moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว นิยาย บท 69

บทที่ 69 ทำร้ายจิตใจ

ใบหน้าแดงก่ำ ดูอ่อนแอและเปราะบางจนทำให้คนรู้สึกอึดอัด

จักรชัยประเมินคนตรงหน้าในใจ

เธอเหมือนแฟนเก่าของเขา นั่นก็คืออลินดา

แม้ว่าคลื่นลูกหลังจะผลักดันคลื่นลูกใหม่

แต่จักรชัยที่ถูกอลินดาหักอก พอได้เจอผู้หญิงที่เหมือนเธอในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกไม่ดีเป็นธรรมดา

เขาอ้าปากพูดจาถากถางออกไป

“ผมว่าคุณผู้หญิงคนสวยท่านนี้อย่าร้องไห้สะอึกสะอื้นไปเลย เดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าพวกเราสามแม่ลูกกำลังรังแแกคุณอยู่นะครับ”

พูดตามตรงคุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์เองก็รู้สึกรำคาญผู้หญิงขี้แยแบบนี้เช่นกัน แต่ไม่สามารถหาคำที่จะปิดปากผู้หญิงคนนี้ได้

พอตอนนี้จักรชัยพูดออกมาขนาดนี้ เธอจึงพูดเสริมทัพไปตรงๆ

“เอ๊ะ เธอนี่นะ...”

“วันนี้เป็นงานเลี้ยงประจำตระกูล แต่ละคนอุตส่าห์มารวมตัวกันอย่างมีความสุข แต่เธอกลับทำให้ที่นี่เสียบรรยากาศ”

ไม่ต้องพูดถึง จักรชัยยังไม่ได้เอ่ยปากอะไรเลย แต่พอเขาได้เอ่ยปากขึ้นมา มันก็ทำให้โลกแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ฉัน...”

หญิงสาวกัดริมฝีปาก แต่กลับหาคำโต้แย้งไม่ได้

เธอหันศีรษะและร้องไห้กับคุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์อีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้

“อัยหยา น้องสาว”

เมื่อเผชิญหน้ากับการยั่วยุของหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า คราวนี้คุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์ไม่ยอมอ่อนข้อให้

“ฉันตามหาจักรชัยกลับมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอว่าฉันจะยอมทำร้ายจิตใจเขาได้ลงเหรอ”

“ฉันตามหาเขากลับมานานมาก และวันนี้เขาเพิ่งจะยอมตกลงกลับมารำลึกถึงบรรพบุรุษ ฉัน...”

ในประโยคนี้เป็นการถอยเพื่อล่า มันมีความหมายชัดเจนอยู่แล้ว

ความหมายเดิมของคุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์คือ : ฉันดุจักรชัยไม่ได้และยิ่งว่าเขาไม่ได้ด้วย ฉันต้องออกหน้าแทนเขา โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดในวันนี้เป็นความผิดของเธอ

“พี่...”

นี่เป็นครั้งแรกที่คุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์ปฏิเสธหญิงสาว ไม่อย่างนั้นหญิงสาวก็คงทำตัวเช่นนี้

แต่ถึงอย่างไร ปกติแล้วไม่ว่าตัวเองจะอยู่ที่ไหนก็จะได้รับความขุ่นเคืองเพียงน้อยนิด

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นธีรพล คุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์ก็จะออกหน้าแทนเธอ ทำไมตอนนี้...

เมื่อในใจคิดได้แบบนี้ หญิงสาวก็หันหน้าไปมองจักรชัยอย่างไม่พอใจ

“ฮึ”

เธอฮัมเสียงอย่างเย็นชาและเดินออกไป

ก็เป็นแค่คนจนๆคนหนึ่ง ตอนนี้กลับมาตระกูลหัสบดินทร์แล้วยังไง เนื้อเข้าปากเสือ ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง

“คุณแม่ ดูเธอสิ ทำเธอเสียนิสัยไปแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าปกติธีรพลต้องทนทุกข์ทรมานมากจากน้ำมือของคุณน้าคนนี้

ไม่อย่างนั้นตอนที่เธอเดินออกไป เขาคงไม่พูดประโยคนี้ออกมา

“พอแล้วธีรพล อย่าพูดมาก”

เมื่อเห็นธีรพลกำลังโมโห คุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์ก็เริ่มแสดงความเคร่งขรึม

ธีรพลรู้สึกอึดอัดมากที่โดนผู้เป็นแม่ตัดบท

แต่พอหันกลับไปมองจักรชัย เขาก็กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง

“ไม่คิดเลยว่าเจ้าทึ่มอย่างนายจะทำได้ดีขนาดนี้ ดีมากๆ”

หมดคำพูด ชื่นชมผมดีดีสักครั้งจะตายไหม?

จักรชัยไม่อยากสนใจธีรพลอีก คุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์ควงเขาออกไปข้างนอก

“จักรชัย ลูกฝีปากกล้าขนาดนี้ ลูกไม่อยาก...กับพี่ชายลูกเหรอ”

“คุณแม่ครับเรื่องเข้าบริษัทค่อยคุยกันวันหลังเถอะ วันนี้เป็นเรื่องของงานเลี้ยง”

ให้ตายเถอะ อยากหนีออกไปที่ไหนสักแห่งจริงๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่บุญธรรมจะเป็นอย่างไรบ้าง

พวกเขาเข้าเมืองมาเป็นครั้งแรก แม้ว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมไม่ให้พวกเขาเดินไปไหนไกลๆ แต่ก็...

จักรชัยไม่ได้คุยกับพวกคุณนายที่รายล้อมรอบตัวคุณหญิงตระกูลหัสบดินทร์

เขาเพียงแค่ยิ้มยิ้มและเหม่อลอย

“จักรชัย จักรชัย...”

“เอ่อ มีอะไรครับคุณแม่?”

ยืนเหม่อลอยท่ามกลางคนมากมายขนาดนี้ ทำแบบนี้มันเป็นการเสียมารยาท

แม้ว่าจักรชัยจะหน้าหนา แต่เขาก็อดหน้าแดงไม่ได้

“จักรชัย อีกเดี๋ยวคุณปู่ของลูกก็มาแล้ว ลูก...”

“มาก็มาสิ...”

ก็ไม่ใช่ว่าจะเจอไม่ได้เสียหน่อย

อย่ามองว่าคุณน้าคนนี้ดูท่าทางเจี๋ยมเจี๊ยม เพราะในความเป็นจริงแล้วเธอไม่ได้เกรงกลัวแม่ของเขาเลย

เพราะไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอจะไม่ทำตัวเช่นนี้

เมื่อเขาเข้าใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย จักรชัยก็พูดอย่างไม่เกรงใจ

“คุณน้ามีอะไรก็พูดมาเถอะครับ มองแม่ผมทำไม?”

“เธอ...”

เดิมทียังคิดว่าเป็นแค่ลูกแกะ ไม่คิดว่าจะเป็นนายแกล้งแต่งเป็นหมูเพื่อกินเสือ

เธอแค่แอบมองโดยไม่มีใครเห็น แต่ทำไมเจ้าเด็กนี่...

“เปล่า ฉัน...”

“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว”

ทันใดนั้นจักรชัยก็พูดขึ้นมาว่า

“คุณน้าคงไม่คิดว่าผมพูดผิดไปหรอกนะครับ?”

“ฉัน...”

เมื่อเห็นว่าเธอยอมอ่อนข้อติดต่อกัน จักรชัยก็กำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆ คุณน้าโมโหแล้ว

เธอจึงพูดออกไปโดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

“ถูกต้อง ไม่เข้าใจก็บอกว่าไม่เข้าใจ ยังจะหาข้ออ้างอะไรอีก”

“เธอเป็นเสียแบบนี้ ไม่คู่ควรกับการเป็นคนของตระกูลหัสบดินทร์เลย”

“ไม่คู่ควร?”

จักรชัยกลอกตาไปมาราวกับได้ยินเรื่องตลกขบขัน จู่ๆก็มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมา

จักรชัยยังไม่เห็นท่านปู่ตระกูลหัสบดินทร์ แต่เขาก็คิดแผนเอาไว้ในใจอยู่แล้ว

“คุณน้า ผมจะคู่ควรหรือไม่ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณสมควรพูดออกมา จริงไหม?”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอก จักรชัยในท่าทางแบบนี้ดูกวนบาทามาก

“เธอ...”

โดยปกติคุณน้ามักจะมีฝีปากเฉียบคม แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้เธอโดนไอ้เด็กจนๆคนหนึ่งโต้กลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้เธอยิ่งพูดอะไรไม่ออกและรีบหันหน้าหนี

“หึ ไม่พูดอะไรแล้วเหรอ?”

ทันทีที่รอยยิ้มแดกดันปรากฏขึ้น จักรชัยก็พูดอย่างเหยียดหยาม

“คุณพ่อคุณแม่ของผมสามารถพูดได้ว่าผมไม่คู่ควร ท่านปู่ตระกูลหัสบดินทร์เองก็พูดได้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่...ไม่ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว