อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 42

พอขึ้นมาถึงชั้นบนสุด อันโตนีโอ้ก็ตรงไปยังห้องนอนที่ประตูเปิดอ้าไว้ ก็เห็นผู้เป็นนายนั่งนิ่งอยู่บนพื้นใกล้ๆ กับเตียง เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเรียก “บอสครับ ผมมีอะไรจะให้บอสดู!”

“อะไร” ออร์แลนโด้หันมาตอบอย่างซึมๆ

“นี่ครับ!” เขานั่งลงใกล้ๆ เจ้านายของตนที่ดูจะสงบลงไปอย่าง ผิดหู ผิดตา พร้อมกับเปิดแท็บเล็ตที่ไปดึงเอาข้อมูลจากกล้องที่บริษัทมาให้อีกฝ่ายดู

ออร์แลนโด้หันมามองที่จอ ก็เห็นแพรณาราเดินเข้าไปข้างในห้องฝ่ายบุคคล และเห็นสาวเจ้าหันซ้ายหันขวาก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ แล้วกดมือถือเล่น

“ฉันไม่อยากเห็น!” ออร์แลนโด้รีบเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นภาพที่แสลงใจ

“แต่บอสต้องดูครับ ไม่อย่างนั้นบอสจะเสียใจไปตลอดชีวิตครับ!” อันโตนีโอ้เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ฉันรู้แล้วเรื่องที่มิกิจูบกับไอ้หมอนั่น ฉันเห็นมากับตา! ขอบใจนายมากอันโตนีโอ้ นายไปพักเถอะ” ออร์แลนโด้บอกด้วยเสียงเศร้าๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อไป

“ผมขอร้อง! อ๋อ! เกือบลืม มีเสียงด้วยครับบอส” อันโตนีโอ้ยื่นแท็บเล็ตให้ออร์แลนโด้ดูอีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเร่งเสียงขึ้น

ออร์แลนโด้หันมามองตามที่มือขวาคนสนิทบอก และดึงเอาแท็บเล็ต มาถือเพื่อจะดูแบบถนัดๆ เขาเห็นมาร์ตินเดินเข้ามาหาแพรณารา และเห็นเธอสะดุ้งน้อยๆ เขาได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน เขารู้ว่ามาร์ตินพยายามจะชวนแพรณาราไปทานข้าว แต่เธอก็พยายามปฏิเสธอีกฝ่าย

จนกระทั่งมาร์ตินทนไม่ไหว สารภาพรักกับเธอ ออร์แลนโด้ถึงกับ ตาสว่าง ที่ได้ยินแพรณาราตอบอีกฝ่ายออกไปว่า...

‘มาร์ติน! ที่ผ่านมามิกิรู้สึกกับมาร์ตินแค่เพื่อนเท่านั้น! มิกิขอบคุณ ในความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ แต่มิกิมีคนที่รักแล้วและกำลังจะแต่งงานกับเขา... อื้อ’ จากนั้นเขาก็เห็นมาร์ตินตรงเข้าจู่โจมแพรณารา และดึงเธอเข้ามาจูบ

“พระเจ้า! ฉันทำอะไรลงไป!” ออร์แลนโด้กัดฟันกำหมัดแน่นอย่างโกรธแค้น เขาจะกลับไปกระทืบไอ้มาร์ตินอีกครั้ง จะเอาให้หนักกว่าเดิมเลยคอยดู! ไอ้หมอนี่ช่างรนหาที่ตายซะจริงๆ ที่บังอาจมาขโมยจูบเมียเขา

ชายหนุ่มปล่อยแท็บเล็ตร่วงลงพื้นอย่างหมดแรง นึกไปถึงคำกล่าวหาและดูถูกหญิงสาวก่อนหน้านั้น

“ให้ตายสิ! นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปวะ!” ออร์แลนโด้โกรธตัวเอง หลังจาก ที่รู้ว่าเข้าใจแพรณาราผิดไป ก็เริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง

“บอสใจเย็นๆ ก่อนนะครับ บ้าจริง! ใครโทร. มาตอนนี้วะ!” มือขวาคนสนิทสบถออกมาอย่างหัวเสีย หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียกเข้ามือถือตัวเอง ดังขึ้น แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์โทร. ของเลโอนาดท์ อันโตนีโอ้ถึงกับตาโตแล้วรีบกดรับสาย “ฮัลโหล อ๋อครับ! ใช่ครับ ตอนนี้ผมอยู่กับบอสครับ... เอ่อครับ...ครับจำได้ครับ... สวัสดีครับ”

