นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 147

“ข้าไม่ได้ทิ้งเจ้า ! ข้าอายุยี่สิบสี่แล้ว นั่นไม่ใช่ว่าอายุเยอะแล้วหรือไง !” โจวต้าไห่รีบหาเหตุผลของตัวเอง

หลิวเซียงแววตาเกิดประกาย “งั้นเจ้าเลือกข้า ! วันนี้ข้าจะเข้าไปอยู่บ้านเจ้า ข้าเป็นคนของเจ้าแล้ว !”

“หะ ?” โจวต้าไห่งงเป็นไก่ตาแตก

โจวกุ้ยหลานที่อยู่ไม่ไกลเห็นฉากนี้เข้า ก็รู้สึกได้ทันทีว่าหลิวเซียงและพี่ชายของนางดูจะเข้ากันได้ดีทีเดียว......

“งั้นเอาตามนี้แล้วกัน ตอนนี้ข้าเป็นเมียของเจ้าแล้ว !” หลิวเซียงพูด จากนั้นกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของโจวต้าไห่

โจวต้าไห่งุนงง จนกระทั่งได้สติกลับมา เขารีบดันตัวหลิวเซียงออกไป และพูดขึ้นว่า “ไม่ได้ ! อย่างนี้เป็นไปไม่ได้ เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อน ให้ข้าขอคิด....ดูก่อน.....”

ขณะที่พูด โจวต้าไห่ก็รีบปลีกตัวออกจากหลิวเซียง เข้ามาหาโจวกุ้ยหลาน

เมื่อมาอยู่ข้าง ๆ โจวกุ้ยกลิน เขาก็รีบดึงแขนของโจวกุ้ยหลานไว้ และรีบเดินออกไปข้าง ๆ

สวีฉางหลินที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้ว ในใจไม่ได้ยินดีด้วย

นั่นภรรยาของเขานะ เขายังไม่ทันได้กอดเลย ก็ถูกโจวต้าไห่จับแขนซะแล้ว !

ต่อให้เป็นท่านพี่ก็ไม่ได้ !

คิดได้ดังนั้น เขาก็ยกขาก้าวตามไป

โจวต้าไห่ดึงโจวกุ้ยหลานเดินออกมาได้สักพัก ค่อยปล่อยมือออก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรน “เจ้าพานางมาได้ยังไงน่ะ ?”

“นางมาที่บ้านของพวกเรา บอกว่าเป็นภรรยาของเจ้าในอนาคต ข้าจะปล่อยให้นางเสียเวลามาเปล่า ๆ ได้ยังไง” โจวกุ้ยหลานพูดเหมือนนางไม่มีความผิด

แม้จะบอกว่านังนั่นทันทีที่เจอก็เรียกนางว่าพี่ใหญ่ทำนางรู้สึกไม่พอใจก็ตาม แต่ว่านางก็ไม่ใช่คนไม่ยอมฟังขนาดนั้น.....

“นี่จะทำยังไงดี เจ้ารีบคิดหาวิธี ขอให้นางกลับไปที” โจวต้าไห่พูดอย่างร้อนรน

โจวกุ้ยหลานกะพริบตา “เจ้าไม่ชอบนางงั้นหรือ ?”

“ไม่ใช่เรื่องที่ชอบหรือไม่ชอบ โอย ข้าจะพูดยังไงกับเจ้าดี เรื่องนี้ไม่ดีต่อนาง เจ้าเข้าใจไหม ? ต่อไปก็อาจจะไม่มีบ้านไหนมาสู่ขอแล้ว! อีกอย่าง พ่อแม่ของนางหานางไม่เจอต้องรีบร้อนแน่ !”

โจวต้าไห่ยิ่งพูดยิ่งร้อนรน

“เจ้าคิดว่านางหาบ้านเราเจอได้ยังไงกัน ? คงต้องถามทางมาหรอก ? เกรว่างหมู่บ้านเรารู้ไปหมดแล้ว ตอนนี้ต่อให้เจ้าส่งนางกลับไปก็ไม่มีประโยชน์” โจวกุ้นหลานกะพริบตาดวงโตของตัวเองอีกครั้ง เตือนโจวต้าไห่

หลิวเซียงคนนี้มีฝีมือนี่นา ไม่คาดคิดว่าจะควานหาหมู่บ้านของเราเจอได้ด้วยตัวเอง ทั้งสองหมู่บ้านน่าจะอยู่ห่างกันยี่สิบสามสิบลี้ได้เลย !

เมื่อได้ยินโจวกุ้ยหลานพูดอย่างนี้ โจต้าไห่ก็เงียบไป

เมื่อสักครู่เขามัวแต่เป็นกังวล ไม่ทันได้คิดถึงเรื่องนี้อยู่......

