ร้านจิวเวลรี่มู่เหม่ย
หลังจากจบเรื่อง ทุกคนก็พากันแยกย้ายไป หมี่รั่วอวี้สวมรองเท้าส้นสูง เดินอยู่ด้านหน้ามู่เซิ่ง “ท่านประธานคะ คุณดูออกได้อย่างไรกันแน่ค่ะว่าพวกเขาสองคนคือต้มตุ๋น? และฝีมือของคุณดีขนาดนี้”
“ไม่มีอะไร ปกติฉันดูหนังสืบสวนมากเกินไป ดังนั้นจึงเดาออกได้” มู่เซิ่งพูด
“หึ โกหก” ได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของเขา หมี่รั่วอวี้อดเบะปากไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ “งั้นท่านประธานคะ เรื่องที่คุณรู้เกี่ยวกับหินชุบเลือดก่อนหน้านี้ล่ะคะ? รู้มาจากไหน ถึงได้รู้ทะลุปรุโปร่งขนาดนั้น”
“เรื่องนี้เหรอ ฉันเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง”
มู่เซิ่งครุ่นคิด พูดขึ้น
น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมาก วินิจฉัยหินชุบเลือด เป็นเรื่องง่ายมาก ต่อให้เป็นหยกที่หาพบได้ยาก เขาก็สามารถวินิจฉัยได้ในแวบแรก
“นี่ หนังสืออยู่ที่ไหนคะ? ฉันยังจะได้เห็นไหม?” น้ำเสียงของหมี่รั่วอวี้ตื่นเต้นในทันที
หินชุบเลือดชิ้นนี้ลอกเลียนแบบได้สุดยอดมากแล้ว แต่มู่เซิ่งยังสามารถวินิจฉัยออกมาได้ในแวบเดียว งั้นเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ รายละเอียดลึกแค่ไหนกันแน่นะ?
ถ้าหากเธอได้หนังสือเล่มนี้มา จะต้องกลายเป็นนักอัญมณีศาสตร์สูงสุด จากนักอัญมณีศาสตร์มืออาชีพสินะ?
จากนั้น คำตอบของมู่เซิ่ง กลับทำให้อารมณ์ตื่นเต้นของ หมี่รั่วอวี้ตกหล่นลงมาถึงระดับต่ำสุดทันที
“หลายปีก่อนฉันบังเอิญได้เรียนรู้จากในหนังสือ ตอนนี้ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้อยู่ไหนแล้ว” มู่เซิ่งปั้นเรื่องโกหก
เรื่องของ “ตำราทองตำนานเสวียน”เขาไม่มีทางอนุญาตให้คนอื่นรับรู้ได้
“งั้นช่างเถอะค่ะ”
หมี่รั่วอวี้ถอนหายใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ในใจของเธอรู้ดี เรื่องแบบนี้ เป็นโอกาสที่ต้องรอคอย
หลังจากกลับมาห้องทำงาน หาได้ยากที่ทางบ้านโทรหามู่เซิ่ง
อีกฝ่ายของโทรศัพท์กลับเป็นจ้าวหลิน นี่ทำให้มู่เซิ่งรู้สึกประหลาดใจ เธอถามมู่เซิ่งว่ากลับมาเมื่อไหร่ เขาไปเมืองเยียนจิงหนึ่งเดือนแล้ว
มู่เซิ่งบอกเธอ ครั้งนี้ เกรงว่าต้องอยู่นานหน่อย เพราะว่าที่เมืองเยียนจิงมีเรื่องมากมายให้ต้องทำ
จ้าวหลินบ่นพึมพำสองประโยค แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก ไม่ช้าก็วางสายไป
เขาไม่รู้ว่าที่จ้าวหลินโทรหาเขา เป็นเพราะเจียงหว่านพบปัญหานิดหน่อยที่เมืองเจียงหนาน แต่เจียงหว่านไม่ยอมให้มู่เซิ่งช่วยเหลือ เธออยากจะพิสูจน์ตัวเองต่อหน้ามู่เซิ่ง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องเพิ่งพามู่เซิ่งทุกอย่าง
สองวันก่อนหน้า
เจียงหว่านนั่งอยู่ในห้องทำงาน จัดทำแผนบริหารรายวัน ช่วงนี้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับมู่ซื่อ กรุ๊ปทำให้บริษัทเสียหายมากแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือจัดระเบียบใหม่ ค่อยๆ ฟื้นฟูกำลัง
และลูกหลานตระกูลเจียงเหล่านี้ในบริษัท ก็ไม่กล้าแอบอู้งานอีก เพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ มีคนถือว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลเจียงเที่ยวก่อความวุ่นวายไปทั่ว ผลปรากฏว่าถูกเจียงหว่านไล่ออกโดยตรง ไล่ออกจากบริษัท
“ประธานเจียง นี่โครงการร่วมงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพียงแต่บางบริษัทปฏิเสธการร่วมมือกับพวกเรา บอกว่าเป็นเพราะราคาสูงเกินไป” ในการประชุม หลิงเยียนหรานแนะนำสถานการณ์ตอนท้าย
“ราคาสูงเกินไป?” เจียงหว่านขมวดคิ้วสวย
ช่วงนี้เธอเข้ารับบริษัทตระกูลเจียง บวกกับบริษัทของตัวเอง รวมเข้าด้วยกัน ถึงตอนนี้เพื่อโครงการ ได้ลดกำไรที่จะถึงมือลงมากที่สุดแล้ว ย้อนทบทวนดูตัวเอง ทั้งเมืองเจียงหนาน กำไรของเธอถือว่าต่ำสุด ทำไมถึงยังมีบริษัทไม่ชอบที่บริษัทของเธอราคาสูง?
ในตอนนี้เอง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งยืนพูดอยู่ที่ประตู “ประธานครับ ด้านนอกมีคนที่ชื่อเจียงมู่หลงขอพบคุณครับ”
เจียงมู่หลง!
ได้ยินสามคำนี้ ทุกคนชะงักงันโดยไม่รู้ตัวในทันที
“เจียงมู่หลง นายพูดจริงเหรอ?”
“เงินเหล่านี้นายเอามาจากไหน?”
“เจียงมู่หลง นายไม่ได้หลอกพวกเราหรอกนะ?”
ญาติๆ มองเจียงมู่หลงอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าหากนับบริษัท พวกเขาชอบอยู่ที่บริษัทของเจียงมู่หลงมากกว่า เพราะว่าเจียงหว่านเข้มงวดเกินไปจริงๆ แต่พวเขาก็ไม่เชื่อว่าเจียงมู่หลงจะมีความสามารถนี้ ก่อตั้งบริษัท
ถ้าหากมีความสามารถนี้จริงๆ ก็ไม่มีทางชำระเงินกู้ธนาคารไม่ไหวจนต้องถูกบังคับให้ขายบริษัท
“ฉันไม่ได้หลอกพวกเธอแน่นอนอยู่แล้ว ช่วงนี้มีคนเห็นความสำคัญถึงความสามารถของฉัน ลงทุนให้ฉันหนึ่งพันล้าน ถ้าหากพวกเธอไม่เชื่อ ไปตรวจสอบดูบริษัทที่เสนอราคาโครงการต่ำที่สุด ว่าใช่บริษัทใหม่ที่ชื่อบริษัทมู่หลงหรือไม่?” เจียงมู่หลงถามเรียบๆ
คราวนี้ ทุกคนไม่มีคำพูดในทันที
เพราะว่าเมื่อครู่ในการประชุม หลิงเยียนหรานยังเคยพูดถึงเรื่องนี้
“จะอยู่จะไป ตามความสมัครใจของพวกเธอ”เจียงมู่หลงยิ้มบางพูด
ในน้ำเสียง ความหมายของสวัสดิการนั้นเห็นได้ชัดตั้งนานแล้ว
“เจียงมู่หลง นายเป็นปลาคราฟสีทองที่ไม่ได้อยู่ในบ่อ ตอนนี้ดูไม่ผิดจริงๆ ด้วย”
“ฉันไปกับนายแน่นอน”
“เจียงหว่านไม่มีความสามารถในการชี้นำบริษัท ถ้าไม่ใช่เฝิงจงเหลียงออกหน้า เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเป็นประธานบริษัทแห่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้มีโอกาสดีขนาดนี้ที่จะจากไป ฉันจะไม่ยินยอมได้อย่างไร”
“ฉันก็ยินยอม”
ลูกหลานตระกูลเจียงเหล่านั้นอดลุกขึ้นยืนไม่ได้ แต่ละคนแสดงความเต็มใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...