“นายน้อย ลุกไหวด้วยเหรอคะ”
ป้ามิเชลล์อุทานตกใจเมื่อตอนเช้าเห็นเดมอนเดินเข้ามาในห้องอาหาร โดยมีพะแพงเดินตามหลังมาติดๆ
“ทำไมผมจะต้องลุกไม่ไหวด้วยล่ะครับ”
เดมอนเอ่ยถามกลับ สีหน้าเฉยชา ตรงกันข้ามกับพะแพงที่หน้าแดงก่ำ หลบสายตาป้ามิเชลล์พัลวัน
“ก็นายน้อยไข้ขึ้นเมื่อคืนนี่คะ” ป้ามิเชลล์ยังคงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ก็ผมหายแล้วนี่ครับ”
“ไม่น่าเป็นไปได้นะคะ นายน้อยป่วยทีไรเป็นอาทิตย์ทุกที”
เดมอนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ หยิบผ้าเช็ดปากมาปูบนตัก ก่อนจะเลื่อนสายตามองหน้าพะแพงที่นั่งข้างๆ จากนั้นก็ยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก
“สงสัยได้คนเช็ดตัวดีมั้งครับ จริงไหมแพตตี้”
หน้าของพะแพงแทบไหม้เลยทีเดียว หล่อนเสหลบสายตาของทุกคนลงมองมือเล็กที่ประสานเอาไว้บนตัก หัวใจเต้นโครมครามตลอดเวลา เพราะภาพที่ตัวเองสวมบทเป็นจ๊อกกี้สาวควบขี่เดมอนทั้งค่ำคืนยังติดตรึงอยู่ในสมอง หล่อนควบเขาไม่หยุด ไม่อยากเชื่อเลยว่าหล่อนจะสามารถขี่ผู้ชายได้นานขนาดนี้
“เอ่อ...”
“แม่คับ...พ่อคับ...”
เสียงของวินเซนต์ดังขึ้น พร้อมกับร่างตุ้ยนุ้ยที่วิ่งเข้ามากอดเดมอนอย่างคิดถึง
“ตื่นแล้วหรือครับคนเก่ง”
“คับ”
สองพ่อลูกหัวเราะกันอย่างมีความสุข ในขณะที่อ้อมแขนที่อ้ากว้างของหล่อนต้องตกลงข้างตัว เมื่อลูกชายทำแค่ยิ้มให้กับหล่อนเท่านั้น แต่ไม่ยอมผละออกห่างเดมอนเลย
หล่อนพยายามคิดว่าลูกชายคงกำลังตื่นเต้นอยู่กับการได้พบบิดาที่ไม่ได้เจอมาตั้งแต่แรกเกิด พยายามคิดแบบนี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกความน้อยใจทำร้าย
“วันนี้หมูวินจะกินอะไรดีครับ” เดมอนจูบแก้มยุ้ยของลูกชายฟอดใหญ่ก่อนจะเอ่ยถาม
“เบคอน ไข่ดาวคับผม”
“ได้เลยครับ” เดมอนยิ้มกว้าง หันไปบอกคนใช้ “ลูกฉันจะกินเบคอน ไข่ดาว รีบเอามาเร็วเข้า”
“ค่ะ” สาวใช้รีบตอบรับคำสั่ง และจัดการให้อย่างเร่งด่วน
สาวใช้นำจานอาหารเช้าของวินเซนต์มาวางตรงหน้าในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงนาที
เดมอนจับผ้าเช็ดปากปูลงบนตักให้กับวินเซนต์ ก่อนที่สองพ่อลูกจะผูกการสนทนากันเพียงลำพัง หล่อนมองทั้งน้ำตา และก็ทำได้แค่เพียงก้มหน้ากินอาหารเช้าที่รสชาติแย่ที่สุดในชีวิต เงียบๆ เท่านั้น
หลังจากจบมื้อเช้าที่แสนทรมาน เดมอนก็จูงมือวินเซนต์ออกมาที่รถสปอร์ตคันงามของตนเอง
“พ่อไปทำงานก่อนนะครับ”
หล่อนเดินตามออกมาด้วย แต่เหมือนไร้ตัวตน
“ผมจะรอพ่อนะคับ”
เดมอนยกมือขึ้นลูบหัวศีรษะของลูกชาย ก่อนจะจูบแก้มฟอดใหญ่ จากนั้นก็ปรายตามองหล่อนที่ยืนหน้าเศร้าเล็กน้อย
“อย่าดื้อกับแม่นะครับคนเก่ง”
“ผมไม่ดื้อไม่ซนคับ”
“เก่งมาก งั้นไปเล่นกับน้าเบนก่อนนะครับ พ่อมีอะไรจะคุยกับแม่นิดหน่อย”
“คับผม”
วินเซนต์ยิ้มให้เดมอน และเลยมายิ้มสดใสให้กับแม่ผู้ถูกลืมอย่างหล่อนเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งไปหาเบนจามินทร์ที่ยืนรออยู่ แล้วทั้งสองคนก็พากันเดินหายไป
หล่อนกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายที่ทำราวกับไม่ใช่คนคนเดียวกับม้าหนุ่มตัวเมื่อคืน
“วันนี้ฉันจะให้เลขาฯ ติดต่อโรงเรียนให้หมูวิน เธออยากรู้รายละเอียดก่อนหรือเปล่า”
“ทำอะไรอยู่ครับ หมูวิน”
เด็กน้อยหยุดวิ่งเล่น แล้ววิ่งเข้ามากอดมารดา “ผมวิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่คับ แต่จับไม่ได้สักที”
หล่อนย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า และยกมือขึ้นซับเม็ดเหงื่อเล็กๆ บนหน้าผากให้กับลูกชายอย่างเอ็นดู
“ผีเสื้อคงตกใจน่ะครับที่ถูกหมูวินวิ่งไล่จับ”
“แต่ผมอยากได้ผีเสื้อนี่คับ”
“ผีเสื้อตัวเล็กนิดเดียว ปีกก็บอบบางมาก หมูวินแน่ใจเหรอครับว่าถ้าจับได้แล้วจะไม่ทำปีกของผีเสื้อขาด”
“ผมจะพยายามคับ”
หล่อนยิ้มบางๆ ก่อนจะพร่ำสอนลูกน้อย “ถึงผีเสื้อจะไม่ใช่คนแบบหมูวิน แต่ผีเสื้อก็มีชีวิตมีจิตใจนะครับ ดังนั้นแค่มองเขาเฉยๆ ก็พอ อย่าไปแตะต้องทำให้เขาบอบช้ำเลย” มือเล็กของพะแพงยกขึ้นลูบศีรษะของลูกชาย “เชื่อแม่นะครับคนเก่ง”
แม้สีหน้าของวินเซนต์จะมีร่องรอยผิดหวัง แต่ก็ตอบรับคำสั่งสอนของมารดาอย่างว่านอนสอนง่าย
“คับแม่ ผมจะดูเฉยๆ คับ”
พะแพงระบายยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะชี้ชวนให้ลูกชายมองผีเสื้อที่บินมาเกาะดอกไม้ใกล้ๆ
“ตัวนี้สวยจังเลยคับแม่ มาเกาะใกล้ๆ ผมด้วย ไม่หนีผมแล้ว”
“ถ้าเราไม่วิ่งไล่จับเขา เขาก็จะบินวนเวียนอยู่รอบตัวเรานี่แหละครับ”
“คับแม่”
หล่อนไม่รู้หรอกว่าวินเซนต์จะเข้าใจคำสอนของหล่อนมากน้อยแค่ไหน แต่ลูกชายกำลังขยับตัวเข้าไปใกล้ดอกไม้ที่มีผีเสื้อปีกสวยกำลังดูดน้ำหวานอยู่ด้วยความสนอกสนใจ
พะแพงระบายยิ้มทั้งน้ำตา มองลูกชายที่โตขึ้นทุกวันด้วยความรัก ตอนนี้วินเซนต์มีพร้อมทุกอย่างแล้ว ทั้งพ่อที่เขาโหยหามาตลอดตั้งแต่รู้ความ อำนาจวาสนา รวมถึงทรัพย์ศฤงคารมากมายที่วินเซนต์ใช้ไม่มีวันหมด ซึ่งถึงไม่มีหล่อน วินเซนต์ก็สามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างสบายเพราะมีบิดาอย่างเดมอน
หล่อนรีบยกมือขึ้นป้ายน้ำตาจากแก้มนวลและปั้นยิ้ม เมื่อลูกชายหันมาหาและชี้ชวนให้ดูผีเสื้อหลายตัวที่บินอยู่ล้อมรอบด้วยความตื่นเต้นดีใจตามประสาเด็ก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางบำเรอก้นครัว ชุด Sweet temptations