“...เธอสำคัญมากเลยเหรอคะ...? แม้แต่เจอรัลด์ก็ยังตามหาเธอ... พูดตามตรงนะคะ ถ้าในตอนนั้นคุณย่าไม่หลอกล่อเขาด้วยดอกแด้ด แอนนี่ส์ ตอนนี้เขาก็คงตามหาเธอพบแล้ว!” ยูเมะพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“แน่นอนว่าเขายังคงตามหาเธออยู่! เพราะผู้หญิงในชุดขาวคนนี้เป็นคนรักของเจอรัลด์!” อีเร็ตตอบกลับขณะที่เธอหรี่ตาลง
“...เธอคือ...ของเจอรัลด์ อะไรนะคะ? แต่... เธออยู่ในโลงศพนั้นมาไม่ต่ำกว่าหลายหมื่นปีไม่ใช่เหรอคะ?” ยูเมะเอ่ยถาม ส่ายหน้าด้วยความไม่เชื่อ
“ถ้าจะให้ละเอียดกว่านี้ เธอชื่อไซล่า ล็อคแลนด์ และเธอคือคนรักของเจอรัลด์เมื่อชาติที่แล้ว! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เลิกขัดจังหวะฉัน แล้วให้ฉันอธิบายให้ละเอียดก่อนที่เธอจะถามอะไรเพิ่มเติม! เธอจะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อฉันอธิบายจบ!” อีเร็ตตอบกลับ ขณะที่เธอวาดแขนไปไขว้หลังเอาไว้ ก่อนจะเริ่มเดินไปเดินมาขณะที่เธอค่อย ๆ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ยูเมะฟัง...
ยูเมะตั้งใจฟังที่อีเร็ตเล่า “ถึงฉันจะมั่นใจว่าแกรู้อยู่แล้วว่าตระกูลของเราเป็นตระกูลเก่าแก่ ฉันไม่คิดว่าฉันเคยบอกแกเรื่องอารยธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มานับแสนปีมาแล้ว... มันเป็นที่รู้จักกันในนามอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่!”
“ในตอนนั้น สำนักฝึกโบราณมีกันอย่างแพร่หลาย จึงมีผู้ฝึกบรรลุทิพยญาณมากมาย เพราะเหตุนี้นักรบผู้ยิ่งใหญ่และทรงพลังจึงถือกำเนินขึ้นจำนวนมาก อีกทั้งพวกเขายังสามารถทำสิ่งที่เหนือความสามารถของมนุษย์ได้ อย่างการแยกภูเขา แสดงปาฏิหาริย์ หรือแม้กระทั่งควบคุมธาตุทั้งห้า! พวกเขามีอำนาจดุจเทพเจ้า!”
“แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในบรรดาพวกเขา ได้มีคนคนหนึ่งที่ไม่เพียงแต่ฝึกตนจนบรรลุทิพยญาณเท่านั้น แต่เขายังไปถึงขั้นเป็นอมตะ! นับตั้งแต่วันที่เขาบรรลุความเป็นอมตะ เขาก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งบนสวรรค์และบนโลก โดยไม่ต้องกลับชาติมาเกิดใหม่!”
ยูเมะรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเบิกตาขึ้นกว้าง พบว่าทุกอย่างที่คุณย่าเล่าให้เธอฟังทั้งแปลกและลึกลับ...
“แต่ความรุ่งโรจน์ของอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่ก็เหมือนกับดาวตก หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือแม้มันจะทั้งสว่างไสวและพร่างพราว แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน อีกทั้งมันก็ไม่ได้ค่อย ๆ มอดดับลงด้วยเหมือนกันอารยธรรมทั้งหมดนั้นได้มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในคืนเดียว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ยูเมะจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “แต่...ถ้าอารยธรรมโบราณอันยิ่งใหญ่มีอยู่จริง และผู้คนในตอนนั้นทรงพลังอย่างที่คุณย่าได้เอ่ยถึง พวกเขาจะหายไป หรือตายแค่ภายในชั่วข้ามคืนได้ยังไงคะคุณย่า?”
“เป็นเพราะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์”
ขณะที่ลมหายใจของยูเมะถี่กระชั้นขึ้น เธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความไม่เชื่อ “คุณย่าคะ...คุณย่าคงไม่ได้กำลังจะบอกว่า เจอรัลด์คือวิญญาณบรรพกาลของยอดปรมาจารย์ในตอนนั้นใช่ไหมคะ...?!”
เมื่อเห็นว่ายูเมะตกใจมาก อีเร็ตจึงตอบกลับไป “ใช่แล้ว ฉันยังรู้ดีอีกว่านอกจากตระกูลของเรา และประตูมิติแห่งการพิพากษาแล้ว ยังมีคนอื่นอีกมากที่พยายามตามหา และเข้าใกล้เขาด้วยเหมือนกัน!”
“จำเอาไว้ว่าเจอรัลด์ยังมีพลังที่ปลดปล่อยออกมาได้อีกมาก และยังมีโอกาสอีกมากให้เขาได้พัฒนาต่อไป ด้วยเหตุผลนี้ทั้งตระกูลของเราและประตูมิติแห่งการพิพากษาจึงหวาดกลัวเจอรัลด์ เราไม่เพียงแต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ เท่านั้น แต่เราเกรงว่าจะทำร้ายเขาจนเกินไปอีกด้วย สุดท้ายแล้วใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราบังเอิญทำให้เขาโกรธมากจนพลังและความสามารถของเขาถูกเค้นให้ออกมา? เพราะแบบนี้สิ่งเดียวที่เรากล้าทำในตอนนี้คือ จับเขาให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก! เมื่อทำได้สำเร็จแล้ว เราจะค่อย ๆ คิดหาวิธีจัดการกับเขา!”
“รู้สึกว่าทั้งหมดนี้เป็นการพนัน และมีเพียงทางเลือกเดียวที่จะเอาชนะได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วฉันก็อยากให้แกมองภาพรวมในตอนนี้ แกยังคิดว่าเจอรัลด์คือคนที่แกควรจะตกหลุมรักอยู่ไหม?” อีเร็ตถามอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยูเมะก็ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ราวกับร่างกายของเธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ถ้าสิ่งที่อีเร็ตพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง... ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่เธอจะคู่ควรที่จะรักเขาจริง ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน
แต่งนิยายยังไงให้ดูโง่ได้ขนาดนี้...