อาการบาดเจ็บของเจียงหว่านไม่ได้รุนแรง ที่เยอะคือรอยถลอก มู่เซิ่งใช้ครีมลบรอยแผลเป็นที่สำรองเอาไว้ทาลงบนแผลของเจียงหว่าน แผลบนตัวเกือบจะหายดีหมดแล้ว
หลังจากทั้งสองคนกลับไป เมื่อย้อนคิดดูทั้งสองคนพูดไม่ออกเลย เรื่องนี้สำหรับมู่เซิ่งและเจียงหว่านถือเป็นหายนะครั้งหนึ่ง แต่มีหรือที่นี่จะไม่ใช่การขัดเกลา หลังผ่านเรื่องนี้ไป ความรักของทั้งสองคนยิ่งมั่นคงขึ้น ถึงกระทั่งที่การจูบในห้องผู้ป่วย ก็ดูยิ่งชำนาญขึ้นด้วย
“มู่เซิ่ง หลังกลับไปครั้งนี้ฉันอยากจัดงานแต่ง งานแต่งอย่างเป็นทางการ”
เจียงหว่านพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ หลังจากเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าในชีวิตเธอไม่สามารถขาดมู่เซิ่งได้ ตอนมู่เซิ่งคุกเข่าในตอนนั้น ทรมานยิ่งกว่าฆ่าเธอเสียอีก ในเวลาเดียวกันเจียงหว่านก็กังวลมาก ถ้ามู่เซิ่งจากเธอไป มันคงเป็นความเจ็บปวดในใจที่ไม่สามารถลบได้ตลอดชีวิต
ด้วยเหตุนี้เจียงหว่านจึงไม่ได้สำรวมเหมือนก่อนหน้านี้ เธอพูดกับมู่เซิ่งตรงๆ ว่า “สามปีก่อนฉันไม่ยอมแต่งงานกับนาย แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกทุกคนอย่างสง่าผ่าเผยว่าฉันแต่งกับนาย ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้ว่าเราแต่งงานกัน!”
ในเวลาเดียวกันในใจเจียงหว่านก็มีอีกหนึ่งความคิด
นั่นก็คือหลังแต่งงาน จะ ‘ร่วมห้อง’ กับมู่เซิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นงานแต่งนี้ถือเป็นการมอบความกล้าให้เธอ
“ได้” มู่เซิ่งเผยสีหน้าประทับใจ พยักหน้าพูดว่า “งานแต่งนี้จัดที่เมืองเยียนจิงก็ได้”
“เมืองเยียนจิงเหรอ” เจียงหว่านอึ้งไป เธอไม่คุ้นเคยกับเมืองเยียนจิง จัดงานที่เยียนจิงจะมีคนมาร่วมงานเหรอ
“เดี๋ยวถึงตอนนั้นเธอก็รู้เอง” มู่เซิ่งเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เจียงหว่านจึงตัดสินใจไม่ถามอะไรอีก เธอเอนตัวนอนลงบนเตียงผู้ป่วย แม้แผลบนตัวเธอหายแล้ว แต่ถ้าไม่นอนพักสักวันสองวัน มู่เซิ่งคงไม่วางใจแน่ๆ
ขณะนั้นมู่เซิ่งสังเกตเห็นเหยาเผิงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย จึงพูดกับเจียงหว่านว่า “ฉันขอไปทำธุระก่อน อีกเดี๋ยวให้ท่านหลงไปส่งเธอ”
“อืม นายระวังด้วย” เจียงหว่านพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วพูดกำชับเสียงเบา
“วางใจเถอะ” มู่เซิ่งลูบหัวเจียงหว่านแล้วเดินออกไป
เหยาเผิงที่ยืนรอมู่เซิ่งออกมาอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย ถอนหายใจออกมาด้วยความอิจฉาอย่างอดไม่ได้ เป็นความรักที่ทำให้คนโหยหาจริงๆ ตอนเขาหนุ่มๆ ก็เคยมีเหมือนกัน แต่เพราะตอนนั้นเขาจนจึงเลิกกัน ตอนนี้หลังจากมีเงิน กลับหาความรู้สึกเหมือนรักแรกที่อยู่ด้วยกันในตอนนั้นไม่ได้อีกแล้ว
ผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่กับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเงินของเขา ก็เพราะตำแหน่งของเขา ตอนหนุ่มเขาไม่สนใจ แต่เมื่อผ่านมาหลายปีก็ยังไม่ได้สร้างครอบครัว เขาอดคิดไม่ได้ว่าแม้แต่เพื่อนคุยความในใจสักคนก็ยังไม่มีเลย
