นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา นิยาย บท 280

“นั่นสามีเจ้านะ !” เหล่าไท่ไท่ช่วยเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก คอยปลอมขวัญโจวกุ้ยหลาน

โจวคายจือเองก็ยุ่ง เดินวนเข้าวนออกไม่หยุด โจวซ่านเย่ก็กลับมาแล้ว คอยต้มน้ำร้อนอยู่ในครัว

โจวกุ้ยหลานเจ็บจนแทบทนไม่ไหว ร้องตะโกนด่าทอออกมาเสียงดังอีกครั้ง

ณ สถานที่ไกลออกไป ตามแนวเขตชายแดน มีชายคนหนึ่งเอาแต่จามไม่หยุด แพทย์ทหารหลายนายช่วยกันจับชีพจร แต่เมื่อพบว่าร่างกายแข็งแรงดี ต่างก็เกาหัวด้วยความมึนงง

จากเสียงตะโกนก่นด่าของโจวกุ้ยหลาน เด็กทารกได้คลอดออกมาแล้ว

หลังจากที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง โจวกุ้ยหลานเพิ่งจะเบาใจลง อยากจะพูดออกมา แต่ท้องก็เกิดอาการเจ็บปวดอีกครั้ง

“เป็นไปไม่ได้ ? ยังมีอีกคนหนึ่ง !” โจวกุ้ยหลานอยากจะร้องไห้

เจ็บจะตายอยู่แล้ว !

“ยังมีอยู่อีก เร็ว ๆ ๆ รีบป้อนน้ำร้อนให้นางเร็วเข้า เร็วสิ !” หมอตำแยเห็นสภาพของโจวกุ้ยหลาน ก็รีบบอกกับคนที่อยู่ภายในห้อง

หญิงสาวที่อยู่ภายในห้องได้ยินต่างก็รีบหันกลับมาด้วยความเร่งรีบ

“สวีฉางหลิน ไอ่สารเลว !”

โจวกุ้ยหลานกัดฟัน ด่าทอ จนกระทั่งลูกคนที่สองคลอดออกมา ก็ลมหลับไป

เมื่อเห็นลูกแฝด เหล่าไท่ไท่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เกิดได้ยากเหลือเกิน คอยช่วยโจวกุ้ยหลานเช็ดร่างกายและอาบน้ำให้กับเด็กทารกทั้งสอง

จนกระทั่งทำเสร็จเรียบร้อย ก็นำไปให้คนด้านนอกดู

ตกกลางคืนโจวกุ้ยหลานค่อยฟื้นกลับมา เมื่อมองเห็นเด็กสองคนตัวย่น ๆ แดง ๆ ก็เงียบลง

“นี่ข้าเป็นคนคลอดออกมางั้นหรือ ?”

“ใช่เจ้า พี่สะใภ้ใหญ่ยังเหลืออีกสองเดือนกว่าจะคลอดนี่ ?” เหล่าไท่ไท่ไม่รู้ทำไม ตอบโจวกุ้ยหลานด้วยความเฮฮา

โจวกุ้ยหลานอดทนอยู่ครู่หนึ่ง ถึงพูดว่าเด็กสองคนนี้น่าเกลียดจริง ๆ

“เจ้าช่างอดทนจริง ๆ คลอดลูกสองคนในครั้งเดียวเลย !” เหล่าไท่ไท่หัวเราะลูกสาวของตน

มีลูกชาย ก็จะมีต้นทุนให้ยืนหยัด

มองทารกทั้งสองที่หลับอย่างสงบ เด็กน้อยตัวนุ่มนวล โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะจิ้มลงไปบนหน้าของเด็กน้อย

สัมผัสอันนุ่มนวล ทำให้นางแทบจะใจอ่อนเลยทีเดียว

แม้ว่าเด็กจะหน้าตาน่าเกลียด แต่ยังไงก็เป็นลูกของนาง ยังไงก็ไม่อาจรังเกียจ......

โจวกุ้ยหลานปลอบตัวเอง ใช้สายตาความรักของความเป็นแม่มองดู เด็กสองคนนี้ช่างน่าเกลียดจริง ๆ

หลังจากคลอดลูก ลูกน้อยดูเปลี่ยนไปทุกวัน ซึ่งทำให้โจวกุ้ยหลานประหลาดใจไม่น้อย

ยังไม่ทันผ่านช่วงพักฟื้นนางก็ดูน่าเวทนาเสียแล้ว ตลอดทั้งเดือน เหล่าไท่ไท่ไม่ให้นางอาบน้ำสระผม จนนางคิดว่าจะเองจะเป็นบ้าไปแล้ว ทุก ๆ วันต้องทนเหม็นตัวเองจนจะบ้าตาย

สวีฉางหลินส่งจดหมายมา ให้เหล่าไท่ไท่ช่วยให้เวลาพักฟื้นนางสองเดือน โจวกุ้ยหลานร้องออกมาด้วยความเศร้า ไม่ว่าจะอ้อนวอนเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์

ในเดือนที่สอง โจวกุ้ยหลานยิ่งเหม็นมากขึ้นไปอีก แม้แต่ลูกน้อยทั้งสองที่เพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้น จะอยู่ใกล้นางก็ต่อเมื่อต้องการจะดูดนมเท่านั้น

จนกระทั่งผ่านช่วงเวลาพักฟื้น โจวกุ้นหลานเพิ่งจะรู้สึกว่าตนเองได้ชีวิตกลับมา นางอาบน้ำสระผมอย่างมีความสุข หลังจากออกมาก็รู้สึกว่าตัวเบาลงไปหลายจิน

หม่านเย่ว์จื่ว(เป็นประเพณีอย่างหนึ่งที่ปฏิบัติกันทั่วไปในกลุ่มชนชาติต่างๆ ของจีน)ของลูกน้อย โจวกุ้ยหลานได้จัดเตรียมไว้แล้ว โจวซ่านเย่กำลังยุ่งอยู่กับการกล่าวทักทายแขก พี่สะใภ้ใหญ่ทำงานด้วยความรวดเร็ว สี่หรือห้าคนก็คอยจัดอาหารให้กับชาวบ้านที่มาทาน

จางเสี่ยวจุ๋ยก็มาช่วยเหลือโจวกุ้ยหลานอย่างเช่นเคย

โจวกุ้ยหลานได้รับเกียรติเพียงพอแล้ว แต่จะให้นางสนุกสนานด้วย นางทำไม่ได้จริง ๆ

ผ่านไปไม่นาน โจวกุ้ยหลานก็พบว่าหนึ่งในนั้นมีเด็กน้อยที่หัวเราะเฮฮาทั้งวัน และมีเด็กอีกคนหนึ่งที่เหมือนจะหลับไม่ยอมตื่น

ให้หมอหวังตรวจดูแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้โจวกุ้ยหลานเกือบจะเป็นลม

ฝนตกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ตก ๆ หยุด ๆ ทำให้อากาศมีแต่ความชื้น สร้างความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างยิ่ง

“ป้าอู๋ช่วงนี้คงไม่มาแล้วล่ะ นางช่วยเด็ก ๆ นำข้าวเปลือกที่โตเต็มที่แล้วกลับบ้าน” โจวคายจือบอกกับโจวกุ้ยหลาน

โจวกุ้ยหลานพยักหน้า “ก็ควรจะเก็บพืชผลที่โตเต็มที่แล้วก่อน ไม่อย่างนั้นฝนตกอีกสองวันคงเสียหายหมด”

“ใช่สิ เฮ้อ ไม่รู้ว่าพระเจ้าเป็นอะไร ฝนถึงตกได้ทั้งวัน ถ้ายังตกอย่างนี้อยู่ กลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมน่ะสิ” โจวคายจือพูด พลางตักอาหารหมูไว้เต็มถัง

ทั้งสองคนถือร่ม ในมือทั้งสองคนถือถังคนละใบออกไปลานด้านนอกเพื่อให้อาหารไก่และเป็ด

เล้าไก่ด้านนอกมีไก่อยู่เต็มไปหมด แค่เฉพาะไก่ก็มีอยู่เกินหมื่นตัวแล้ว โจวกุ้ยหลานนับเองไม่ไหวแล้ว เล้าหมูที่อยู่ข้าง ๆ มีหมูอยู่สองร้อยกว่าตัว

ทั้งสองคนวนไปวนมาคอยให้อาหารอยู่หลายรอบ เหนื่อยจนไม่ไหว จึงนั่งพักกันอยู่ในห้องโถง

จากนั้นแยกย้ายกันไปทำงานของตนเองต่อ ช่วงนี้คนทำงานที่บ้านไม่มา พวกนางจึงต้องเหนื่อยกันมากหน่อย

ต้าญาแต่งงานไปเมื่อปีก่อน เอ้อร์ญาจึงเป็นคนที่คอยช่วยเหลืองานในบ้าน ข้าวเช้าทำเสร็จแล้ว ทุกคนกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย หลิวเกาก็พาหลิวอ้ายเข้ามา

คนที่เรียนหนังสือทุกวันนี้ จะมีลูก ๆ ของโจวคายจือ และเด็กแฝดทั้งสองคน

ไม่ทันไรเหล่าไท่ไท่ก็พาเด็ก ๆ ของโจวต้าไห่กลับมา จากนั้นก็ไปช่วยโจวต้าไห่ทำไร่ทำนา

จนกระทั่งเที่ยงวัน ประตูบ้านของโจวกุ้ยหลานก็มีเสียงเคาะดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก โจวกุ้ยหลานขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจ โจวคายจือจึงไปเปิดประตูแทน

ลานกว้าง แถมฝนยังตกอยู่ แน่นอนว่าโจวกุ้ยหลานไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน แต่เพียงแค่ไม่นานโจวคายจือก็เช็ดน้ำตาเดินเข้ามา

เมื่อเห็นท่าทีของนาง โจวกุ้ยหลานก็เอ่ยด้วยความเย็นชา “ต้าหู่ ป่วยงั้นหรือ ?”

“ขาข้าหักเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่บ้านไม่เหลือเงินแล้ว ซุนโก่วต้านให้ข้าหาวิธีหาเงินมาให้ได้.....”

พูดถึงตรงนี้ โจวคายจือก็เหลือบมองโจวกุ้ยหลาน ผ่านไปสักพัก ถึงถามออกมาด้วยความหวาดกลัวว่า “กุ้ยหลาน ข้า....ข้าขอเบิกเงินล่วงหน้าของเดือนถัดไปได้หรือเปล่า.....”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา