ร่างกายเจ้าก้อนน้อยสั่นเทาไปทั้งตัว เหมือนกับตกใจอย่างแรง
โจวกุ้ยหลานลูบหลังปลอบเขา วางเขานั่งบนเก้าอี้ด้านข้างไว้ ใช้ตักน้ำเต้าตักน้ำจากถังแล้วเทลงในหม้อ นำฟืนที่กองไว้ข้างผนังมาใส่ในเตาไฟ อยากต้มน้ำอาบน้ำให้เจ้าก้อนน้อย
ใช้หินกระทบเพื่อจุดไฟอย่างยากลำบาก แล้วต้มน้ำไปพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนภายในบ้าน
เอาฝืนยัดเข้าไปในเตาเสร็จ แล้วนางก็กลับไปย้ายเอาถังไม้ออกมา ใส่น้ำลงไป แล้วก็อาบน้ำให้กับเจ้าก้อนน้อย
เจ้าก้อนน้อยช่วยถูขาอันสั้นของตนเองอย่างว่าง่าย โจวกุ้ยหลานช่วยถูกไหล่อันเล็กน้อยให้กับเขา
หลังจากอาบล้างจนสะอาดแล้ว ช่วยเขาเช็ดตัวให้แห้ง แล้วไปค้นหาของในตู้ อย่างไม่สนใจผู้ชายที่ร้องเจ็บปวดอยู่บนเตียง เมื่อเปิดดูตู้ ก็เห็นข้างในแขวนเสื้อของสวีฉางหลินไว้เพียงชุดเดียว
“แม้แต่เสื้อผ้าเปลี่ยนก็ไม่มี”
โจวกุ้ยหลานพูดขึ้นอย่างถอดใจ หยิบเอาเสื้อสวีฉางหลินมาสวมใส่ให้เจ้าก้อนน้อย
เสื้อตัวนั้นสวมใส่ให้กับเจ้าก้อนน้อยอย่างหลวม จนลากพื้น
โจวกุ้ยหลานอุ้มเจ้าก้อนน้อยไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วกลับเข้าไปให้บ้านเอากะละมังมาใส่น้ำ ใช้เศษผ้าห่อขี้เถ้า แช่ไว้ในน้ำในกะละมัง แล้วก็นวดซักผ้าของเจ้าก้อนน้อย
เจ้าก้อนน้อยส่ายขาน้อยทั้งสองข้างไปมา มองดูการกระทำของโจวกุ้ยหลานอย่างตั้งใจ
โจวกุ้ยหลานซักเสื้อผ้าเสร็จ แล้วก็นำไปแขวนตากแดดไว้บนกิ่งไม้ จากนั้นก็กลับเข้าไปเอาอ่างไม้ในบ้านมาคุกเข่าบนพื้นนอกบ้าน หยิบกิ่งไม้มาแล้วก็เริ่มขุดไส้เดือน
ในภพก่อนโจวกุ้ยหลานจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยสาขาเกษตรศาสตร์ หลังจากเรียนจบแล้วก็อยู่กับการทำฟาร์มมาตลอด เมื่อเห็นพื้นดินที่นี่ดวงตาทั้งคู่ของนางก็เป็นประกาย เหมาะแก่การเพาะเลี้ยงอย่างมาก
หากสามารถได้ทำฟาร์มที่นี่ งั้นพวกเขาอยากกินอะไรก็จะได้กิน อยากดื่มอะไรก็จะได้ดื่มใช่ไหม?
เพาะเลี้ยงอย่างแรก ก็คือเลี้ยงไส้เดือน ถึงตอนนั้นก็สามารถเอามาเลี้ยงไก่
เจ้าก้อนน้อยขยับมาใกล้ เห็นการกระทำของโจวกุ้ยหลานแปลกประหลาด จึงก็เรียนแบบโจวกุ้ยหลาน หยิบกิ่งไม้มาขุดดิน
โจวกุ้ยหลานจับไส้เดือนตัวหนึ่งที่ขุดได้ขึ้นมา วางตรงหน้าเจ้าก้อนน้อยพร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกรัก กลัวไหม?”
แต่เมื่อถามประโยคนี้แล้ว นางมองเห็นเจ้าก้อนน้อยมองดูไส้เดือนด้วยดวงตาเป็นประกาย
ไม่เสียแรงที่เป็นลูกผู้ชาย ไม่กลัวสัตว์ที่ตัวอ่อนนุ่มแบบนี้
โจวกุ้ยหลานได้ยินเสียง จึงหันมามอง แล้วก็เห็นเงาหลังสวีฉางหลินเข้าไปในบ้าน
โจวกุ้ยหลานรู้สึกใจหาย สะบัดดินในมือ พาเจ้าก้อนน้อยตามเข้าไปในบ้าน
บนเตียงไม้ของพวกเขา เฉินโหยวซวนร้องโอดอวยอย่างรวยริน คงร้องจนเหนื่อยมากแล้ว
สวีฉางหลินหันไปมองดูโจวกุ้ยหลาน นางพูดขึ้นด้วยเสียงปกติว่า “มีโจรเข้าบ้าน ข้าจึงถือโอกาสจัดการแล้ว”
ถือโอกาสจัดการ?
สวีฉางหลินมองดูผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงซึ่งกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งเตียง แล้วก็มองดูโจวกุ้ยหลานที่ร่างกายผ่ายผอม แล้วเขาก็เงียบ
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจจริงๆ
โจวกุ้ยหลานกำหมัดไปที่คนบนเตียง พร้อมพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยมว่า “นี่ก็คือผลจากการทำอันธพาลต่อข้า”
หนังตาสวีฉางหลินกระตุกเล็กน้อย รู้สึกเหมือนผู้หญิงคนนี้กำลังพูดกับเขาอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา
รอ บทต่อไปค่ะ...