อ้อมกอดอสูรไร้ใจ นิยาย บท 5

ห้องทำงาน...

ไลน์! ไลน์! เสียงข้อความดังขึ้นติดๆ กัน ทำให้อันโตนีโอ้ที่เข้ามานั่งรอผู้เป็นนาย หยิบมือถือขึ้นมากดเปิดอ่านข้อความไลน์แทบจะทันที

จิมมี่เจมส์ : ‘วันนี้คุณแพททริกออกเดต’

คนที่เพิ่งเปิดอ่านกะพริบตาอยู่สองสามครั้ง เพื่ออ่านข้อความซ้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าหัวเรือใหญ่ของโรคาซานเดอร์อย่างแพททริกสัน ที่จำชื่อผู้หญิงที่ขึ้นเตียงยังไม่ได้ จนกลายเป็นที่มาของฉายา หล่อลืมชื่อ! กำลังจะออกเดต ทำเอาต่อมเผือกของอันโตนีโอ้ร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด รีบต่อสายตรง โทร. หาจิมมี่เจมส์เพื่อสอบถามแบบส่วนตัวทันที

หลังจากที่สาวเจ้าเข้าห้องน้ำ ออร์แลนโด้ก็เดินออกมาที่ห้องทำงานและนั่งตรวจงานบนโต๊ะไปได้สักพัก อันโตนีโอ้ก็เดินยิ้มร่าเข้ามารายงานข่าว

“บอสครับ เจเจรายงานว่าวันนี้คุณแพททริกจะออกเดต”

“หึ! ป๋าทำตัวอย่างกับเด็กเลยว่ะ” ออร์แลนโด้เอ่ยติดตลกที่พี่ชายทำตัวราวกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมีความรัก พลางส่ายหน้าน้อยๆ อย่างไม่ใส่ใจ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้! ‘เดต! จริงสิเขายังไม่เคยมีเดตครั้งแรกในชีวิตเลย’

แวบหนึ่งในหัวของออร์แลนโด้ก็มีภาพของแพรณาราแล่นเข้ามา ‘ใช่! ถ้าเขาจะเดตกับใครสักคน คนคนนั้นก็ต้องเป็นเธอ!’ เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ คนที่ยังไม่เคยมีเดตแรกมาก่อนก็ลุกขึ้นเดินกลับไปยังห้องนอนทันทีทันใด ทิ้งให้อันโตนีโอ้มองตามอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

แพรณาราทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็จัดการอาบน้ำชำระร่างกายต่อจนกระทั่งผ่านไปยี่สิบนาที ก็ใส่เสื้อคลุมสีขาว ที่ปักหน้าอกด้วยเส้นด้ายสีเทาเข้มว่า Orlando เดินออกมาจากห้องน้ำ

“อุ๊ย!” แพรณาราตกใจที่เห็นอีกฝ่ายเปิดประตูเข้าห้องนอนมาพอดี จึงรีบหลบสายตาที่มองมาอย่างอายๆ เพราะเธอแอบใช้เสื้อคลุมของเขาอยู่

“มิกิคะ เดี๋ยวตอนค่ำๆ พี่จะพามิกิไปดินเนอร์ พี่สั่งให้เด็กเอาชุดมาให้แล้ว อีกสองชั่วโมงเราเจอกันที่ล็อบบีนะคะ” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็ก้มลงหอมแก้มนวลทั้งสองข้าง จากนั้นก็เดินผิวปากออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดีที่เห็นสาวเจ้าใส่เสื้อผ้าของตน

‘พระเจ้า! ผีตัวไหนก็ช่างที่สิงร่างของอสูรร้ายตนนี้อยู่ขออย่าเพิ่งออกตอนนี้เลย สาธุ!’ แพรณารายกมือไหว้ บ่นพึมพำตามหลัง

ด้านอันโตนีโอ้ถึงกับงงในท่าทีของผู้เป็นนาย เมื่อครู่ยังหัวเราะอยู่ดีๆ แต่แล้วก็ทำสีหน้าจริงจังเหมือนคนมีอะไรในใจ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปไม่บอกกล่าว แล้วกลับเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ตัวเขาได้เห็นนับครั้งได้ตั้งแต่ที่ทำงานกับอีกฝ่ายมา

“พีเคเตรียมตัวด้วยนะ อีกสองชั่วโมงฉันจะออกไปข้างนอก” ออร์แลนโด้ที่เดินผิวปากเข้ามาในห้องทำงาน เพื่อบอกมือขวาคนสนิท

“บอสจะไปไหนครับ” อันโตนีโอ้ถามอย่างสงสัย

“จะไปดินเนอร์!” ออร์แลนโด้บอกเสร็จก็เดินออกไปจากห้อง เพื่ออาบน้ำและเตรียมตัว พร้อมกับคิดว่าจะพาสาวเจ้าไปที่ดินเนอร์ไหนดี ที่จะทำให้เธอรู้สึกประทับใจ!

