นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น นิยาย บท 364

ซูฉิงในขณะนี้แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่เคยดูอ่อนโยนในตอนปกติ บัดนี้ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความเฉยเมยและความจริงจังเฉกเช่นตอนที่อยู่กับฮ่อหยุนเฉิง สีหน้าอิ่มสวยนั้นยังแฝงไปด้วยกรุ่นไอแห่งความน่ากลัว

ครั้งนี้เป็นเพียงการลงโทษเล็กน้อย ถ้าหากยังมีครั้งต่อไปอีกล่ะ เธอคงจะไม่เห็นใจอีกฝ่ายดังเช่นครั้งนี้อีกแล้ว

สวีหว่านเอ๋อร์จ้องมองไปที่ซูฉิงอย่างไม่ลดละ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ความประหลาดใจ และความสับสน

ทุกๆความรู้สึกถูกผสมรวมกันจนกลายเป็นอารมณ์ที่เรียกว่า "ความเกลียดชัง"

เธอจะไม่ยอมให้ซูฉิงอยู่เหนือเธออีกต่อไป!

"ซูฉิง เธอรอฉันก่อน ฉันจะมาเอาคืนแน่นอน!"

สวีหว่านเอ๋อร์กดเสียงต่ำพลางพูดออกมา เธอหันกลับไปทางประตูด้วยความโกรธเคืองและปิดประตูด้วยเสียงอันดังกังวาล "ปัง"

ซูฉิงมองไปที่ประตูที่ปิดอยู่ เธอส่ายหัวให้กับการกระทำที่ไร้มารยาทของอีกฝ่าย จากนั้นเธอจึงค่อยๆนั่งลงบนโซฟา

ช่างเถอะ เธอคงไม่มีเวลามากพอที่จะไปเกาะติดว่าสวีหว่านเอ๋อร์ทำอะไร สิ่งที่เธอควรทำมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่องธุรกิจ เธอควรจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ภาพยนตร์เรื่อง "พ่าหวังเปี๋ยจี" ได้รับรางวัลภาพยนตร์ที่ดีที่สุด

ณ เมืองใหม่สุ่ยเยว่

นับตั้งแต่วันที่ถังรั่วอิงได้เข้ามาอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของฮ่อหยุนเฉิง เธอเองก็มีความสุขไม่น้อยเลย เหมือนว่าในตอนนี้เธอจะถือว่าตัวเองนั้นได้เป็นนายหญิงของที่นี่ไปเสียแล้ว แต่เธอกลับยังไม่พอใจกับสิ่งนี้สักเท่าไหร่

สิ่งที่เธอต้องการคือการเป็นนายหญิงที่ได้เชิดหน้าชูตาของตระกูลฮ่อในอนาคต

"พี่เฉิง ทำไมเพิ่งจะกลับมาตอนนี้ละคะ?"

ในขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ถังรั่วอิงนั่งอยู่บนโซฟาและมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง จวบจนเธอได้ยินเสียงเปิดประตูถูกเปิดออก เธอจึงลุกขึ้นยืนและเดินไปส่งยิ้มต้อนรับฮ่อหยุนเฉิง

ฮ่อหยุนเฉิงลูบผมของเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ช่วงนี้ฉันยุ่งกับหลายๆอย่างในบริษัท และฉันก็กำลังทำการค้ากับลูกค้ารายใหม่อยู่ด้วย ดังนั้นฉันจึงกลับมาช้าหน่อย"

ถังรั่วอิงมองดูเขาอย่างกังวล เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ ฮ่อหยุนเฉิงกลับมาเยี่ยมเยือนเธอที่นี่ไม่ถึงสองครั้ง ดังนั้นเธอจึงกลัวว่าซูฉิงจะใช้กลอุบายใดๆหลอกให้เธอตายใจ

จนกระทั่งเธอได้ยินผู้ชายตรงหน้าเอ่ยบอก ความสงสัยภายในใจของเธอก็มลายหายไปทันที

ถังรั่วอิงพาฮ่อหยุนเฉิงเดินไปยังห้องรับประทานอาหารและนั่งลง เธอลงมือทำอาหารสองสามจานด้วยตนเอง และเมื่อทุกอย่างถูกเตรียมอย่างพร้อมรับประทาน เธอจึงจัดการวางชามข้าวลงตรงหน้าฮ่อหยุนเฉิง

"พี่เฉิง นี่เป็นอาหารที่ฉันทำเอง พี่ลองชิมสิ"

ฮ่อหยุนเฉิงหยิบตะเกียบและคีบอาหารสองสามชิ้นใส่เข้าไปในปากของเขา หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติอาหารตรงหน้าแล้ว เขาก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงเอ่ยปากพูดกับถังรั่วอิงว่า "ถึงแม้ว่าตอนนี้อาการของถังถังจะดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังต้องดูแลตัวเองมากๆ อย่าละเลยหรือไม่ใส่ใจตัวเองเด็ดขาด ช่วงนี้ฉันงานยุ่งมากอาจจะไม่มีเวลาว่างกลับมาเยี่ยม ฉะนั้นฉันจึงจ้างพยาบาลมาดูแล ถ้าเธอเกิดมีอาการผิดปกติอะไรล่ะก็พยาบาลจะติดต่อมาหาฉันทันที"

ถังรั่วอิงตกตะลึงครู่หนึ่งและพยายามลากสายตาไปมองจุดอื่นแทนการมองชายตรงหน้า

อาการป่วยระยะสุดท้ายของเธอนั้นมันไม่อยู่จริง เธอก็แค่แกล้งทำเพื่อหลอกเขาเท่านั้น ถ้าฮ่อหยุนเฉิงและพยาบาลที่เขาจ้างมารู้ความลับนี้เข้าล่ะ?

ฮ่อหยุนเฉิงนั้นปรายสายตาจับจ้องมายังถังรั่วอิงตลอดเพื่อคอยดูปฎิกิริยาของอีกฝ่าย

เขาลองเอ่ยถามเธอออกมา เมื่อเห็นท่าทีนิ่งงันของถังรั่วอิง "เกิดอะไรขึ้น เธอไม่มีดีใจเหรอ?"

ถังรั่วอิงเมื่อได้ยินดังนั้นจึงต้องแสร้งเป็นดีอกดีใจขึ้นมาทันที เธอส่งยิ้มและส่ายหัวปฎิเสธ "ไม่ ฉันแค่กลัวว่ามันจะรบกวนพี่เฉิงมากเกินไปหรือเปล่า"

"ไม่หรอก ฉันติดต่อเรียบร้อยแล้ว พยาบาลจะเดินทางมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้"

แต่หลังจากที่เธอเห็นดวงตาที่จริงจังของฮ่อหยุนเฉิง ความมั่นใจที่จะเผด็จศึกฝ่ายชายก็ดับมอดลงไปในพริบตา

ถังรั่วอิงวางมือลงแล้วจึงพยักหน้าน้อมรับ "งั้นฉันจะกลับไปนอนแล้ว พี่เฉิง พี่ควรจะพักผ่อนให้เร็วเหมือนกัน"

ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าให้กับคำกล่าวของหญิงสาวร่างเล็ก และเมื่อประตูบานใหญ่ถูกปิดลง ดวงตาของเขาก็มีอาการผ่อนคลายลงทันที

แต่แผนการของถังรั่วอิงหาจบลงแค่นั้นไม่ เพียงไม่ถึงสามชั่วโมงถังรั่วอิงก็ร้องตะโกนเสียงดังออกมาอย่างตื่นตระหนก เสียงกรีดร้องตะโกนเรียกแต่ชื่อของฮ่อหยุนเฉิง "พี่เฉิง พี่เฉิง...!"

ฮ่อหยุนเฉิงผลักเปิดประตูและเดินออกไปเพื่อตามหาที่มาของเสียง เขาพบว่าเสียงตะโกนนั้นดังมาจากห้องนอนของหญิงสาว

เขาเดินตรงไปยังห้องนอนและเปิดเข้าไปอย่างรวดเร็ว ด้านในห้องพบถังรั่วอิงกำลังลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้างด้วยใบหน้าซีดเผือด ใบหน้าหวานเอาแต่จ้องมองไปที่ประตูบานกว้างที่เขาเปิดเข้ามา ร่างทั้งร่างของเธอแข็งทื่อราวกับว่าเธอได้เห็นสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัว

ถังรั่วอิงกระพริบตาและค่อยๆเอ่ยปากพูดในสิ่งที่เธอเห็น เธอร้องไห้ออกมาต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิงอย่างหนัก "พี่เฉิง ฉันกลัว ... "

ฮ่อหยุนเฉิงเดินไปที่เตียงกว้าง จับมือบางของถังรั่วอิงและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง "ถังถัง เธอเป็นอะไรไป เธอฝันร้ายเหรอ?"

ถังรั่วอิงโอบแขนของเธอไว้รอบเอวของฮ่อหยุนเฉิง เธอเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและพูดอย่างน่าสงสารว่า "พี่เฉิง ฉันฝันร้าย เมื่อกี้ฉันฝันถึงวันที่เราโดนลักพาตัวและถูกขังไว้ในกระท่อม พวกมันไม่ยอมให้ฉันพบพี่ เรื่องวันนั้นมันแย่มาก "

ฮ่อหยุนเฉิงเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาคมครุ่นคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์น่าอึดอัดตรงหน้า แต่ไม่นานดวงตาคมก็กลับมาเป็นปกติ

มือของเขาตบลงบนแผ่นหลังของถังรั่วอิงเบาๆ เสียงนุ่มอ่อนโยนขึ้นถนัดตาเพื่อปลอบประโลมคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้าย "ทุกอย่างมันเป็นแค่ความฝัน ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้เธอตื่นขึ้นมาแล้ว มันไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว ถังถัง เธอจะไม่เป็นแบบนั้นอีก ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัวนะ"

"ฉันเข้าใจแล้ว"

ถังรั่วอิงตอบรับชายตรงหน้าพลางค่อยๆช้อนสายตาอ้อนวอนไปยังฮ่อหยุนเฉิง "พี่เฉิน แต่ฉันยังกลัวมาก... ฉันนอนไม่หลับ พี่ช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น