รูม่านตาของถังรั่วอิงหดเกร็งก่อนแววตาจะฉายผิดปกติ
ประหม่า รังเกียจ ทั้งยังมีความตื่นตระหนกและตกใจ
ซูฉิงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ไง?
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงก็พากันหันกลับไปมอง หลังจากเห็นว่าเป็นซูฉิง คนส่วนใหญ่ก็มีแววตาที่สับสนไม่ก็ตกใจ
ยังไงคนส่วนมากก็ยังคิดจะอยากเห็นอะไรสนุกๆ
ผู้หญิงสองคนของฮ่อหยุนเฉิงอยู่ที่นี่ ต้องมีอะไรสนุกๆ แน่
ซูฉิงค่อยๆ เดินเข้าไปทีละก้าว ท่าทางสงบของเธอทำให้ทุกคนไม่กล้าส่งเสียง ออร่าที่เธอเปล่งออกมาเป็นสิ่งที่ถังรั่วอิงไม่สามารถจินตนาการได้
ไม่รู้ทำไมถังรั่วอิงถึงได้รู้สึกหงุดหงิด
"ซูฉิง เธอมาทำอะไรที่นี่?"
ซูฉิงไม่ได้พูดอะไร แต่ยังคงจับจ้องไปที่เธอ ถังรั่วอิงกลืนน้ำลายอย่างประหม่า สายตามองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเริ่มหงุดหงิด เมื่อเห็นรปภ.ยืนอยู่ข้างเวที ในใจก็เกิดความมั่นใจขึ้นมา
"รปภ.! รปภ.! พวกนายยืนอึ้งอยู่ทำไมล่ะ ยังไม่รีบไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปอีก!"
เสียงเกรี้ยวกราดต่างไปจากตอนที่พูดอยู่บนเวทีอย่างสิ้นเชิง
รปภ.มองกันไปมา ไม่มีใครกล้าทำอะไร หรือพูดได้อีกอย่างว่าพวกเขาเองก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ซูฉิงแสยะยิ้ม มองถังรั่วอิงที่อยู่บนเวทีราวกับกำลังดูตัวตลก
"เห็นฉันแล้วตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่าไม่ได้รอฮ่อหยุนเฉิงแต่รอฉันอยู่?"
ดวงตาของหลี่เฉิงหยางเองก็ฉายถึงความผิดปกติ เขาจ้องซูฉิง ก่อนจะมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ถังรั่วอิงกำไมโครโฟนไว้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกผิดหรือประหม่า ซูฉิงเดินเข้าไปหาเธออย่างสบายๆ ถังรั่วอิงมองเธออย่างประหม่าและถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับสะดุดกระโปรงล้ม แต่ซูฉิงก็เอื้อมมือออกมาคว้าเธอไว้
ซูฉิงเดินไปด้านข้างของถังรั่วอิง ก่อนจะเอื้อมมือออกไปถอดไมโครโฟนที่วางอยู่หน้าเวทีและพูดเสียงดัง "ขอโทษที่ให้ทุกท่านมานะคะ จริงๆ แล้วคืนนี้จะไม่มีงานหมั้นอะไรทั้งนั้นค่ะ"
"อะไรนะ? จะไม่มีงานหมั้น...? แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"
คำพูดของซูฉิงอาจกล่าวได้ว่าก่อให้เกิดคลื่นระลอกใหญ่ คนด้านล่างเวทีพากันมองหน้ากันด้วยความตกใจ
"เพราะ—คุณถึงที่ยืนอยู่ข้างฉัน" ซูฉิงหันศีรษะไปเหลือบมองถังรั่วอิงพร้อมรอยยิ้ม "ไม่ใช่ถังถังที่เป็นรักแรกของประธานฮ่อค่ะ"
"ว่าไงนะ?"
ทุกคนยิ่งตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่านักข่าวที่ปล่อยข่าวนี้ไปไม่ได้ก็รีบกดชัตเตอร์
เขาหยิบไมโครโฟนจากมืออีกคนและพูดอย่างจริงใจและใจเย็นว่า "ขอโทษที่มาสายนะครับ และขอโทษให้ทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีหมั้นที่ไม่มีอยู่จริงด้วยครับ"
ถังรั่วอิงจ้องมองคนสองคนบนเวทีอย่างไม่เชื่อสายตา ตอนนี้เธอพังไปหมดแล้ว และไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นของปลอม
"ไม่มีทาง ไม่มีทาง..."
เธอพึมพำด้วยเสียงต่ำ และเมื่อเชยตาขึ้นมองฮ่อหยุนเฉิง ก็วิ่งไปข้างหน้าโดยละทิ้งภาพลักษณ์ก่อนจะคุกเข่าลงที่ขอบเวที น้ำตาไหลอาบหน้าและจับมือฮ่อหยุนเฉิงเอาไว้แน่นราวกับพิสูจน์
"ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ...พี่เฉิงฟังฉันก่อน ตอนเด็กๆ เราอยู่ในกระท่อม ฉันช่วยขวางหมาตัวใหญ่ไว้ให้ ทั้งยังพาพี่หนี จากนั้น จากนั้นเราก็แยกกัน ฉันล่อพวกลักพาตัวออกไปเพื่อช่วยพี่จนตกจากหน้าผา...พี่ลืมไปแล้วเหรอ? ฉันถังถังไง! ฉันเอง!"
ราวกับเธอเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ในท้ายที่สุดจึงเหลือเพียงการร้องไห้ ใบหน้าและใบหูแดงก่ำเพราะใช้แรงมาก แต่เมื่อฮ่อหยุนเฉิงมองเธอนั้น ราวกับมองคนแปลกหน้าที่ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น
ซูฉิงที่ยืนข้างฮ่อหยุนเฉิงและมอง "การแสดง" ของถังรั่วอิงด้วยสายตาที่เย็นชา หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้เสร็จ เธอถึงแสยะยิ้มและหันไปเผชิญหน้ากับถังรั่วอิง
"ถังรั่วอิง ฉันไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะยังโกหกจนถึงตอนนี้ ทั้งยังพูดว่าตัวเองคือถังถังต่อหน้าคนตั้งมากมาย...ทำไมถึงได้หน้าด้านขนาดนี้"
"เธอพูดเรื่องอะไร? เธอพูดอะไรน่ะ? ฉันคือถังถัง!"
ซูฉิงยิ้มอย่างเหยียดหยาม ถังรั่วอิงดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย เธอรีบเดินเข้าไปและชี้ไปที่แผ่นหลังของถังรั่วอิงเพราะมันเป็นชุดเปลือย ทุกคนจึงเห็นรอยแผลเป็นบนหลังของเธออย่างชัดเจน
ซูฉิงชี้ไปที่รอยแผลเป็นและพูดเสียงดังชัดเจน "รอยแผลเป็นบนหลังของถังรั่วอิงไม่ได้เกิดจากการตกจากหน้าผาตอนเด็ก แต่เป็นฝีมือ คน ทำ ต่างหาก!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น