“พ่อฉันว่าไงมั่ง?” ออร์แลนโด้ที่กำลังสติแตก พอรู้ว่าบิดาของตนโทร. หามือขวาคนสนิท จึงหยุดชะงัก แล้วเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เดาว่าจะต้องเป็นเรื่องของตนกับแพรณารา

“คือ...นายใหญ่บอกว่า...เอ่อ” อันโตนีโอ้อ้ำอึ้ง ค่อนข้างลำบากใจที่จะพูด

“เร็วๆ สิ!” ออร์แลนโด้เร่งอย่างร้อนใจ

“คือ...ท่านบอกว่า...มีคำสั่งห้ามบอสกลับไปที่คฤหาสน์อย่างไม่มีกำหนดครับ” อันโตนีโอ้หลับตา เพราะไม่อยากเห็นหน้าของผู้เป็นนาย และภาวนาให้อีกฝ่ายไม่หยิบอะไรมาเขวี้ยงทิ้งระบายอารมณ์อีก!

“ไม่จริง! แกโกหก!” ออร์แลนโด้ต่อว่าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อของตนเองจะพูดแบบนั้น เพราะเคยรับปากเอาไว้ว่าจะช่วย

“เรื่องจริงครับ! แล้วมาดามก็สั่งมาอีกครับว่า ให้บอสไปทบทวนการกระทำของตัวเองให้ดี ว่าที่บอสทำลงไปน่ะถูกต้องหรือยัง แล้วพร้อมจะใช้ชีวิตคู่จริงๆ หรือเปล่า เพราะพื้นฐานของการใช้ชีวิตคู่คือการเชื่อใจกันและกันครับ” อันโตนีโอ้กลั้นใจท่องตามที่คุณมะลิฉัตรสั่ง ก่อนจะคิดในใจว่าทำไมจะต้องให้เขามาเอ่ยประโยคแสลงหูแบบนี้ด้วย

“มะ...แม่ฉันพูดแบบนั้นเหรอ? แล้วแบบนี้ฉันจะง้อเมียยังได้ไงล่ะ” ออร์แลนโด้ได้ฟังที่อันโตนีโอ้บอก ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับอย่างกดดันที่หาช่องทางเข้าใกล้แพรณาราไม่ได้

“ผมว่าช่วงนี้บอสอยู่นิ่งๆ ดีกว่าครับ เดี๋ยวรอให้คุณมิกิกับมาดาม ใจเย็นลงหน่อย แล้วค่อยไปง้อดีกว่าครับ” อันโตนีโอ้ช่วยคิดหาทางออกให้ ผู้เป็นนายที่ดูไม่ค่อยเป็นตัวเองเท่าไหร่

“ไอ้มาร์ตินมันอยู่ไหน?” ออร์แลนโด้เอ่ยถามพร้อมกับกัดกรามอย่างโกรธแค้นขึ้นมาอีกครั้ง

“บอสครับ มาร์ตินยังนอนอยู่ในห้องไอซียู อาการโคม่าครับ” อันโตนีโอ้เอ่ยด้วยท่าทางเพลียๆ

“คิดแล้วก็อยากจะไปกระทืบซ้ำ เพราะไอ้บ้านี่แหละ ที่ทำให้ฉันเข้าใจมิกิผิด ฉันด่าเธอ ดูถูกเธอสารพัด ที่สำคัญแม่ของฉันดันเข้ามาเห็นตอนที่ฉันกำลังจะทำร้ายมิกิอีก ท่านตบหน้าฉัน แล้วก็พาเมียฉันไป พระเจ้า! วันนี้มันวันห่าอะไรวะ! ทำไมฉันถึงได้ซวยอะไรแบบนี้!” ออร์แลนโด้ด่ากราดไปทั่วอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินไปเตะเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อระบายอารมณ์ แล้วเดินไปยังบาร์เครื่องดื่ม เทบรั่นดีลงแก้วและยกขึ้นดื่มเพื่อดับความกลุ้มในใจ

อันโตนีโอ้มองตามอย่างเพลียๆ ไม่รู้จะทำยังไงกับผู้เป็นนาย

Rocasander Villa…

ตลอดทางที่นั่งรถมาแพรณาราเอาแต่เงียบ มะลิฉัตรจึงดึงให้ร่างบางเข้ามาซบที่อ้อมอก หญิงสาวสะอื้นเบาๆ สักพักก็หลับไป จนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์ มะลิฉัตรจึงเรียกการ์ดมาอุ้มขึ้นไปยังห้องนอน และเดินตามขึ้นไปด้วยติดๆ

สี่ชั่วโมงต่อมา...หญิงสาวตกใจตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ในห้องที่ตกแต่งสไตล์คลาสสิกด้วยสีเทาและสีขาว

“ได้สิจ๊ะ! แม่รอที่ห้องอาหารนะ มิกิอาบน้ำได้เลย เดี๋ยวจะให้เด็ก เอาเสื้อผ้ามาให้”

“ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างนะคะ” เธอเอ่ยเสร็จก็เข้าไปกอดผู้ใหญ่

“ด้วยความยินดีจ้ะ” มะลิฉัตรกอดตอบพลางลูบหลังให้เบาๆ

สิบห้านาทีต่อมา...แพรณาราที่อยู่ในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนสั้นเหนือหัวเข่านิดหนึ่ง ก็เดินตามเด็กรับใช้ลงมาที่ห้องอาหาร มะลิฉัตรหันไปมองอย่างชื่นชมกับรูปร่างที่สวยเย้ายวนของสาวน้อยในชุดที่ตนเตรียมเอาไว้ให้

“ว้าว! เห็นในรูปก็ว่าสวยแล้วนะ ตัวจริงสวยอย่างกับนางฟ้าแน่ะ” เลโอนาดท์เอ่ยชมสาวน้อยที่เพิ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรก

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อแพรณารา สิริรันทนากรณ์ เรียกว่ามิกิก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรีบยกมือไหว้ชายสูงวัยที่ยังคงความหล่อเหลา ดูละม้ายคล้ายกับออร์แลนโด้เป็นอย่างมาก ซึ่งเธอเดาว่าน่าจะเป็นบิดาของอีกฝ่าย

“สวัสดีอย่างเป็นทางการจ้ะ พ่อชื่อเลโอนาดท์ หนูจะเรียกว่าพ่อหรือลีโอก็ได้ แล้วก็...โรคาซานเดอร์ยินดีต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้คนรองของ ตระกูลจ้ะ” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายว่าที่ลูกสะใภ้อย่างเป็นกันเอง

“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ” แพรณาราไม่รู้จะบอกยังไง ได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้ผู้ใหญ่ทั้งสอง เพราะตอนนี้ระหว่างเธอกับออร์แลนโด้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว! เธอคิดว่าจะขอตัวออกไปอยู่กับนานาหรือไม่ก็ออกไปเช่าห้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง ตอนนี้เธอยังไม่อยากเจออีกฝ่าย ไม่พร้อมจะคุยเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น

“แม่ว่าเรามาทานข้าวกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน” มะลิฉัตรเอ่ยชวนพร้อมกับหันไปยิ้มให้สามี

จากนั้นทั้งสามก็ลงมือทานอาหาร ที่มีทั้งอาหารไทยและอิตาเลียนทั้งสองต่างพากันสอบถามหญิงสาว ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ว่าพ่อแม่เป็นใคร มาอยู่ที่อังกฤษได้กี่ปี เรียนจบที่ไหน ชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ

มะลิฉัตรเล่าเสริมให้สามีฟังว่า ออร์แลนโด้ทำกับข้าวให้สาวเจ้าทานแทบทุกวัน เลโอนาดท์ได้ฟังก็ถึงกับอึ้ง พลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน

6 ปีก่อน...ออร์แลนโด้ชอบเข้าครัวมาช่วยผู้เป็นมารดาทำอาหารตอนเย็นบ่อยๆ ทั้งมะลิฉัตรและเลโอนาดท์ก็แอบแปลกใจอยู่นิดๆ ว่าบุตรชายคนรองที่โลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยพูดจาเท่าไหร่ กลับชอบเข้าครัวทำอาหารมาก ทั้งสองก็แอบคิดว่าบุตรชายจะเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน

จนลองเอ่ยถามไปเล่นๆ ทำเอาออร์แลนโด้ถึงกับหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้มะลิฉัตรและเลโอนาดท์ถึงกับนิ่งไปนาน

‘ที่ผมชอบทำกับข้าวก็เพราะคิดว่าถ้าหากมีภรรยาเมื่อไหร่ ผมจะทำให้เธอทานน่ะครับ อยากให้เธอรู้สึกว่าโชคดีที่ได้ผมเป็นสามี จะได้รักและหลงผมจนโงหัวไม่ขึ้น เหมือนที่พ่อหลงแม่ไงครับ ต้องหิ้วท้องกลับมาทานข้าวที่บ้านทุกเย็น’

หลังจากครั้งนั้นทำให้ทั้งสองไม่กล้าเอ่ยถามอะไรอีก จนกระทั่งได้ทราบว่าอีกฝ่ายทำอาหารให้สาวน้อยคนนี้ทาน ก็อดอมยิ้มไม่ได้ ดูท่าแล้ว ออร์แลนโด้คงจะเอาใจสาวเจ้าน่าดู

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