"ฉันเข้าไปดูฮ่อหยุนเฉิงหน่อย" ซูฉิงพูดอย่างอดไม่ไหว
"แต่ว่าผู้ช่วยหลินบอกว่าหากไม่มีคำสั่งจากเขาก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้น่ะครับ" บอดี้การ์ดพูดด้วยท่าทางลำบากใจ
พวกเขาเองก็รู้ว่าซูฉิงเป็นคู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิง แต่ในเมื่อหลินเหยียนเฟิงมอบหมายงานให้พวกเขาแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงกันซูฉิงไว้ตรงประตู
ซูฉิงคิดไปคิดมาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาแล้วโทรหาหลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก็ก้มหน้าเหลือบมอง เห็นเป็นซูฉิงจึงกดปุ่มลำโพง
"มีอะไรเหรอครับคุณซู?" หลินเหยียนเฟิงเอ่ยถาม
เสียงซูฉิงจากปลายสายค่อนข้างกังวลร้อนใจ "ฮ่อหยุนเฉิงฟื้นแล้วเหรอ?"
"เปล่านี่ครับ" หลินเหยียนเฟิงก้มศีรษะลงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายและพูดเสียงเรียบ
ยังไม่ฟื้น?
ผิดหวังอยู่พักหนึ่ง ซูฉิงก็กัดริมฝีปาก "ฉันยังเป็นห่วงฮ่อหยุนเฉิง ขอเข้าไปหาเขาได้ไหม?"
เสียงของซูฉิงนั้นเข้าหูฮ่อหยุนเฉิงทุกคำ
มุมปากเซ็กซี่ของเขาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้ยังรู้จักเป็นห่วงเป็นใยเขา
หลิวเหยียนเฟิงมองฮ่อหยุนเฉิงด้วยสาตาที่ขอคำแนะนำ
เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย หลินเหยียนเฟิงจึงกล่าวว่า "โปรดรอสักครู่นะครับ"
หลินเหยียนเฟิงเปิดประตูห้องและเห็นร่างผอมบางของซูฉิงยืนอยู่ตรงประตู
หลินเหยียนเฟิงยิ้ม "เชิญเข้ามาได้เลยครับ"
"ต่อไปคุณซูสามารถเข้าออกได้ตามต้องการ" หลินเหยียนเฟิงหันไปบอกบอดี้การ์ด
"ฮ่อหยุนเฉิงเขาโอเคดีไหม?" ดวงตาของซูฉิงจับจ้องอยู่ที่ชายบนเตียงซึ่งยังคงหล่อแม้ในยามโคม่า
ดวงตาปิดสนิท เสียงห่วงใยของซูฉิงดังเข้าหูเขาจนส่วนที่นุ่มนวลที่สุดหน้าอกด้านซ้ายของเขานั้นราวกับถูกขนนกปัดผ่านไปมา
"ท่านประธานไม่เป็นอะไรครับ สถานการณ์ยังสงบดี" หลินเหยียนเฟิงเม้มปาก
"เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเสียงเขาพูดน่ะ" ซูฉิงจ้องฮ่อหยุนเฉิง เมื่อกี้เหมือนเธอได้ยินเสียงของฮ่อหยุนเฉิง
"ไม่มนะครับ ผมกำลังคุยโทรศัพท์น่ะครับ" หลินเหยียนเฟิงรีบส่ายหัวและพูด
"อย่างนั้นหรอกเหรอ" ซูฉิงรัวรู้สึกผิดหวัง
หลินเหยียนเฟิงมองซูฉิง จากนั้นมองฮ่อหยุนเฉิงและกล่าวว่า "คุณซู ในเมื่อคุณอยู่เป็นเพื่อนเขา งั้นผมกลับก่อนนะครับ หากมีอะไรก็สั่งบอดี้การ์ดได้เลย พวกเขาเป็นคนสนิทของท่านประธานครับ"
ในเมื่อซูฉิงก็อยู่ที่นี่แล้ว เขาไม่อยู่เป็นก้างขวางคอดีกว่า
"ขอบคุณ" ซูฉิงยิ้มจางๆ ให้หลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงหันหลังเดินออกจากห้องไปก่อนจะปิดประตูให้
ในใจเขาบ่น ท่านประธานแสร้งทำเป็นหมดสติจริงๆ เพียงเพื่อหาผู้กระทำผิดที่อยู่เบื้องหลังแค่นั้น?
เกรงว่าอยากให้ซูฉิงเป็นห่วงเขาต่างหากที่เป็นเรื่องจริง
ซูฉิงนั่งอยู่ตรงหัวเตียง มองชายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายเงียบๆ ใจก็รู้สึกหนักอึ้ง
คลื่นแห่งความเหนื่อยล้ากระทบเข้ามาจนทนไม่ไหว ซูฉิงจึงผล็อยหลับไป
ห้องเงียบมาก มีเพียงเสียงหายใจแผ่วเบาในความเงียบ
ชายที่ไม่ได้สติก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
สายตาฮ่อหยุนเฉิงที่ไม่แยแสและเย็นชา เมื่อมองมายังหญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ที่โต๊ะที่หัวเตียง สายตาก็อ่อนโยนลงก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อย
ฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบผ้าห่มบางๆ จากเตียงคลุมให้ซูฉิง
"ฮ่อหยุนเฉิง นายฟื้นแล้วเหรอ?" มีรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของซูฉิง
ในเวลานั้นเองหัวใจของเธอที่วิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาก็พลันหายไป
ฮ่อหยุนเฉิงฟื้นแล้ว!
ในที่สุดเขาก็ฟื้นแล้ว!
เยี่ยมไปเลย!
ฮ่อหยุนเฉิงกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น "ที่เธอพูดเมื่อกี้นับไหม?"
"พูดอะไร?" ซูฉิงตกตะลึงไปครู่หนึ่งถึงนึกถึงที่ตัวเองพูดได้
เมื่อมองไปที่ชายตรงหน้าที่สายตากำลังยิ้ม จู่ๆ ซูฉิงก็รู้สึกตัวและจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างโกรธจัด สองมือตบแผ่นอกของเขา "ฮ่อหยุนเฉิง นายแกล้งกันนี่!"
มือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงคว้ามือของอีกคนแล้วกดมือของเธอลงแผ่นอกตัวเอง "ซูฉิง เธอรู้สึกไหมว่าหัวใจฉันมันเต้นเพื่อเธอน่ะ?"
เมื่อสัมผัสกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขา ใบหน้าของซูฉิงก็แดงอย่างช่วยไม่ได้
ชายคนนี้ อย่าหยอกกันแบบนี้ได้ไหมเนี่ย!
ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์แล้วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา "ฮ่อหยุนเฉิง ทำไมนายถึงแกล้งโคม่าด้วย?"
"เธอว่ายังไงล่ะ?" ฮ่อหยุนเฉิงยกยิ้มและถามกลับ
ซูฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง "อันที่จริงนายมีคำตอบอยู่แล้วใช่ไหมว่าใครเป็นคนริเริ่มการระเบิดครั้งนี้?"
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเบาๆ "ฉันสงสัยว่าเป็นโจนส์ แต่ยังไม่มีหลักฐาน"
ซูฉิงเข้าใจ "เพราะอย่างนั้นนายเลยจงใจแกล้งหมดสติเพราะจะได้ให้โจนส์คิดว่าแผนของเขาประสบความสำเร็จ และเมื่อเขาดำเนินการต่อก็จะทำให้นายเปิดโปงได้?"
ฮ่อหยุนเฉิงกลับตอบไม่ตรงคำถาม และมองที่ซูฉิงด้วยสายตาที่ลึกล้ำ "เมื่อกี้ที่เธอพูดนั้นจริงหรือเปล่า?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น