มือขวาคนสนิทมองตามอย่างมึนงง ‘ดินเนอร์อย่างนั้นเหรอ? เท่าที่จำได้ เจ้านายเขาไม่เคยดินเนอร์กับสาวคนไหนเลยสักครั้ง เพราะมันเสียเวลา! แล้วนี่มันอะไรกัน ทั้งคุณแพททริกสันและเจ้านายของเขา กำลังจะแข่งกันอัปเลเวลเป็นผู้ชายโรแมนติกหรือไง?’

อันโตนีโอ้รีบกดส่งข้อความเข้าไปในไลน์กลุ่มแก๊งมือขวา เพื่อรายงานสถานการณ์ของเจ้านายตนบ้าง

อันโตนีโอ้ : ‘คืนนี้เจ้าชายน้ำแข็งจะไปดินเนอร์!’

ไม่ถึงนาทีก็มีรูปสติ๊กเกอร์ทำหน้าตกใจ ผวา ส่งเข้ามาสามสี่อันจากเหล่ามือขวาคนสนิทอีกสี่คนในกลุ่ม

มาร์ค : ไม่จริง

จิมมี่เจมส์ : ขุ่นพระ

โดโนเวล : OMG!

ไทเลอร์ : คุณหลอกดาว

จิมมี่เจมส์ : พระเจ้า! น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายแน่ๆ (มือขวาของแพททริกสัน)

อันโตนีโอ้ : กูก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่เรื่องจริงว่ะ

ไทเลอร์ : กูอยากจะยลโฉมนางฟ้าคนนั้นจัง (มือขวาของแดเนียล)

โดโนเวล : เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณเพชร! (มือขวาของคารอสที่กำลังทำงานอยู่ เตรียมเก็บข้อมูลไปบอกให้ผู้เป็นนายทราบ)

มาร์ค : แม่เจ้า! เจ้าชายน้ำแข็งจะดินเนอร์ เรื่องนี้ต้องขยาย (มือขวาของเจคอปที่อยู่ดูไบเตรียมเก็บข้อมูลด้วยอีกเช่นกัน)

โดโนเวล : รอเผือกติดขอบเตียง เอ๊ย! ขอบเวทีครับท่าน

จากนั้นข้อความไลน์ก็เด้งขึ้นมาอีกหลายประโยค ตามด้วยสติ๊กเกอร์ตกใจบ้าง ปักธงรอฟังข่าวบ้างและอีกเยอะแยะมากมาย บลาๆๆ อันโตนีโอ้เองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้านายของตนจะเปลี่ยนไป เพียงแค่ได้เจอกับแพรณารา ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำให้อสูรร้ายยอมฉีกกฎทุกข้อของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากที่ออร์แลนโด้เดินออกไป ไม่ถึงสิบห้านาทีก็มีเสียงเคาะที่ประตูห้องนอน แพรณารารีบเดินไปเปิดประตูห้อง ก็เห็นแม่บ้านยืนถือชุดรออยู่พร้อมกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผม เธอกะพริบตามองอย่างอึ้งๆ ‘อีตาบ้านี่คงจะรวยมากสินะ! ทั้งช่างและชุดมาถึงมาพร้อมกันได้ในยี่สิบนาที!’

สามสิบนาทีต่อมา...ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมใช้เวลาแต่งเติมใบหน้าจิ้มลิ้มให้สวยหวานและเย้ายวนเพียงไม่นานก็เสร็จ แม่บ้านเตรียมชุด เดรสเข้ารูป สีฟ้าอ่อนและรองเท้าส้นสูงสีขาวมุกรอ

แพรณาราเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องถัดไป ไม่ถึงห้านาทีประตูห้องแต่งตัว ก็เปิดออกมา ช่างและแม่บ้านหันไปมอง ก่อนจะยิ้มกว้างกันถ้วนหน้า เพราะตอนที่แพรณารามาเปิดประตูห้องให้ พวกเธอก็ตกใจในความสวยกันไปครั้งหนึ่งแล้ว

แต่ตอนนี้...ต้องเรียกว่าโคตรสวยถึงจะถูก สมแล้วที่เจ้านายผู้แสนเย็นชาจะอ่อนไหว และหลงหนักถึงขนาดพามาค้างที่สกาล่า ที่ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าใกล้ความเป็นส่วนตัวขนาดนี้มาก่อน!

สิบห้านาทีต่อมา...

หลังจากที่ตรวจเช็กความเรียบร้อยเสร็จ แม่บ้านก็รีบพาสาวน้อยแสนสวยลงมายังล็อบบีของวิลล่า ตามที่บอสใหญ่สั่งเอาไว้

ออร์แลนโด้ที่กำลังยืนสั่งงานคนสนิทอยู่ พอได้ยินเสียงกริ่งของลิฟต์ส่วนตัวดังขึ้น จึงหันไปมอง...และทันใดนั้น!

“โอ้ พระเจ้า!!” ออร์แลนโด้อุทานออกมาอย่างลืมตัว ทำให้เหล่าลูกน้องคนสนิทที่กำลังฟังผู้เป็นนายสั่งงานอยู่หันไปมอง และตกตะลึงในความสวยของหญิงสาวที่เดินออกมาจากลิฟต์กันเป็นแถว

‘พระเจ้าที่ไหนกัน? นี่มันนางฟ้าชัดๆ ครับบอส’ อันโตนีโอ้แอบเถียงผู้เป็นนายในใจ พร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่สวยสง่าและเย้ายวนอย่างทึ่งๆ

แพรณารารู้สึกอายกับสายตาและท่าทางของออร์แลนโด้ที่มองมาเหมือนกับจะกลืนกินเธอซะให้ได้

“ว้าว! มิกิของผม คุณสวยจัง” เขาเอ่ยชมเสียงหวาน ‘พากลับขึ้นห้องดีไหมวะ! ทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้ เขาชักไม่อยากจะพาไปไหนแล้วสิ!’

“ขะ...ขอบคุณค่ะ เราจะไปไหนกันเหรอคะ” แพรณารารีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะเธอทั้งอายและใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ ‘เขาดูมีเสน่ห์ สมบูรณ์แบบราวกับเทพบุตร จนเธอทำตัวไม่ถูก มันจะดีขนาดไหนนะ ถ้าเขาเป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่ดิบเถื่อนและหยาบคายเหมือนในวันนั้น แล้วเป็นออร์แลนโด้ที่เป็นอยู่ตอนนี้!’

“ยังไม่บอกค่ะ พี่อยากให้แปลกใจ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับยื่นแขนมาให้สาวเจ้า

แพรณารายกแขนของตัวเองเข้าไปคล้องแขนของอสูรร้าย ที่กลายร่างมาเป็นเทพบุตรแค่ข้ามคืนอย่างอายๆ แล้วออกเดินไปพร้อมกับอีกฝ่าย ท่ามกลางสายตาของเหล่าบอดี้การ์ด พนักงานต้อนรับที่ล็อบบี และคนดังที่มาซื้อวิลล่าหรูราคาแพงหูดับใจกลางกรุงลอนดอนอยู่ ซึ่งห้องหนึ่งราคาสูงกว่าหนึ่งล้านปอนด์

ทั้งสองเดินออกมาที่หน้าวิลล่า ตรงที่การ์ดนำแอสตันมาร์ตินมาจอดรอ ออร์แลนโด้รีบเดินไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง ก่อนจะอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง พร้อมกับกดเปิดเพลงในรถฟัง แล้วขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี

ขณะที่รถแล่นออกมาได้ไม่ถึงนาที เสียงเพลง Animals ของวง Maroon 5 ก็ดังขึ้นกับจังหวะดนตรีที่ค่อนข้างตรงและดิบเถื่อน

“ให้พี่จูบทีหนึ่ง แล้วพี่จะบอกให้หมดทุกอย่างเลยค่ะ” ออร์แลนโด้บอกพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ ทำเอาคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าเหวอขึ้นมาทันทีทันใด

“งั้นไม่ดีกว่าค่ะ มิกิไม่อยากรู้แล้ว” แพรณาราปฏิเสธพร้อมกับถอยออกห่างจากอีกฝ่ายไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว

“ฮ่าๆ พี่นึกว่าจะได้จูบหวานๆ จากมิกิซะอีก” ออร์แลนโด้หัวเราะอารมณ์ดีที่ได้หยอกเย้า ‘ให้ตายสิ! เวลาที่เธออายทำไมมันน่ารักจังเลยวะ’

“ระ... เราจะไปกันหรือยังคะ” แพรณารารีบเปลี่ยนเรื่อง

“ไปสิคะ เชิญค่ะนางฟ้าของพี่” ออร์แลนโด้ผายมือเชิญอย่างสุภาพ

แพรณาราถึงกับอึ้งหนักตรงที่อีกฝ่ายเรียกเธอว่า นางฟ้าของพี่ แล้วแบบนี้เธอจะทนได้นานแค่ไหนนะ เพราะต่อให้มันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่เธอก็อดใจสั่นไม่ได้อยู่ดี

“เดี๋ยวค่ะ เราจะนั่งแมงปอยักษ์นี่ไปเหรอคะ” เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าหวั่นๆ เพราะไม่เคยนั่งมาก่อน

“ใช่ค่ะ เราจะนั่งเจ้านี่ มิกิไปไม่ต้องกลัวนะ พี่รับรองว่ามันปลอดภัย” เขาปลอบเพราะรับรู้ถึงความเย็นจากปลายนิ้วของสาวตรงหน้า ที่บ่งบอกได้ว่าเธอทั้งกลัวและตื่นเต้นขนาดไหน!

“ค่ะ” แพรณาราพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตามออร์แลนโด้ ที่ก้าวขึ้นไปก่อนและส่งมือมารับเธอ

เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ที่ทันสมัยและใหม่เอี่ยม มีอันโตนีโอ้ นั่งประจำตำแหน่งนักบิน พร้อมกับการ์ดอีกคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่นักบินของค่ำคืนนี้

อันโตนีโอ้เช็กความพร้อมก่อนจะติดเครื่อง จากนั้นก็ส่งสัญญาณไปให้หอบังคับการบิน

“หอบังคับการ...นี่ My Angel Rocasander เรากำลังจะนำเครื่องขึ้นบินสู่น่านฟ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และจะลงจอดที่ The Lion Sea กรุณาส่งพิกัดเส้นทางการบินที่ปลอดภัยของค่ำคืนนี้มาให้เราด้วย” อันโตนีโอ้แจ้งหอบังคับการบินใหญ่ในประเทศ

“สวัสดี My Angel Rocasander นี่หอบังคับการบิน เราได้ส่งพิกัดไปให้แล้ว โปรดทราบ...” หอบังคับการบินตอบกลับ พร้อมส่งพิกัดเส้นทางการบินมาให้ตามคลื่นสัญญาณ

“รับทราบ! เราได้รับพิกัดแล้ว”

“กรุณาส่งสัญญาณแจ้งหอบังคับการบิน ให้ทราบเป็นระยะๆ”

“เราจะรายงานให้ทราบเป็นระยะจนกว่าเครื่องจะลงจอด ขอบคุณ”

“เป็นเกียรติที่ได้รับใช้โรคาซานเดอร์ เลิกการติดต่อ”

“รับทราบ!” อันโตนีโอ้ตอบก่อนจะนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบิน

“อ๊ะ!” แพรณาราตกใจเมื่อระดับการบินค่อยๆ ทะยานสูงขึ้น

“ไม่ต้องกลัวค่ะ” ออร์แลนโด้ลูบแผ่นหลังของสาวเจ้าเบาๆ อย่างปลอบโยน แพรณารารับรู้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาได้อย่างชัดเจน จึงหันไปยิ้มบางๆ ให้อีกฝ่าย

“ดูนั่นสิคะ!” ชายหนุ่มชี้ให้หญิงสาวดู หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง

“ว้าว! สวยจังเลยยค่ะ” เธอมองดูความสวยงามของแสงไฟในเมืองผ่านกระจกใสๆ ด้านข้างอย่างตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งเริ่มเข้าสู่ความมืดมิดในยามค่ำคืนของท้องทะเล และยี่สิบนาทีต่อมาก็เริ่มมองเห็นแสงไฟจากข้างล่างที่ค่อยๆ ใหญ่และชัดขึ้นเรื่อยๆ

‘พระเจ้า! มันเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาเลย’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อมกอดอสูรไร้ใจ