อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 24

Fierce Lion…

เชคาริกยืนมองบูกัตติสีขาวมุก ป้ายทะเบียน R8888 แล่นเข้ามาจอดจึงเอ่ยถามคนที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามา

“อลัน! มาแต่วันเลย แล้วมิกิล่ะ”

“สวัสดีครับพี่เชค มิกิอยู่ที่วิลล่าครับพี่” ออร์แลนโด้ตอบพร้อมกับหันไปสั่งเบียร์กับพนักงานที่เดินผ่าน ก่อนจะหันมาฝืนยิ้มให้เชคาริก

“อ้าว! ทำไมไม่พามาด้วยล่ะ ว่าแต่เมื่อคืนมีเรื่องกันที่คลับหรอ” เชคาริกเอ่ยถาม เพราะเมื่อคืนได้ฟังจากคารอสมาคร่าวๆ เท่านั้น

“อ๋อ ใช่ครับ อิซซี่ไปดักตบมิกิที่ห้องน้ำน่ะครับ ตื๊อไม่เลิก น่ารำคาญชะมัดเลย”

“อืม แล้วมิกิเป็นไงมั่ง ตัวยิ่งเล็กๆ อยู่ด้วย ไม่เจ็บแย่เหรอ!” เชคาริกถามไถ่ถึงสาวน้อยคนสวยอย่างห่วงใย

“ก็ลงไปกองกับพื้นเลยน่ะสิครับ ผมนี่แทบอยากจะหักคออิซซี่ให้ตายคามือซะตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ” ออร์แลนโด้ยกเบียร์ขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้วอย่างต้องการดับอารมณ์ร้อนที่ปะทุขึ้นมา เหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปอยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นอีกครั้ง

“แต่พี่ชอบเพื่อนของมิกินะ คนที่ตบอิซซี่เมื่อคืนน่ะ” เชคาริกเอ่ยหลังจากได้ดูคลิปลับเมื่อคืน

“อ๋อ! ฟ้ารดาน่ะเหรอครับ ผมก็เริ่มจะชอบเธอขึ้นมาบ้างแล้ว”

“อ้าว! ตกลงเลิกหึงหวงฟ้ารดากับมิกิแล้วเหรอ!” เชคาริกหยอกเพราะเมื่อคืนตอนที่ออร์แลนโด้มาหาตนกับคารอส ท่าทางอย่างกับคนบ้า จนเขาและคารอสต้องพากันกล่อมอยู่นาน กว่าอีกฝ่ายจะยอมสงบเป็นผู้เป็นคน

“ผมเช็กดูแล้วครับ พวกเธอแค่เป็นเพื่อนรักกันเฉยๆ” ออร์แลนโด้รู้สึกอายนิดๆ ที่เมื่อคืนดันโอเวอร์แอคติ้งไปเยอะ กลัวว่าสองสาวจะเบี่ยงเบนทางเพศ

“ฮ่าๆๆ พี่เข้าใจนะ เป็นใครก็อดคิดไม่ได้” เชคาริกเอ่ยขำๆ

“ครับ” ออร์แลนโด้ก็อดขำตัวเองไม่ได้เช่นกัน ที่คิดฟุ้งซ่านไปไกล!

“แล้วนี่ตกลงทะเลาะอะไรกับมิกิเหรอ ถึงขับรถหนีมาดื่มตั้งแต่หัววันแบบนี้ หืม! อลัน” คนอาบน้ำร้อนมาก่อนเอ่ยถาม หลังจากที่อ้อมค้อมมานาน

“แหมพี่เชคนี่น่าจะไปเป็นหมอดูนะครับ”

“ไม่ใช่หมอดูหรอก แต่เคยผ่านมาก่อนเท่านั้นเอง ว่าไงล่ะ ตกลงจะเล่าหรือเปล่าอลัน!” เชคาริกเอ่ยพลางยกเบียร์ขึ้นมาจิบ

“ก็โกรธที่มิกิเห็นข่าวแล้วทำเหมือนกับไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของผมกับเธอ แถมตลอดเวลาก็พยายามจะลดสถานะของผัว เอ่อ...สามี ให้เหลือแค่แฟนที่เพิ่งคบหาดูใจกันเท่านั้น ทั้งๆ ที่เราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ผมก็เลยระเบิดอารมณ์ใส่เธอแล้วก็หนีออกมานี่แหละครับ” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็ยกเบียร์แก้วที่สองขึ้นดื่มต่อ

