โอ้โฮ นี่ต้องสร้างบ้านหลังใหญ่ขนาดไหนกันเนี่ย! แค่ห้องสี่ทิศในภาพของนาง แต่ละห้องยังใหญ่กว่าบ้านพักของคนในหมู่บ้านพวกเขาอีก
“นี่เจ้าต้องใช้คนไม่น้อยเลยนะ ข้าว่าต้องสี่ห้าสิบคน!”
หวังโหยวเกินสะท้อนใจ
“อย่างนั้นก็ทำตามที่ท่านว่า ห้าสิบคนแล้วกัน” โจวกุ้ยหลานกลับว่าง่าย ตกปากรับคำทันที
หวังโหยวเกินพลันเลือกห้าสิบคนจากในรายชื่อแล้วบอกว่าโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานพลันผงกหัว ขอให้หวังโหยวเกินช่วยเป็นธุระจัดการให้หน่อย
เมื่อได้รับการเห็นชอบจากโจวกุ้ยหลาน หวังโหยวเกินก็เร่งจัดการทันที
โจวกุ้ยหลานแอบยกนิ้วหัวแม่โป้งให้กับความฉลาดปราดเปรื่องของตัวเอง ดูสิ แค่วันละยี่สิบอีแปะ นางก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอะไรแล้ว มีคนจัดการหาคนให้ นี่ก็คือหัวหน้าคนงานแบบในอดีตชาตินั่นเอง!
แต่การซื้อวัสดุยังต้องให้สวีฉางหลินไปด้วยตนเอง นางคุมเรื่องเงินก็พอ
ครั้นดูสีท้องฟ้า โจวกุ้ยหลานก็กลับไปทำกับข้าวที่ห้องครัว หลายวันนี้เพื่อให้หลิวเซียงตระหนักในสถานภาพทางครอบครัวนาง นางจึงต้มโจ๊กถั่วรวมทุกวัน แทบจะกินจนเอียนแล้ว
อดทนต่ออีกหนึ่งคืน ถ้าพรุ่งนี้หลิวเซียงไม่ก่อเรื่อง นางก็ทำของอร่อยกินได้แล้ว ถ้าเริ่มสร้างบ้านของนาง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะปกปิดอีก ที่สำคัญที่สุดคือ นางจะให้ทุกคนในครอบครัวต้องอดๆ อยากๆ ไม่ได้แล้ว!
นางวางฟืนไว้ในเตาจำนวนหนึ่ง ขณะกำลังจะลุกขึ้นก็เห็นขาสั้นๆ เจ้าก้อนน้อยวิ่งเข้ามา “ท่านแม่ ทะเลาะกันแล้ว!”
“ทะเลาะอะไรกัน?” โจวกุ้ยหลานถามเจ้าก้อนน้อย
“ข้างนอก ทะเลาะกับท่านยาย!”
เจ้าก้อนน้อยชี้นิ้วไปทางหน้าบ้าน ฟ้องร้องกับมารดาตน
ทะเลาะกับเหล่าไท่ไท่? ในหมู่บ้านนี้ยังมีคนกล้าทะเลาะกับเหล่าไท่ไท่อีกหรือ?
โจวกุ้ยหลานกลับไม่กังวลเท่าไร เหล่าไท่ไท่ก็ใช่จะธรรมดา
“ใครหรือ?”
“เยอะมาก!” เจ้าก้อนน้อยตอบ ครั้นนึกถึงท่าทางคนเหล่านั้นแล้วก็เสริม “ดุมาก!”
เยอะมาก?
ผู้มาไม่ประสงค์ดี!
เช่นนั้นก็กลัวว่าเหล่าไท่ไท่จะเสียเปรียบแล้ว!
โจวกุ้ยหลานลุกขึ้นยืน “พรึบ” ถือที่คีบในมือแล้วโผตัวออกไปข้างนอก แต่พอวิ่งไปถึงประตูห้องครัว คิดแล้วคิดอีกก็โยนที่คีบทิ้งไปแล้วหยิบมีดทำครัววิ่งออกไปแทน
เจ้าก้อนน้อยเห็นมารดาตนออกไปก็ก้าวเท้าสั้นๆ ตามไปด้วย
อีกด้านหนึ่ง โจวกุ้ยหลานได้ยินเสียงข้างหลังก็หันกลับ เห็นเจ้าก้อนน้อยกำลังวิ่งมาทางนางอย่างเอาจริงเอาจัง
นางโบกพลันมือกับเขา “ไปหลับในห้องอย่าออกมา รู้ไหม?”
เมื่อได้รับคำสั่งจากมารดา เจ้าก้อนน้อยก็ผงกหัว แล้วย่างเท้าสั้นๆ วิ่งไปทางห้องนอน
ครั้นเห็นเขาไปแล้ว โจวกุ้ยหลานก็โล่งอก หันไปปิดประตูห้องโถงก่อนจะรีบวิ่งออกไปพร้อมกับมีดทำครัวที่ถืออยู่ในมือ
เมื่อถึงลานบ้านก็ได้ยินเหล่าไท่ไท่เอ็ดตะโร “ฆ่าคนแล้ว! คนของหมู่บ้านหลิวมาฆ่าคนที่หมู่บ้านต้าสือแล้ว!”
อีกฝ่ายชะงักอีกครั้ง
พอชายอายุสี่สิบกว่าเห็นก็ร้อนรน พลันสั่ง “รีบเอาตัวหลิวเซียงไปก่อน!”
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากไป ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ขอร้องล่ะ!” หลิวเซียงร้องไห้ฟูมฟายวิงวอนชายผู้นั้น น้ำตาน้ำมูกไหลนองเป็นทาง
ยามนี้โจวกุ้ยหลานรู้เสียที ที่แท้คนนี้ก็คือบิดาของหลิวเซียงนั่นเอง มาเพื่อจะจับตัวนางกลับไป
ชายวัยกลางคนถลึงตากับนาง “ข้าเลี้ยงเจ้าจนโตเสียเปล่าหรือ? อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งงาน!”
เนื้อตัวหลิวเซียงมองแมมไปด้วยดินโคลน ร้องไห้ตะโกนจนเสียงแหบแห้ง “ถ้าท่านให้ข้าแต่งกับเจ้าโง่นั่น ข้าจะตายให้ท่านดู!”
“ตาย? จะตายก็ต้องยกเข้าบ้านคนอื่นก่อนแล้วค่อยตาย! ข้ารับที่ดินผืนนั้นไว้แล้ว จะให้ข้าคืนกลับไปหรือ? ไม่มีทาง!” ชายผู้นั้นตวาด
จะหน้าไม่อายไปแล้ว!
เขาไม่เอาชีวิตบุตรสาวตัวเองเลยหรือ? จากท่าทางการทำงานของหลิวเซียงในสองสามวันนี้ ก็พอรู้ได้ว่านางอยู่บ้านก็ทำงานไม่น้อยเหมือนกัน นี่พ่อคนนี้ใช่พ่อบังเกิดเกล้าจริงหรือ? ทำไมถึงโหดร้ายยิ่งกว่าเหล่าไท่ไท่อีก?
“พวกเจ้าเป็นใคร? มาหมู่บ้านต้าสือพวกเราทำไม?” เมื่อนั้นก็มีชายจำนวนหนึ่งคนเดินมา แล้วตะเบ็งเสียงกับชายแปลกหน้า
พวกเขาเป็นคนที่เลิกงานกำลังกลับบ้าน ได้ยินเสียงโหวกเหวกของเหล่าไท่ไท่ระหว่างทางจึงมารวมตัวกันที่นี่ ครั้นเห็นพวกเขากำลังรังแกคนในหมู่บ้านก็พลันเปลี่ยนสายตา
ไม่ว่าทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไรก็เป็นเรื่องในหมู่บ้านตัวเอง หากหมู่บ้านอื่นกล้ารังแกคนในหมู่บ้านพวกเขา นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“พวกเราคือคนหมู่บ้านหลิวข้าชื่อหลิวฝู โจวต้าไห่พวกเจ้าลักพาตัวหลิวเซียงลูกสาวข้ามา ข้ามาตามคน” ชายอายุสี่สิบกว่าตอบ สีหน้ามาดร้าย
บุตรสาวตัวเองหนีออกจากบ้านห้าหกวันแล้ว เขาตามหาจนทั่วก็ไม่เจอ ที่แท้ก็หนีมาที่นี่ ความเดือดดาลในใจนั้น แทบอยากฆ่าโจวต้าไห่ทั้งบ้าน นี่จึงพาคนหนุ่มจากหมู่บ้านมายี่สิบกว่าคน คิดจะสั่งสอนคนตระกูลโจวด้วย ไหนเลยจะคิดว่าผู้หญิงสองคนนี้จะไม่คิดชีวิตอย่างนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...