บทที่ 51เล่นละครตบตาได้ดี
“กำลังคิดอะไรอยู่? ยังไม่รีบไปอีก”
"ฉัน......."
เธอกัดริมฝีปาก และรู้สึกลังเลไปนานมาก จิตรกัญญาจึงจะเอ่ยพูดขึ้น
สายตาของเธอจับจ้องไปยังเงินสดที่อยู่ในมือของตัวเอง จิตรกัญญาก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อย
ทำไมเราอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกลับปฏิบัติไม่เหมือนกัน
ที่แท้ จิตรกัญญาอยากจะถามคำถามนี้มากๆ
แต่ว่า พอมาครุ่นคิดดูแล้ว ตัวเองกลับขาดทุนยังไม่มีคนเอา แล้วจะสามารถเทียบกับน้ำทิพย์ที่คนมักจะลือกันว่าเป็นสนิทของจักรชัยได้ล่ะ
เวลานี้ ในใจของจิตรกัญญา เธอไม่กล้าใช้วิธีอื่นอีกต่อไป
แค่อยากจะทำงานดีๆ แล้วไม่ถูกไล่ออก
"ทำงานเยอะๆ และอย่าคิดจะวางแผนอะไรในใจ ไม่มีใครไล่เธอออก"
"เห้อ"
พอได้ยินคุณชายของตัวเองตอบกลับ จิตรกัญญาจึงรู้สึกวางใจขึ้น
ไม่สามารถเข้าไปพัวพันกับคุณชายตระกูลหัสบดินทร์ก็ไม่เป็นไร แค่เธอสามารถอยู่เคียงข้างเขาที่เป็นเศรษฐีร่ำรวย แล้วจะไม่ได้เจอผู้ชายรวยๆคนอื่นๆได้ยังไง
ในสมองของเธอจึงมีความคิดอย่างหนึ่ง ทีแรกนัยน์ตาที่มัวหมอง ตอนนี้กลับดูสว่างขึ้นมาทันที
จักรชัยจะไม่รู้ได้ยังไงว่าจิตรกัญญากำลังคิดอะไรอยู่ จึงถอนหายใจโดยที่ทำอะไรไม่ถูก
ถือโอกาสตอนนี้ยังสาวและยังมีรูปลักษณ์หน้าตาที่สะสวย ก็ควรไปยั่วคนมีเงินหน่อยไม่ใช่หรือไง?
ไม่มีความรู้สึก ถึงเวลาตอนนี้ได้ลิ้มรสของใหม่จนเริ่มเบื่อ แล้วก็บอกว่าจะทอดทิ้งก็ทอดทิ้งไป
ลูกสาวของคนอื่นของตัวเอง อลินดาก็เคยเป็นแบบนี้
ในใจคิดแบบนี้ จักรชัยจึงอดไม่ได้ที่จะบอกเตือน
"คุณอะ อย่าไปคิดวางแผนอะไรเรื่อยเปื่อยเลย ไม่มีอะไรดีหรอก"
เหอะ คุณชาย คุณยืนคุยไม่รู้สึกปวดเอวหรือไง
คุณเป็นเศรษฐีร่ำรวย แล้วจะไปเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงตัวน้อยที่มีครอบครัวยากจนล่ะ
ในสายตาของจิตรกัญญา จักรชัยสามารถมองเห็นอะไรบางอย่าง
เขารู้ว่า จิตรกัญญาไม่ฟังตัวเองพูดแน่นอน
ไหนๆก็เป็นแบบนี้แล้ว แล้วตนเองจะพูดอีกทำไมล่ะ
ไหนๆบนโลกใบนี้ คนที่เหมือนผู้หญิงอย่างน้ำทิพย์ ที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ไม่เยอะเลย
แต่ผู้หญิงที่เหมือนจิตรกัญญา ที่ชอบพึ่งพาคนอื่น เป็นผู้หญิงที่ไร้ค่าจริงๆ
พูดจริงๆ จริงๆแล้วผู้หญิงแบบนี้ไม่น้อยเลย
และก็เข้าใจว่าตัวเองกำลังสีซอให้ควายฟังอยู่ จักรชัยจึงยอมโบกมือ แล้วปล่อยจิตรกัญญาไป
"ได้ สิ่งที่ควรพูดผมก็พูดแล้ว คุณลงไปเถอะ"
"ได้ค่ะ"
ทันใด จิตรกัญญากลับตอบสนองได้ไว และเหมือนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองต้องรู้สึกเบื่อในคำพูดทั้งหมดที่จักรชัยพูด
"ผมกำลังหวังดีกับคุณ คุณ......."