“พี่ถามอะไรสักอย่างนะอลัน แกเจอมิกิได้กี่วัน รู้จักมานานแค่ไหนแล้ว อย่าบอกนะว่ามิกิคือคนที่แกอุ้มพาดบ่าเดินออกจาก CLUB R&R ในคืนวันเกิดของคุณมะลิ” เชคาริกเอ่ยถาม

“พี่เชครู้เหรอครับ?” ออร์แลนโด้ถามอย่างงงๆ

“ไม่รู้มั้ง ดังกระฉ่อนออกขนาดนั้น”

“ก็ตามนั้นแหละครับ ผมเคยจีบสาวที่ไหน พี่เชคก็รู้...ปกติมีแต่มาเสนอตัวให้ แต่พอเห็นมิกิวันนั้น ต้องบอกว่าผมเดินไปหาเธอได้ยังไงไม่รู้เหมือนกันครับ พอรู้สึกตัวอีกทีก็หยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว” ออร์แลนโด้เล่าเรื่องในคืนนั้นให้ เชคาริกฟังอย่างหมดเปลือก เพราะต้องการระบายความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในใจให้ใครสักคนรับฟัง

“จนกระทั่ง...ได้ลงมือทำร้ายเธอในคืนนั้น และนั่น...ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่ใช่เจ้าชายน้ำแข็งที่เย็นชาคนเดิมอีกแล้ว ทุกอย่างในชีวิตของผมเปลี่ยนไปหมดโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ว่ามิกิรู้สึกอย่างไรกับผม อาจจะอยู่กับผมเพราะความกลัวหรืออะไรสักอย่าง แต่พี่เชคเชื่อไหม! ว่าคนที่เกลียดการผูกมัดที่สุดอย่างผม กลับกลัวว่าเธอจะไปจากผม กลัวว่าเธอจะเป็นของใคร ไม่อยากให้ใครมองเธอ ไม่อยากให้เธอพูดหรือยิ้มให้ใคร ให้ตายสิ! มันน่าหงุดหงิดชะมัดเลยครับ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน” พูดไปแล้วก็ยกเบียร์แก้วที่สาม ขึ้นดื่ม

เชคาริกตบไหล่รุ่นน้องคนสนิทเบาๆ และเตือนสติ “พี่เข้าใจแกนะ อลัน แต่แกก็ต้องนึกถึงความรู้สึกของมิกิบ้าง เธอยังเด็กและดูบอบบาง อาจจะตกใจกับข่าวที่มีแต่คนสนใจและจับตาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้ แกน่ะชอบใจร้อนนะ หัดใจเย็นหน่อยสิ ค่อยๆ เรียนรู้แล้วศึกษากันดู พี่เชื่อว่าแกสามารถทำให้มิกิรักได้ไม่ยากหรอก! มิกิเป็นสาวน้อยที่น่ารักมากๆ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปเชียวล่ะ เพราะพี่เชื่อว่ามีคนที่พร้อมจะดูแลเธอต่อทันที”

“ไม่มีทางอยู่แล้วครับ ผมไม่มีทางปล่อยมิกิไปอย่างแน่นอน อีกอย่าง...พี่เชคก็รู้ว่าผมไม่เคยคิดจริงจังกับใครมาก่อน” ออร์แลนโด้เอ่ยด้วยเสียงจริงจัง

“ผู้หญิงน่ะต้องการความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น พี่ว่าแกกลับไปหามิกิเถอะ ไม่รู้ว่าป่านนี้อาจจะกำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมจะหนีอยู่ก็ได้” เชคาริกเอ่ยหลังจากที่เห็นรุ่นน้องกระดกเบียร์แก้วที่สี่

“งั้นผมกลับเลยนะครับพี่เชค” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับลุกขึ้นพรวดทันทีทันใด

“โอเค แล้วค่อยเจอกันใหม่นะ มาครั้งหน้าพามิกิมาด้วยนะ มีเรียเขาถามหา” ‘หึ! สงสัยจะกลัวเมียหนีแน่ๆ’ เชคาริกแอบขำ

“ครับ” ชายหนุ่มหยิบกุญแจรถที่วางบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปอย่างรีบร้อน

“โชคดีอลัน” เชคาริกเอ่ยตามหลังคนที่เดินออกไป พลางส่ายหน้าน้อยๆ อย่างรู้สึกเพลียๆ

Scala Villa…บูกัตติเวย์รอนสีขาวมุกแล่นเข้ามาจอดด้านหน้าของสกาล่า ไม่ถึงนาทีออร์แลนโด้ก็ก้าวออกจากรถและเดินเข้าไปด้านใน พอเห็นกิติยืนอยู่ตรง ล็อบบี ก็ชี้ไปที่รถด้านนอกแล้วโยนกุญแจรถให้อีกฝ่าย

กิติเบี่ยงตัวกระโดดรับกุญแจรถแทบไม่ทัน พลางหันไปมองตามผู้เป็นนาย ที่เดินแกมวิ่งตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัวอย่างงงๆ

เมื่อครู่ตอนที่ออกไปก็รีบร้อนรวดเร็วราวกับพายุ ขากลับก็เร็วปานจรวดมิสไซล์ กิติถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะรีบไปจัดการกับรถของผู้เป็นนายที่จอดขวางทางอย่างเพลียๆ

ทันทีที่ลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดของสกาล่า ชายหนุ่มก็รีบเดินตรงไปยังห้องต่างๆ ตามหาแพรณาราด้วยหัวใจสั่นๆ กลัวว่าเธอจะหนีไป

จนสุดท้ายก็เจอหญิงสาวนอนหลับอยู่บนเตียงในห้องนอน ใบหน้านวลมีคราบน้ำตาติดอยู่ ออร์แลนโด้ถึงกับหัวใจกระตุกวูบขึ้นมาทันใด

‘พระเจ้า! นี่มิกินอนร้องไห้จนหลับไปเหรอเนี่ย’ เขาขยับขึ้นเตียงไปนอนข้างๆ แล้วรั้งสาวเจ้าเข้ามากอด “พี่ขอโทษค่ะ”

แพรณารารู้สึกตัวตั้งแต่ที่อีกฝ่ายขยับขึ้นมาบนเตียง พอได้ยินเขาเอ่ยคำว่า “พี่ขอโทษค่ะ” อยู่ๆ น้ำตาแห่งความน้อยใจ เสียใจ ก็ไหลออกมาอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งจะหยุดร้องไปได้ไม่นาน

“ปล่อยค่ะ” เธอเช็ดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมา

“พี่ขอโทษคนดี หายโกรธพี่นะคะ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับดึงสาวเจ้าให้มาเผชิญหน้ากับตน ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลแต่มันกลับทำให้แพรณาราร้องไห้หนักกว่าเดิมเข้าไปอีก

“ฮือๆ ทำไมไม่คุยกันดีๆ ทำไมพี่อลันต้องเสียงดังใส่มิกิด้วย” หญิงสาวต่อว่าอย่างน้อยใจที่ถูกคนอารมณ์ร้อนระเบิดอารมณ์ใส่

“โอ๋ๆ พี่ขอโทษค่ะ ไม่ร้องนะคะคนดี ชู่ว์ๆ” ออร์แลนโด้รีบยกมือขึ้นลูบหลังให้อย่างรู้สึกผิด

“มิกิไม่ชินที่ถูกคนจับตามอง มิกิเป็นแค่คนธรรมดา ฮือๆ ได้โปรด...ให้เวลามิกิปรับตัวหน่อยได้ไหม ฮือๆๆ” แพรณาราเอ่ยไปร้องไห้ไป เพราะเธอไม่อยากให้เขาหันหลังแล้วทิ้งให้เธออยู่คนเดียวแบบนี้ หัวใจ...มันรู้สึกเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ให้ได้

