่อยว่า เธอดูหนังเยอะเกินไปหรือเปล่า ได้โปรด เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ถ้าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ! มีใครบางคนกำลังระบายออกซิเจนออกจากเลือดของเด็ก ๆ อย่างนั้นเหรอ? เธอกำลังจะบอกว่า แวมไพร์เป็นคนทำเรื่องพวกนี้? ยิ่งไปกว่านั้น เด็กเหล่านี้ เป็นแค่เด็กแรกเกิด ที่ไม่เคยออกจากห้องเอ็น ไอ ซี ยู ด้วยซ้ำไป! เธอรู้หรือเปล่าเถอะว่า เอ็น ไอ ซี ยู ย่อมาจากอะไร? เธอคงจะไม่รู้จัก ฉันจะบอกให้ก็ได้นะว่า มันเป็นห้องดูแลทารกแรกเกิดที่มีภาวะวิกฤต! อากาศด้านในห้องเป็นระบบปิด เพราะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ!”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเธอจะให้คำแนะนำที่ฟังดูมีเหตุมีผลกว่านี้ แต่กลายเป็นว่า เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย! ลองคิดดูสิ ถ้ามีใครเอาเรื่องนี้ออกไปเผยแพร่! ประชาชนคงจะแตกตื่นวุ่นวายกันน่าดู! หมอนี่เป็นใครกันแน่ครับ คุณหมอแมบบ์?” หมอคนหนึ่งถามขึ้น ในขณะที่ยังจ้องหน้าเจอรัลด์
“ได้โปรด กรุณาเงียบก่อนเถอะนะครับทุกคน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน
แต่งนิยายยังไงให้ดูโง่ได้ขนาดนี้...