เขาไม่ได้นอนทั้งคืน จักรชัยตื่นนอนตั้งแต่เช้า จากนั้นก็ออกบ้านไป
"คุณชาย กลับมาเร็วๆหน่อยนะคะ ที่ผ่านจะมางานเลี้ยงค่ะ"
พอส่งจักรชัยไปถึงตรงหน้าประตู จิตรกัญญาก็ได้กำชับขึ้น
เมื่อเทียบกับน้ำทิพย์แล้ว ยังไงจิตรกัญญาก็ยังขาดอะไรบางอย่าง
และพอยกวันนี้มาพูด จักรชัยตั้งใจจะให้จิตรกัญญาขับรถส่งตัวเองไปสนามบิน
สุดท้ายจึงรู้ว่าคนๆนี้ไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน
วันนี้ได้ยินคำพูดของจิตรกัญญา จักรชัยจึงอดใจไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
"ถ้ามีรถ ต้องถึงเร็ว"
"โถ่ คุณชาย"
พอคำพูดที่ออดอ้อนออกมา จิตรกัญญาก็ขย้ำเท้าอยู่ที่เดิม
"ได้ๆ งั้นกลับมาเร็วหน่อยนะ"
จากนั้นออกแรงโบกมือ จักรชัยจึงได้หันหลังเดินออกมาไปอย่างดีใจ
จะบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจักรชัยกับจิตรกัญญาทำไมถึงได้ดีขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนล่ะ แล้วยังจะนัวเนียกับจิตรกัญญาไม่หยด ผู้ชายคนนี้คงต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีประโยชน์อะไร ทีแรกก็คิดไว้ว่าตัวเองจะออกห่างจากน้ำทิพย์ แต่เมื่อคืนกลับโทรหาจักรชัย
และตอนนี้สามารถเห็นได้ว่า จิตรกัญญาก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น
ในใจจึงคิดถึงเรื่องนี้ จักรชัยก็ไม่ได้เดินอย่างเชื่องช้า
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาลไปสนามบิน ตรงข้ามมีถนนเส้นหนึ่งนั่งอยู่
"ตอนที่อยู่ในร้านปิ้งย่าง เธอเคยให้หน้าฉันไหม? หา?"
เขาไม่สนใจนัยน์ตาที่ดูหวาดผวาของอลินดาเลย มือที่ถือมีดไว้ขยับไปขยับมาต่อหน้าเธอ
"ต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้ เธอบอกว่าเธอจะเลิกกับฉัน ต่อให้ฉันจะยอมช่วยเธอ ยอมอ่อนข้อให้เธอ เธอยังเหยียบบนจมูกของ......"
พอพูดถึงตอนนี้ จำรัสไม่เพียงแต่นึกถึงสายตาของคนพวกนั้น และยังนึกถึงท่าทางที่อลินดาแสดงออกมา
แม้กระทั่งยังนึกถึงจักรชัยที่ทำเป็นไม่สนใจ
ยิ่งคิดถึงแบบนี้จำรัสก็ยิ่งโมโหเป็นไฟ
"เธอ สม ควร ตาย"
จำรัสเปล่งคำพูดออกมาเป็นคำๆ โดยที่ตนเองกำลังกัดฟันพูด มีดที่ถือไว้ในมือกำลังจะแทงไปตรงใบหน้าของอลินดา
และในเวลานี้ ก็มีเสียงๆหนึ่งส่งมา
"โถ่ คุณชาย มือถือของคุณลืมพกมา"
เสียงอันโปร่งใส่ดังขึ้นจากไกลๆ พอเสียงๆนี้ดังขึ้นในสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่าตนเองถูกเยาะเย้ยอย่างบอกไม่ถูก
"ใคร? ที่กล้าหาเรื่องในเวลาที่ฉันกำลังจะทำธุระ"
มีดในมือจึงได้หยุดนิ่งกับที่ นัยน์ตาอันเลือดเย็นของจำรัสจึงกวาดไปมอง
ทีแรกจิตรกัญญาที่ยังสามารถเดินอย่างมั่นใจ และพอได้ยินคำพูดพวกนี้ และเห็นถึงสายตาอของจำรัส ฝีเท้าของเธอจึงเดินไม่นิ่งและเดินเซเล็กน้อย
"ระวังหน่อย"
จักรชัยเห็นสถานการณ์แบบนี้ จึงเดินขึ้นหน้าสองก้าว จากนั้นก็ไปรับเธอไว้
และในตอนนี้ จิตรกัญญาสามารถเดินอยู่นิ่งๆได้สักที
ทว่าในขณะเดียวกัน จักรชัยก็ได้ปรากฏตัวตนเองต่อหน้าผู้อื่น
เมื่อกี้ตอนเขายืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย จำรัสกลับไม่ทันได้สังเกตเห็น
ตอนนี้เขาได้กลายเป็นจุดเด่นของท่ามกลางผู้อื่นมากมายแบบนี้ แน่นอนว่าจำรัสก็เห็นอยู่แล้ว
และตอนนี้เขาก็ไม่ได้คิดจะเกรงใจ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปจับอลินดาไว้ แล้วพูดขึ้นอย่างมีความสุข
"เกิดอะไรขึ้น? นี่เป็นคนที่เธอต้องการไปพัวพันด้วยไม่ใช่หรือไง?"
"วันนี้กลับเป็นวันนี้ ที่ฉันสามารถรอชมเรื่องสนุกๆในท่ามกลางผู้คนมากมายแบบนี้"
คำพูดที่ดูหมิ่นได้ส่งเข้าหูของอลินดา ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างแรง
และจากตำแหน่งที่จักรชัยยืนอยู่ อลินดาสามารถเห็นอย่างชัดเจน เขาต้องมาถึงที่นี่สักพักแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว