เพียะ! เพียะ!
“เลว! ไหนบอกว่าจะไม่ทำแบบนี้กับมิกิอีกแล้วไง ฮือๆๆ” แพรณาราต่อว่าไปร้องไห้ไปอย่างเจ็บใจ
ชายหนุ่มหน้าหันไปตามแรงตบที่ตวัดมาถึงสองครั้งติดๆ กัน จนทำให้หยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองหญิงสาวเต็มตา
“พี่โทร. กลับไป ทำไมถึงปิดเครื่อง! แถมตอนบ่ายยังไปนั่งทานข้าวกลางวันกับไอ้เบื๊อกนั่นอีก แล้วรู้ไหมว่าพี่ทำกับข้าวเย็นรออยู่ที่ห้องน่ะ รู้ไหม! ว่าตอนนี้เขาหากันให้ควั่กขนาดไหน ถ้าเกิดว่าไอ้คาทอร์นั่นจับตัวไปอีกจะเป็นยังไง! แล้วยังกล้าดีมาปาแหวนใส่หน้าพี่อีก แบบนี้จะให้พี่ทำยังไง ตอบมาสิมิกิ!” หลังจากที่โดนตบไปสองครั้งติดๆ กัน ก็ทำให้คนที่กำลังโมโหจนหน้ามืด เย็นลงไปเกือบครึ่ง!
‘เขาไม่ได้อยากจะทำร้ายเธอเลยให้ตายสิ! แต่มันโกรธจนอยากจะฆ่าให้ตายนัก! เขาอุตส่าห์เลิกประชุมเร็วเพื่อมาทำกับข้าวรอ พอทำเสร็จก็ไปเปิดดูมือถือ ก็เห็นมีสายของเธอโทร. เข้ามา เลยรีบโทร. กลับ แต่เธอกลับปิดเครื่อง เขาหงุดหงิดแทบบ้า! พอเปิดดูข้อความไลน์ที่พีเคส่งมา ก็เห็นภาพถ่ายของเธอและมาร์ติน สถาปนิกฝีมือดีของบริษัท! ถูกส่งมาตั้งแต่ตอนบ่าย จึงกดเลื่อนดูรูปอื่นๆ ก็รู้ได้ทันทีว่ามาร์ตินต้องแอบชอบมิกิอยู่แน่ๆ
เขารีบโทร. หาพีเค ถามว่าจนป่านนี้แล้วทำไมเมียเขายังไม่กลับมาที่ห้อง ทันทีที่มือขวาคนสนิทบอกว่ากำลังตามหาตัวเธออยู่ มันทำให้เขาคลั่งจนทนไม่ไหว ขับรถตามไปที่บริษัท และชกพีเคไปหลายที ตามด้วยการ์ดคนอื่นๆ ที่ให้มาตามดูเมียของเขา แต่ดันปล่อยให้คลาดสายตาไปได้
เขาสั่งระดมคนออกตามหาตัวเธอ ขณะเดียวกันก็พยายามข่มอารมณ์ ไม่ให้เดินไปหยิบปืนในรถออกมายิงคนสนิทที่ทำงานสะเพร่า ทำเมียของเขาหาย เขาขับรถกลับมารอฟังข่าวที่สกาล่า รออยู่นานเกือบสองชั่วโมง คิดไปสารพัดว่าเธอจะถูกคาทอร์จับไปหรือเปล่า? หรือว่าจะไปกับมาร์ติน? หรือจะหนีเขาไปเพราะเรื่องที่ทะเลาะกันเมื่อตอนสาย?
หึ! แล้วดูเธอตอนนี้สิ! นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่บนเตียง คิดจะไปจากเขา... มันสายไปตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้วละ!’
“มิกิไปทานข้าวกับนานา แล้วมาร์ตินมาขอนั่งด้วย ส่วนตอนเย็นมิกิโทร. ไปบอกแล้ว แต่พี่อลันไม่ไปรับสาย นานาขอร้องให้ไปทำกับข้าวทานด้วยกัน เพราะพ่อกับแม่ของเธอไปต่างประเทศ ก็แค่นั้น ฮือๆๆ” แพรณารารีบอธิบายทันทีที่มีโอกาส พลางรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วง และทำกับข้าวรอเธอ ก็ใครจะไปรู้ล่ะ? เธอโทร. ไปก็ไม่รับสาย ก็คิดว่าจะยังโกรธอยู่เลยไม่กล้าโทร. อีก ส่วนที่โทร. มาไม่ติดคงเป็นเพราะแบตโทรศัพท์หมด และเธอก็ไม่ได้หยิบมือถือขึ้นมาดูอีกเลย เพราะมัวแต่ทำอาหารกับนานา
“รู้ว่าพี่รักพี่หวง ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีก! ครั้งหน้าจะไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้แก้ตัว จำไว้!” คนที่มีรอยนิ้วแดงๆ บนซีกแก้มด้านซ้าย ลุกออกจากเตียงแล้วเดินตรงไปนอกห้องนอนทันที
แพรณารานิ่งอึ้งกับคำว่า “พี่รักพี่หวง” เธออายจนหน้าแดงก่ำ รีบหยิบเสื้อขึ้นมาสวมใส่ลวกๆ แล้วลงจากเตียงตรงไปห้องน้ำ จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกผิดที่รู้ว่าเขายังไม่ได้ทานข้าว เพราะเอาแต่ห่วงเธอ จนทำให้โกรธมากมายขนาดนี้ ลึกๆ เธอแอบดีใจที่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญต่ออีกฝ่ายจริงๆ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนแล้ว แพรณาราก็รีบออกไปหา อีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิด เธอมองคนที่นั่งหันหลังให้อยู่ตรงบาร์เครื่องดื่ม เห็นเขายกแก้วขึ้นกระดกติดๆ กัน พลัน! หัวใจก็เริ่มสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“พะ...พี่อลันคะ มิกิหิวข้าวค่ะ” แพรณารากลั้นใจเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ไปทานมาแล้วไม่ใช่เหรอ” ออร์แลนโด้หันมาถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ทานไปนิดเดียวค่ะ ไม่อร่อยเหมือนที่พี่อลันทำให้ทาน” แพรณาราพยายามหน้าด้านงอนง้ออีกฝ่าย ทั้งๆ ที่รู้สึกกระดากอาย แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาบึ้งตึงใส่
“จะขอโทษพี่เมื่อไหร่!” ออร์แลนโด้ถามเข้าเรื่องอย่างไม่อ้อมค้อม
“เอ่อ...มิกิขอโทษค่ะ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว” เธอเอ่ยน้ำเสียงเศร้าๆ
ออร์แลนโด้ที่ใบหน้ายังมีรอยนิ้วจางๆ ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา ก่อนจะดึงมือข้างซ้ายของสาวเจ้าขึ้นมา แล้วบรรจงสวมแหวนเพชรวงเดิมให้ พร้อมกับเอ่ยคาดโทษ “อย่าคิดที่จะถอดมันออกอีก ไม่อย่างนั้นชีวิตนี้จะได้อยู่แต่ในห้องไปตลอด ไม่เชื่อก็ลองดู!”
“เดี๋ยวคะ พี่อลันจะไปไหน ไม่หิวข้าวเหรอคะ” แพรณาราถาม เสียงสั่นๆ หลังจากที่อีกฝ่ายสวมแหวนให้เธอเสร็จ เขาก็ช้อนอุ้มเธอขึ้น แล้วเดินตรงไปยังห้องนอน
“หิวสิ! แต่ตอนนี้หิวอย่างอื่นมากกว่า” ออร์แลนโด้บอกก่อนจะจ้องมองใบหน้าแดงก่ำของคนในอ้อมกอด ด้วยความรู้สึกกระหาย อยากจะปลดปล่อยความต้องการบางอย่างที่อัดแน่นมาตลอดสาม-สี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
จากนั้น...บทรักที่เร่าร้อนบนเตียงใหญ่ก็เริ่มขึ้นถึงสามยกติดๆ กัน ก่อนที่ออร์แลนโด้จะพาสาวเจ้าที่แทบจะหลับคาอกไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ ก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่ พร้อมกับสวมให้คนที่หน้าแดงก่ำ ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังโกรธหรือว่าอายเขาอยู่กันแน่
ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนจะก้มลงช้อนอุ้มสาวเจ้าออกมาที่โต๊ะทานอาหารด้านนอก
แพรณาราหน้าบูดบึ้งเพราะบทรักที่ร้อนแรงบนเตียงของคนหื่นเมื่อชั่วโมงก่อน ทำให้เธอแทบจะขาดใจตายเสียให้ได้
“จะลงมือป้อนข้าวพี่ได้หรือยัง ไถ่โทษน่ะทำเป็นไหม?”
“ตั้งสามรอบนี่ยังไม่พออีกเหรอคะ” แพรณาราเอ่ยประชดคนเซ็กซ์จัด! ไม่รู้จักพอ! บ้ากาม! บ้าพลัง!
“โทร. กลับปิดเครื่อง ตอนกลางวันไปทานข้าวกับผู้ชายคนอื่น เลิกงานแล้วไปไหนไม่บอกใคร ทิ้งให้พี่รอกินข้าวเย็นอยู่ที่ห้อง กลับดึก ปาแหวนใส่หน้าพี่ แถมตบพี่อีกสองที ทำให้คนอื่นต้องออกตามตัวกันให้วุ่นวายไปหมด แน่นอนว่างานนี้มีคนเจ็บตัวเพราะการกระทำของมิกิไปหลายคน!” ออร์แลนโด้ร่ายความผิดให้สาวเจ้าฟัง
“ขอโทษค่ะ ต่อไปนี้เวลาจะไปไหนมิกิจะบอกพี่อลันก่อน”แพรณาราเอ่ยเสียงเศร้าๆ พลางแอบค้านในใจ ‘แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องบนเตียงล่ะ?’
“ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ” ออร์แลนโด้หันไปตอบพร้อมกับยกยิ้มตรงมุมปากขึ้นนิดๆ อย่างมีเลศนัย
“ทะ...ทำไมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างรู้สึกหวั่นใจนิดๆ
“เพราะต่อจากนี้ไป เราจะไปไหนด้วยกันตลอด พี่จะไม่ยอมปล่อยให้มิกิคลาดสายตาอีกแม้แต่วินาทีเดียว” ออร์แลนโด้หัวเราะในลำคอก่อนจะลงมือทานอาหารต่ออย่างอารมณ์ดี ‘หึ! จะหนีก็ไม่ทันแล้วละมิกิ เพราะพี่เสกอลันน้อยไปหลายรอบแล้ว’
ช่วงสายๆ ของวันรุ่งขึ้น...แพรณาราขยับตัวลุกขึ้น พลางมองหาคนเอาแต่ใจ ก็ไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในห้อง เธอจึงรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ออกไปตามหาที่ข้างนอก แต่ก็เห็นอีกฝ่ายเดินออกจากครัวมาพอดี
“อ้าว! ตื่นแล้วหรือคะ พี่กำลังจะเข้าไปตามอยู่พอดี” ออร์แลนโด้เอ่ยยิ้มๆ หลังจากเข้าครัวทำข้าวต้มทรงเครื่องเสร็จ
“ค่ะ” แพรณารารับคำเบาๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องทานข้าว แต่อยู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “ตายจริง! นี่กี่โมงแล้วคะ?”
“ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ ต่อไปนี้มิกิไม่ต้องไปทำงานแล้ว” ออร์แลนโด้บอกเสียงเรียบ
“ทะ...ทำไมล่ะคะ” แพรณาราถามเสียงตื่นๆ
“พี่ไม่ให้ไปทำแล้วค่ะ! เพราะไม่รู้ว่าจะเบรกตัวเองได้อีกกี่ครั้ง พี่ไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนมองหรือมาเข้าใกล้เมียของพี่” ออร์แลนโด้เอ่ยนิ่งๆ
“เอ่อ...แต่มิกิอยากจะ...”
“จะออกตอนนี้ หรือจะออกตอนที่ผัวติดคุกคดีฆ่าหึงโหดล่ะ เลือกเอาแล้วกัน! แล้วเพื่อนที่ไปทานข้าวที่บ้านเขาเมื่อวานน่ะ ชื่ออะไร วันหลังชวนมาทานที่ห้องเราด้วยสิ”
“ชะ...ชื่อนานาค่ะ” แพรณาราบอกเสียงสั่น
“พี่ไม่ว่านะถ้ามิกิไปไหนกับเพื่อน แต่บอกให้พี่รับรู้ด้วย อย่าลืมสิ! มิกิเป็นเมียพี่ มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทุกอย่างที่เป็นของพี่ ส่วนเรื่องสัญญาบ้าบอนั่น ลืมมันซะ! เพราะเราก้าวผ่านคำว่าแฟนมานานแล้ว” แต่เป็นคำว่าสามีกับภรรยามาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก ออร์แลนโด้ต่อท้ายในใจ
“...” แพรณาราอึ้งแล้วอึ้งอีกจนพูดอะไรไม่ออก เพราะยังใจสั่นกับทุกประโยคที่เขาบอกเมื่อครู่
“อ๊ะ! เงียบอยู่นั่นแหละ มาทานข้าวต้มกันดีกว่า เดี๋ยวพี่ป้อนให้ ขยับมานั่งบนตักพี่สิ” ออร์แลนโด้ตบที่ตักให้สาวเจ้าเข้ามานั่ง
หญิงสาวถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะลุกมานั่งตามที่คนตัวโตบอกอย่างมึนๆ
หลังจากทั้งคู่ทานข้าวเสร็จ ออร์แลนโด้ก็เตรียมเข้าบริษัท โดยปล่อยให้สาวเจ้าพักผ่อนอยู่ที่ห้อง และบอกว่าตอนเย็นจะเข้ามารับไปซื้อของมาทำกับข้าว ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนวลทั้งสองข้างเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หญิงสาวหน้าแดงมองตามหลังคนที่เดินผิวปากออกไป บางครั้งเขาก็เอาแต่ใจ บางครั้งก็โมโหร้าย บางครั้งก็ทำตัวโรแมนติก และบางครั้งก็ขี้หึงเว่อร์จนน่ากลัว
ขณะที่แพรณารากำลังคิดอะไรเพลินๆ เสียงกดกริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้น เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตู เพราะคิดว่าออร์แลนโด้คงลืมของเอาไว้แน่ๆ
แต่พอเปิดประตูออกไป ก็ถึงกับตกใจที่เห็นใบหน้าของอันโตนีโอ้เขียวช้ำ มุมปากมีรอยแตกนิดๆ
“สะ...สวัสดีค่ะคุณพีเค หน้าไปโดนอะไรมาคะ ทำไมถึง...” เธอถามอย่างสงสัย
“สวัสดีครับคุณมิกิ คือ...ผมโดนบอสต่อยมาเมื่อวานน่ะครับ” อันโตนีโอ้ตอบตามจริง พร้อมกับส่งยิ้มให้สาวตรงหน้า
“อย่าบอกนะคะว่าเป็นเพราะมิกิ...” เธอถามด้วยใจสั่นๆ
“ถูกต้องนะคร้าบ คุณมิกิได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไป” อันโตนีโอ้ลากเสียงยาวราวกับพิธีกรรายการหนึ่ง
“มิกิขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ” แพรณาราเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คนอื่นโดนเยอะกว่าผมอีก” อันโตนีโอ้พูดให้ดูเป็นเรื่องตลก ทั้งๆ ที่โคตรจะปวดหน้าสุดๆ
“มีคนอื่นเจ็บอีกหรือคะ” แพรณารารู้สึกผิดหนักกว่าเดิมเข้าไปอีก
“ครับ อีกสี่คน แหม! ถ้าผมโดนคนเดียวละก็ ตอนนี้อาจจะอาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียูก็ได้ครับ ฮ่าๆๆ” อันโตนิโอ้บอกพลางหัวเราะเบาๆ
ไทเลอร์ : “ไปไม่ได้ ยังไม่มีเมีย อีกอย่างต้องรอไปงานมึงก่อนว่ะ อิอิ”
อันโตนีโอ้ : “อิอิ พ่องมึงสิ พวกมึงน่ะแหละจะได้ไปก่อนกูโว้ย!!”
จิมมี่เจมส์ : “ว้า… กูนึกว่าจะได้กินกระเพาะปลาแล้วซะอีก”
อันโตนีโอ้ : “เดี๋ยวงานมึงเมื่อไหร่ กูจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงเอง จะตักใส่ถ้วยแล้วเคาะฝาโลงให้มึงตื่นขึ้นมากิน hahaha”
มาร์ค : “เฮ้อ! กูอุตส่าห์เตรียมชุด เซ็งชิบ!”
ไทเลอร์ : “กูก็เซ็งว่ะ”
จิมมี่เจมส์ : “กูเซ็งด้วยคน”
โดโนเวล : “กูก็แอบเซ็งเบาๆ”
อันโตนีโอ้ : “เซ็งจนตายไปเลยนะพวกมึง” (สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพที่เพิ่งจะถ่ายภาพสดๆ ร้อนๆ จากอันโตนีโอ้ถูกส่งเข้ามาในไลน์กลุ่ม)
จากนั้นก็ตามด้วยข้อความและสติ๊กเกอร์อีกมากมาย บ้างก็บ่นเล็กจัง ไม่ถึงใจ บ้างก็บอกต้องเพิ่มนิ้วชี้เข้าไปอีกนิ้วจะกำลังดี และอีกเยอะแยะมากมาย บลาๆๆ
อันโตนีโอ้กลอกตาอย่างเซ็งๆ รู้สึกเบื่อหน่ายไลน์กลุ่มของแก๊งมือขวาจนต้องรีบกดปิดหน้าจอมือถือ
‘เมื่อวานเป็นเพราะเขามัวแต่รอดูคลิปสยิวจากไอ้ห่าดอม เลยทำให้ลืมดูเมียของเจ้านาย ความจริงวันนี้เขาน่าจะขับรถไปดักกระทืบมันด้วยซ้ำ แม่ง! หลอกให้รออยู่ตั้งนาน ไม่ยอมส่งคลิปมาให้ดูซักที!’
ด้านแพรณาราถึงกับเคลิ้มที่เห็นลูกหมาน่ารักๆ เยอะเเยะมากมาย มีทั้งอยู่ในกรงและบางตัวเจ้าของปล่อยให้ออกมาเล่นด้วย
“มิกิชอบแบบไหนครับ” คารอสถามยิ้มๆ
“ไม่รู้สิคะ น่ารักหมดทุกตัวเลย” เธอตอบอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหันไปมองลูกหมาสีดำตัวหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาหา พร้อมกับเอาคางมาวางบนตักของเธอ และไม่ยอมขยับตัวไปไหน หน้าตาของเจ้าหมาน้อยนั้น ออกไปทางน่าเกลียดนิดๆ ใบหน้าย่นๆ บึ้งตึง ตาโต ดูราวกับว่าอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา
คารอสมองลูกหมาตัวน้อยสายพันธุ์ French Bulldog (เฟรนช์ บูลด็อก) แล้วก็อดขำไม่ได้ กับสายตาที่ส่งไปออดอ้อนหญิงสาว “ฮ่าๆๆ ไอ้ตัวนี้หน้าตาน่าเกลียดนะครับ แต่ขี้อ้อนจัง”
“นั่นสิคะ มาถึงก็ซบเลย” แพรณาราเอ่ยเสียงอ่อน ก่อนจะลูบที่หัวของเจ้าหมาน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู
“ผมว่าไอ้ตัวนี้หน้ามันคุ้นๆ นะครับ” อันโตนีโอ้ที่เดินเข้ามาถึงแสดงความคิดเห็นทันที
“ฉันก็ว่านะ หน้ามันคล้ายใครวะ” คารอสเงยหน้าขึ้นตอบ
ทุกคนเงียบและครุ่นคิดในใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาพร้อมๆ กัน
“เหมือนบอสตอนโกรธเมื่อวานครับ/ เหมือนอลันตอนโมโห/ เหมือนพี่อลันตอนกลายร่างเลยค่ะ”
ทั้งสามหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของคนที่ถูกเปรียบเทียบ
“ใช่! ไอ้ลูกหมาตัวนี้มันหน้าเหมือนอลันตอนโมโหสุดๆ อยากให้ลูกได้เจอพ่อของมันจัง ฮ่าๆๆ” คารอสเอ่ยต่ออย่างขำๆ
“ฮึ่มมมม!!” ลูกหมาเฟรนช์ บูลด็อก ส่งเสียงครางขึ้นมาราวกับกำลังขัดใจอะไรสักอย่าง และกลอกตาโตๆ ไปที่คารอสกับอันโตนีโอ้เหมือนจะต่อว่าทั้งสองหนุ่มทางสายตา จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนตักของแพรณารา แล้วซบหน้าลงที่แขนของสาวเจ้า คล้ายกับคนที่รักใคร่ผูกพันกันมานาน
“ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ” ทั้งสองหนุ่มมองกิริยาที่แสดงออกของลูกหมา ก่อนจะพากันหัวเราะจนหน้าแดงก่ำ พลางมโนไปว่า...ช่างเหมือนออร์แลนโด้อะไรอย่างนี้
“แฮ่...!” ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้น เจ้าหมาน้อยก็ครางในลำคออย่างไม่พอใจ
แพรณาราขำตามจนหน้าแดง รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำที่หางตาออก พร้อมกับคิดในใจว่าเธอจะเอาตัวนี้แหละ! จะพาลูกไปเจอพ่อดูสักหน่อย ดูซิว่าพ่อของมันจะทำหน้าเหมือนลูกชายหรือเปล่า!
สุดท้าย...หญิงสาวก็เลือกลูกหมาหน้ามู่ทู่สายพันธุ์ French Bulldog (เฟรนช์ บูลด็อก) แล้วคารอสก็พาไปเลือกซื้อของใช้สำหรับลูกหมาตัวน้อยต่อจนครบ และอธิบายวิธีการดูแล สังเกตพฤติกรรมต่างๆ อยู่นาน จนแพรณาราเข้าใจและรู้สึกตื่นเต้นกับหน้าที่ใหม่ ที่ต้องดูแลรับผิดชอบ อีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่นอนหลับอยู่ในตะกร้า จากนั้นคารอสก็ขอแยกไปทำธุระต่อ แพรณารากับอันโตนีโอ้ก็ตรงกลับสกาล่าทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