จู่ ๆ โจวกุ้ยหลานก็รู้สึกว่าไหล่ของตนเองมีอีกมือหนึ่งเพิ่มขึ้นมา นางหันกลับไป ก็เห็นอีกมือหนึ่งของสวีฉางหลินกำลังอุ้มเจ้าก้อนน้อยเอาไว้ มีตะกร้าแขวนอยู่ที่แขน อีกมือหนึ่งโอบนางเอาไว้ ท่าทางนั้นดูน่าขัดใจ

“เจ้าจะทำอะไร ?”

“กอดภรรยาของตัวเองไง” สวีฉางหลินตอบตามจริง

เขาเสียความรู้สึกจริง ๆ ที่กอดเมียของตัวเองยังยากขนาดนี้ สิ่งที่ยิ่งยากก็คือ เขายังไม่ได้เข้าหอกับพรรยาของตนเองไม่ได้ คืนนี้เขาต้องนอนกับภรรยาคนนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นถ้านางหนีไปกับคนอื่นจะทำยังไง ?

เมื่อคิดได้ดังนี้ สวีฉางหลินในใจก็เกิดตกตะลึง ในหัวเริ่มคิดวิเคราะห์ว่าช่วงนี้ผู้ชายที่ภรรยาของเขาได้เจอมา

อือ ไม่มีใครเทียบเขาได้หรอก

เมื่อคิดอย่างนี้ ในใจของเขาก็สงบลงไม่น้อย อย่างน้อยที่สุดจนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีใครลักพาพรรยาของเขาไปได้

ลองคิดดูอีกครั้ง ใครก็รับรองไม่ได้ว่าต่อจากนี้จะมีชายที่ดีกว่าเขาปรากฏตัวขึ้นในอนาคต และพาตัวภรรยาของเขาไป !

หลิวเซียงมองด้วยความตกใจ นี่มันข้าวสวยนี่นา ! นางไม่เคยได้กินมานานหลายปีแล้ว !

โจวกุ้ยหลานเหมือนว่ามองไม่ออกถึงท่าทีของนางที่แปลกไป หลังจากที่ส่งให้นางรับ ก็ตักข้าวอีกหนึ่งชามส่งให้สวีฉางหลิน จากนั้นตักข้าวให้โจวต้าไห่และเจ้าก้อนน้อย ค่อยตะโกนเรียกโจวต้าไห่ที่กำลังเดินมาทางนี้ “ท่านพี่ กินข้าวได้แล้ว !”

“มาแล้ว !”

โจวต้าไห่ขานตอบ รีบก้าวเท้าเดินเข้ามา นั่งลงข้าง ๆ หลิวเซียง รับเอาชามและตะเกียบที่โจวกุ้ยหลานยื่นให้ เริ่มทำการรีบตักข้าวเข้าปาก

โจวกุ้ยหลานยื่นขาวสวยไปให้เจ้าก้อนน้อย นำชามที่วางปิดกับข้าวเอาไว้ออก

เหลือบเห็นกับข้าวที่อยู่ด้านใน หลิวเซียงยิ่งตกตะลึง

ด้านในนี้มีเนื้ออยู่ด้วย ! แล้วก็ไข่ตุ๋น ! นี่อะไรน่ะ ? หน้าตาดูแปลก ๆ แต่เมื่อดมกลิ่นกลับหอมเหลือเกิน !

โจวกุ้ยหลานก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าหลิวเซียงจะมาที่นี่ จึงนำชุดชามกับตะเกียบมาแค่สี่ชุด ตอนนี้ชามน่ะมี แต่ว่าตะเกียบไม่มี

นางครุ่นคิด หรือว่าจะกลับไปกินดี

คิดไปคิดมา นางก็นั่งลงข้าง ๆ พิงต้นไม้มองท้องฟ้า

ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าคราม เพียงแค่มองในใจก็มีความสุข รู้สึกได้ว่าช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ช่างมีความสุขเหลือเกิน !

โจวกุ้ยหลานถอนหายใจ จู่ ๆ ด้านหน้าก็มีชามข้าวยื่นเข้ามาพร้อมกับตะเกียบอีกหนึ่งคู่

เมื่อมองไป ก็เห็นสวีฉางหลินมองไปที่นาง

“เจ้ากินก่อนเถอะ ข้าค่อยกลับไปกินก็ได้” โจวกุ้ยหลานรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ตอบรับกลับไป

สวีฉางหลินนั้นไม่ยอมถอยแน่ๆ จับมือของนาง ยื่นชามข้าวใส่ไว้ในมือพร้อมกับยัดตะเกียบให้ไป “กินเถิด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา