“เอาอย่างนี้ละกัน พรุ่งนี้พวกเราไปตามหมายกำหนดการของทัวร์ก่อน เที่ยวไปรอบเกาะก่อนสักเที่ยว ถึงแม้ในรายการมีของพวกอินเทอเน็ทเซเล็ปฯ.มากมาย แต่การจะไปถ่ายรูปกันที่ไหน ให้ดีก็ต้องไปดูเองให้ทั่วก่อนดีกว่า” เจียงหว่านพูดกับมู่เซิ่งในตอนนี้ว่า “ที่รัก นายคิดว่าหละ?”
“ก็ดี ไม่มีปัญหาแน่นอน ขอเพียงเธออย่าบ่นมาว่าเดินเหนื่อยก็แล้วกัน” มู่เซิ่งพูดด้วยเสียงหัวเราะ เขาไม่แคร์ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะเที่ยวหมดทั้งเกาะ ได้อยู่ด้วยกันกับเจียงหว่าน เขาก็สุขใจอย่างเพียงพอแล้ว
หลังจากนี้ทั้งสองก็คุยกันไปในสารพัดเรื่อง คุยไปในหลายเรื่อง มู่เซิ่งก็ฟังอย่างตั้งใจ จนถึงเจียงหว่านคุยจนออกอาการสลึมสลือเบลอหลับไป เขาจึงได้ห่มผ้าห่มให้ ล้างตัวบ้วนปากเข้านอน
ขณะนอนหลับ เจียงหว่านยังคงอยู่ในสภาพเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น คงด้วยเพราะกำลังจะได้ใส่ชุดวิวาห์แล้ว เรื่องนี้สำหรับหล่อน ต้องเรียกว่าเป็นครั้งแรก การแต่งงานในปีนั้น เจียงหว่านไม่ได้มีความยินยอมเลย ถึงขนาดชุดวิวาห์ยังไม่อยากใส่ แต่มาตอนนี้ หล่อนอดรนทนไม่ได้แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองกินอาหารเช้ากันแล้ว ก็ออกเดินทางไปพร้อมกับช่างภาพอิสระกับเลยค่ะยางเหนิงมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
ถึงแม้จะว่า พวกเขาต้องเดินทางชนิดวิบากทางรก แต่เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับมู่เซิ่งกับเจียงหว่านในตอนนี้คือ จะหาร้านเหมาะ ๆ เพื่อเลือกซื้อชุดวิวาห์
ร้านชุดวิวาห์ซินซิน
ร้านนี้ดูชื่อแล้วออกธรรมดามาก แต่ในจำนวนสิบกว่าร้านชุดวิวาห์บนเกาะนี้ จัดเป็นร้านไฮโซระดับสุดยอด ชุดที่นำเสนอในร้านนี้เป็นชุดวิวาห์ที่หรูหราที่สุดรวมทั้งช่างภาพ นักท่องเที่ยวระดับคนชั้นนำและผู้สูงศักดิ์ แทบจะทั้งหมดต้องมาเลือกใช้บริการร้านนี้ในการถ่ายภาพชุดวิวาห์
มู่เซิ่งกับเจียงหว่านเดินเข้าไปในร้านชุดวิวาห์นี้
ร้านนี้ถึงแม้ว่าราคาจะสูงมาก แต่ก็มีหนุ่มสาวทั่วไป เข้าไปเดินชมกันไม่น้อย ถึงยังไง แต่งงานสำหรับคนคนหนึ่ง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิต เพราะฉะนั้นถึงจะเป็นคนทั่ว ๆ ไป ขอให้มีความสามารถพอ ก็จะพยายามเลือกที่จะมาหาชุดวิวาห์ที่นี่
ถึงยังไง สำหรับเรื่องชุดแต่งงาน ถึงแม้จะสำคัญมาก แต่ทั้งชาติก็คงใส่กันเพียงครั้งเดียว พวกเขาถึงแม้ไม่มีปัญญาซื้อชุดเป็นหลายหมื่นหรือหลาย ๆ แสนได้ แต่กับการที่จะเช่าสักชุดก็ยังทำกันได้
มัคคุเทศก์ที่ท่านหลงจัดมาให้ เห็นชัดว่าเป็นคนคุ้นเคยบนเกาะนี้มาก พอเข้ามาถึงในร้าน ก็เข้าไปนั่งคุยกับผู้จัดการในร้านเลย ดูท่าทางจะเป็นคนที่เป็นที่รู้จักอยู่พอตัว
“หยางเหนิง คุณไม่ได้มานานแล้วเลยนะ เป็นไง พาเพื่อนสองท่านนี้มาเที่ยวกันหรือ?” เจ้าของร้านชุดวิวาห์เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ เข้ามาต้อนรับพวกมู่เซิ่งอย่างกระตือรือร้น
“ประมาณนั้น พวกเขามาที่นี่เพื่อถ่ายภาพวิวาห์กัน” หยางเหนิงแนะนำไปตามมารยาท
คุณนายเจ้าของร้านผงกหัว
ทั้งสองคนทักทายกัน แล้วก็คุยกันอย่างชื่นมื่นในร้าน
ด้วยเพราะแน่นอนค่ะซิ่งไม่อยากเปิดเผยให้เจียงหว่านรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับท่านหลง จึงได้กำชับจางเสวียนหลงไว้ ให้เขาบอกว่าเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็พอ ไม่คิดว่าหยางเหนิงก็เลยดูแลมู่เซิ่งอย่างคนทั่วไป ส่วนปฏิสัมพันธ์กับเขา ก็ไม่ได้มีการให้การเคารพในระดับสูง
ถึงขนาดมีความคิดอยู่ในใจว่า รอให้มู่เซิ่งเที่ยวหมดรายการของเขาแล้ว ก็ปล่อยพวกเขาทิ้งที่เกาะเป็นอันจบ ตัวเองก็จะได้ไปเที่ยวในส่วนตัว ถึงยังไงก็โตกันป่านนี้แล้ว ยังจะเดินหลงบนเกาะกันได้อีกหรือ?
ในขณะนั้น ระหว่างช่วงที่พวกเขาคุยกันอยู่ มู่เซิ่งกับเจียงหว่าน ก็เที่ยวเดินชมไปรอบ ๆ ร้านชุดวิวาห์นั้น
ร้านชุดวิวาห์นี้ไม่เสียทีที่เป็นร้านชุดวิวาห์ที่ดีที่สุด ชุดวิวาห์ในร้านล้วนเป็นชุดที่ใช้ฝีมือละเอียดกันอย่างสูง ทำเอาแววตาเด็กสาว ๆ หลายคนออกอาการทึ่งอิจฉา ทว่าราคาชุดวิวาห์พวกนี้ สูงตามมูลค่าอย่างน่าตกใจ
และที่บริเวณกลางร้านชุดวิวาห์นี้ เป็นจุดดึงดูดความสนใจของสายตาทุกคู่
ที่นั่น ตั้งตู้กระจกเด่นสูงใหญ่ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่เดินผ่าน ต้องหยุดลงไม่มียกเว้นสักคน ต่างก็ต้องจ้องมองไปที่ชุดในตู้กระจกพร้อมกับเสียงชม ตั้งแต่ทีแรกมา เจียงหว่านก็ไม่ได้สนใจ แต่แล้วสายตาก็ผ่านมองไปทางตู้กระจกใหญ่นั้น และแล้ว หล่อนมองไปเพียงแวบเดียว สายตาก็ติดอยู่กับที่ไม่ไปไหน
ในสายตาของหล่อน เมื่อเจียงหว่านได้ฟังถึงราคา ก็ต้องละทิ้งแน่นอน
ก็จริงดังคาด พอได้ยินคำชี้แจงของคุณนายเจ้าของร้านแล้ว สีหน้าเจียงหว่านก็ปกคลุมไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง
“ถ้างั้น ชุดวิวาห์ชุดนี้มีราคาเท่าไหร่ล่ะ?” ทันทีนั้น มู่เซิ่งที่อยู่ข้าง ๆ ได้เอ่ยปากถามขึ้นมา
คุณนายเจ้าของร้านมองหน้ามู่เซิ่ง ท่าทางก็ดูดีอยู่ แต่งตัวเรียบร้อย แต่ในตัวไม่เห็นมีกลิ่นอายแบบคนมีเงิน อีกทั้งได้ยินรายละเอียดจากหยางเหนิง ก็เป็นแค่คนทั่วไปที่มีเงินว่างอยู่บ้างเท่านั้นเอง ไม่มีทางว่าจะซื้อชุดวิวาห์ชุดนี้ได้เป็นแน่
ฉะนั้น คุณนายเจ้าของร้านก็ขี้เกียจจะพูดอ้อมค้อมให้ยืดยาด บอกราคาของชุดวิวาห์ชุดนี้ไปตรง ๆ “สามสิบเจ็ดล้าน”
พอเจียงหว่านได้ยินเข้า อ้าปากหวอด้วยสัญชาตญาณ สามสิบเจ็ดล้านกับชุดวิวาห์ชุดหนึ่ง?อะไรจะแพงกันขนาดนั้น ทั้งเป็นชุดวิวาห์ที่จะใช้ก็เฉพาะในงานพิธีแต่งงาน ซื้อชุดวิวาห์ชุดหนึ่ง ใช้ใส่แค่ครั้งเดียว มันจะฟุ่มเฟือยเกินไปมั้ง?
ขณะเดียวกันนั้น แววตาของหล่อนทอประกายผิดหวังแวบหนึ่ง ส่ายหน้าไปมา
สามสิบเจ็ดล้าน ยังถึงกับพอช่วยฟื้นบริษัทของหล่อนในปัจจุบันนี้ได้เลย เอามาใช้ซื้อชุดวิวาห์หนึ่งชุด เจียงหว่านทำไม่ได้
“พอได้ งั้นเอาชุดนี้แหละ” มู่เซิ่งผงกหัว แล้วก็เอื้อมมือไปเตรียมจะเปิดประตูกระจก เพื่อหยิบเอาชุดวิวาห์นั้นมาให้เจียงหว่านใส่
“เดี๋ยว ๆ!คุณ คุณว่าอะไรนะ?”
คุณนายเจ้าของร้านคว้ามือมู่เซิ่งไว้ด้วยสัญชาตญาณ หัวใจสะเทือนผวาอย่างหาอะไรเทียบไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...