“คุณมู่ จัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว” เมื่อเหยาเผิงเห็นมู่เซิ่งเดินออกมา จึงพูดอย่างนอบน้อม
ข่าวเช้าเขียนไว้ว่าที่คฤหาสน์ของสองพ่อลูกตระกูลอู๋ เพราะสูบบุหรี่บนเตียง จึงทำให้เกิดไฟไหม้คฤหาสน์ สองพ่อลูกตายในกองไฟ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ทำให้คนบนเกาะตกใจมาก เพราะอู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินเป็นใหญ่บนเกาะสองใจ ทว่าตอนนี้กลับเสียชีวิตลงแล้ว
หลังจากสาวที่เป็นเจ้าของร้านชุดแต่งงานที่หนีไปจากเกาะสองใจตั้งนานแล้วรู้เรื่องนี้ยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ อู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินตายแล้วงั้นเหรอ โดนไฟคลอกตายเหรอ เธอไม่เชื่อสาเหตุการตายเลยสักนิด ทำไมถึงบังเอิญขนาดนั้น ตายในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้
แต่ว่า……
เจ้าของร้านชุดแต่งงานก็ไม่เชื่อว่าพวกเขาโดนมู่เซิ่งฆ่าตาย เพราะจะทำลายสองพ่อลูกตระกูลอู๋ ต้องมีอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน
แต่ไม่ว่ายังไง เจ้าของร้านชุดแต่งงานก็ไม่กล้ากลับไปที่เกาะสองใจอีกแล้ว เธอหวังแค่ว่าหลังเรื่องนี้จบ มู่เซิ่งจะไม่มาหาเรื่องเธอก็พอแล้ว
“งั้นนายพักผ่อนเถอะ” มู่เซิ่งตบไหล่หยางเหนิงแล้วเอ่ยขึ้น
ในเวลาเดียวกัน เขาหันมาพูดกับจางเสวียนหลงว่า “จางเสวียนหลง ลูกน้องนายคนนี้เป็นคนมีความสามารถฝีมือไม่เลว รักษาเอาไว้ให้ดีล่ะ”
จางเสวียนหลงพยักหน้า
ไม่ต้องให้มู่เซิ่งบอก ความดีความชอบที่หยางเหนิงทำ ต่อไปเขาต้องให้ความสำคัญแน่นอน
หลังจากมู่เซิ่งออกไป จางเสวียนหลงตบไหล่หยางเหนิงแล้วพูดว่า “ดูไม่ออกเลยว่าเด็กอย่างนายนอกจากชอบถ่ายภาพแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีความชอบธรรมขนาดนี้ ต่อไปคงต้องมอบตำแหน่งผู้จัดการสโมสรรอยัลคลับให้นายแล้วล่ะ”
“ขอบคุณท่านหลงที่ให้ความสำคัญกับผม” หยางเหนิงยิ้มอย่างดีใจแล้วเอ่ยขึ้น ได้เข้าไปในสโมสรรอยัลคลับ หมายความว่าต่อไปเขาจะกลายเป็นคนสนิทของท่านหลง
“ขอบคุณอะไรกันล่ะ นี่คือสิ่งที่นายสมควรได้รับ” จางเสวียนหลงส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
รอจนทุกอย่างเรียบร้อย มู่เซิ่งเก็บข้าวของเล็กน้อย เตรียมออกทะเลกับเหยาเผิง
สิ่งที่ทำให้มู่เซิ่งประหลาดใจเล็กน้อย ครั้งนี้เหยาเผิงยังได้ข่าวเกี่ยวกับสมุนไพรพิเศษ จากคำอธิบายวิธีกลั่นยาของตำราทองตำนานเสวียน สมุนไพรนี้สามารถช่วยให้เขายกระดับพละกำลังของนักเสวียนได้ ถึงทะลุระดับขั้นสามก็มีหวัง ดังนั้นการออกทะเลครั้งนี้ของมู่เซิ่งจึงมีอีกหนึ่งเป้าหมาย
แต่จากที่เหยาเผิงพูด ทุกครั้งเส้นทางการเดินเรือของโจรสลัดพวกนี้ไม่แน่นอน ลงมือแบบไม่มีแบบแผน ครั้งก่อนปล้นเรือสินค้า ครั้งนี้กลับปล้นเรือสำราญ ดังนั้นเหยาเผิงจึงตั้งใจซื้อตั๋วเรือสำราญให้มู่เซิ่งและตัวเอง เตรียมออกเดินทาง
มู่เซิ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับอะไรพวกนี้ พยักหน้าตอบตกลงไปอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...