“พี่ขอโทษที่โมโหร้ายใส่มิกิค่ะ การที่นักข่าวหลายๆ สำนักเขียนข่าวของเราแบบนี้ก็เพื่อกลบข่าวของน้องฟ้า เป็นการแลกกัน พี่เป็นคนอนุญาตให้พวกเขาเขียนข่าวเอง แต่พี่ไม่ได้ให้ข่าวใดๆ ทั้งสิ้น มิกิเข้าใจไหมคะว่าข่าวของเราสองคนมีมานานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเขียนหรือเสี่ยงที่จะเขียน เพราะเกรงหลายๆ อย่างที่จะตามมาแบบที่พวกเขาอาจจะคาดไม่ถึง แล้วข่าวของเราที่ออกมาวันนี้ ก็ถูกส่งมาให้พีเคตรวจเมื่อคืนแล้ว และพี่ก็ไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนที่ไม่ใช่เรื่องจริง!” ออร์แลนโด้อธิบายเหตุผลให้ฟังเกี่ยวกับข่าวที่ออกมา

แพรณาราหยุดร้องไห้แล้วฟังอีกฝ่ายพูดอย่างตั้งใจ พลางรู้สึกเขินอายที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนอนุญาตให้เขียนข่าวของเธอกับเขา จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างอายๆ “เอ่อ...แล้วพี่อลันไปไหนมาคะ เหม็นเหล้าจัง”

“หืม! กล้าเหม็นพี่ด้วยเหรอฮะ! ก็เพราะมิกิน่ะแหละ ชอบทำให้พี่บ้าอยู่เรื่อย” ออร์แลนโด้ซบหน้าลงกับหน้าอกคู่สวยเพื่อให้สาวเจ้าอารมณ์ดี

“บ้า! ไม่ใช่สักหน่อย” เธอพยายามจะดันหน้าของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากหน้าอกของเธอ

“ใช่! เพราะมิกิน่ะแหละ ที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้ เพราะมิกิคนเดียว!” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับซุกหน้าไปมา

“เอาหน้าออกไปเลยนะ คนบ้า!” แพรณาราดิ้นไปมาเพราะรู้สึกจั๊กจี้

เธอมองค้อนนิดหนึ่งก่อนจะรีบกดรับสาย “สวัสดีค่ะคุณพีเค อ๋อ! ได้สิคะ ขึ้นมาได้เลยค่ะ พอดีพี่อลันทำสุกี้ มาทานด้วยกันนะคะ ค่ะ สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกดวางสายแล้ววางมือถือไว้บนโต๊ะ

“พีเคว่าไงคะ”

“คุณพีเคถามว่าขึ้นมาได้หรือเปล่า? ทำอะไรอยู่”

“จะมาทำไมวะ?” ออร์แลนโด้บ่นเบาๆ

“แล้วทำไมถึงมาไม่ได้คะ พี่อลันทำออกตั้งเยอะ ทานสองคนไม่หมดหรอกค่ะ อีกอย่างทานหลายๆ คนสนุกออก” สาวเจ้าส่งยิ้มให้คนที่ดูหน้าบึ้งขึ้นมานิดๆ

“สนุกอะไรคะ ก้างขวางคอต่างหาก คนเขาจะหวานกันบ้างอะไรบ้าง เบื่อจริงๆ ไอ้พวกไม่มีแฟนเนี่ย มันไม่มีที่ไหนจะไปเลยหรือไงนะ ถึงชอบมายุ่งกับผัวเมียเขาอยู่ได้” ออร์แลนโด้บ่นยาวราวกับคนแก่ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนก็ไปไหนมาไหนกับอันโตนีโอ้ตลอด

แพรณาราแอบขำกับคำว่า หวานบ้างอะไรบ้าง ของเขา พลางส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเดินหนีออกมาด้านนอกเพื่อจัดแก้วน้ำและถ้วยชามต่อ พอกลับเข้ามาในครัว ก็เห็นอันโตนีโอ้เดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาพอดี

“สวัสดีครับบอส สวัสดีอีกรอบครับคุณมิกิ” อันโตนีโอ้เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

“เออ! มีอะไรไหม” ออร์แลนโด้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

“แหม! บอสละก็ ผมไม่ได้เห็นหน้าบอสทั้งวันก็อดคิดถึงไม่ได้น่ะสิครับ” อันโตนีโอ้หยอกเย้าผู้เป็นนายที่หน้าบึ้งๆ ตาขวางๆ อย่างนึกสนุก

“พี่อลันพูดไม่เพราะเลย มิกิว่าคุณพีเคไม่ต้องไปสนใจหรอกค่ะ”

“ฮ่าๆๆ ครับคุณมิกิ เอ่อ...แล้วบอสให้ผมช่วยทำอะไรบ้างครับ” อันโตนีโอ้อาสาอย่างเอาใจเจ้านาย

“เหลือน้ำจิ้ม ทำเลยนะ” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วส่งให้อันโตนีโอ้รับช่วงต่อ

“ได้ครับ! เดี๋ยวผมจะทำสุดฝีมือเลย” ชายหนุ่มรับผ้ากันเปื้อนมาสวม เตรียมทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่เคยทำเป็นประจำ

“มิกิจ๊ะ เดี๋ยวพี่มานะ ขอเข้าไปดูงานไม่เกินสิบนาทีค่ะ” ออร์แลนโด้หยิบซองสีน้ำตาลที่อันโตนีโอ้วางลงใกล้ๆ ให้อย่างเข้าใจความหมาย แล้วเดินมากอดสาวเจ้าโยกตัวไปมานิดหนึ่ง ก่อนจะหอมแก้มนวลเบาๆ แล้วเดินออกไป

แพรณาราหน้าแดงขึ้นมาทันใด รู้สึกอายเพราะมีอันโตนีโอ้อยู่ด้วย แต่พอหันกลับมามอง ก็เห็นอีกฝ่ายมัวเตรียมของทำน้ำจิ้มอยู่ จึงแอบโล่งใจ “คุณพีเค ให้มิกิช่วยไหมคะ!”

“เดี๋ยวคุณมิกิช่วยชิมก็พอครับ” อันโตนีโอ้หันมาบอกยิ้มๆ พร้อมกับหยิบพริกขี้หนู ใบผักชี ขิง เต้าหู้ยี้สามก้อนกับงาขาวใส่ลงไปในเครื่องปั่น ก่อนจะเทซอสพริกใส่ตามลงไปจนหมดขวด แล้วกดปั่นจนละเอียดประมาณสองนาที ก็ปิดเครื่องปั่น

จากนั้นก็หันไปหยิบกระเทียมจีนที่แกะเปลือกออกมาหั่นสไลซ์บางๆ ประมาณยี่สิบกลีบ และสับต่อจนละเอียด พอเสร็จก็จัดการสับพริกขี้หนูต่อ ไม่ถึงสิบห้านาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย

แพรณารามองชายตรงหน้าอย่างอึ้งๆ พร้อมกับนิ้วให้อย่างชื่นชมในความสามารถ “ว้าว! สุดยอดเลยค่ะ”

“ฮ่าๆๆ สู้บอสไม่ได้หรอกครับ! เมื่อก่อนพวกเราจะมีนัดรวมตัวกันเกือบทุกเดือนที่คฤหาสน์ มาดามกับคุณเดือนนภาที่เป็นหัวหน้าแม่ครัวจะโชว์ฝีมือทำกับข้าว และกับแกล้มให้พวกผมตลอด แต่ตอนนี้เลื่อนนัดสังสรรค์ต้องออกไป เพราะที่คฤหาสน์กำลังจัดเตรียมงานแต่งให้คุณแพททริกสันกับคุณพิมพลอยน่ะครับ เดี๋ยวคุณมิกิก็จะได้เจอกับมาดามแจสมิน ท่านใจดีและเป็นกันเองมากๆ ครับ” อันโตนีโอ้เล่าอย่างอารมณ์ดี

“เอ่อ…” แพรณาราอึกอักและแอบหวั่นใจขึ้นมานิดๆ หลังได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถึงมารดาของออร์แลนโด้

“คุยเรื่องอะไรกันจ๊ะ หืม...” คนที่เดินกลับเข้ามาเอ่ยถาม ก่อนจะสวมกอดสาวเจ้าจากทางด้านหลัง ทำเอาคนถูกกอดหน้าเหวอขึ้นมาทันที

“อ๋อ! เรื่องทำกับข้าวครับบอส” อันโตนีโอ้ตอบพร้อมกับอมยิ้มที่เห็นผู้เป็นนายเอะอะก็กอด เอะอะก็หอม จนเขา...ซึ่งเป็นบุคคลที่สามทำตัวแทบไม่ถูก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