ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินของแม่ยวี๋น่า และเนื่องจากเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด ดังนั้นเมื่อแม่หลินหนานเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย ยวี๋น่าจึงเตรียมตัวเดินออกไปจากห้องด้วยความเร่งรีบ
"คุณป้าคะ แม่ของฉันกำลังจะมาแล้ว ฉันต้องไปสนามบินรอรับแม่ที่สนามบิน ฉันขอฝากหลินหนานไว้กับคุณป้าสักครู่" ยวี๋น่าเหลือบมองแม่หลินหนานแล้วจึงรีบเดินจากไป
ก่อนที่แม่หลินหนานจะได้ตอบได้ ยวี๋น่าก็หายตัวออกไปเสียแล้ว
"อยู่ดีๆก็จากไปแบบนี้เลยเหรอ ช่างไร้มารยาทซะจริงๆ!" แม่หลินหนานเอ่ยปากบ่น เดิมทีเธอก็ไม่ชอบพอยวี๋น่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอยิ่งไม่พอใจอีกฝ่ายขึ้นไปอีก
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าลูกชายของเธอมีทั้งหน้าตาที่ดูดี ภูมิหลังทางครอบครัวที่เพรียบพร้อม มิหนำซ้ำยังมีดาราดังและมีผู้หญิงอีกกี่คนต่อกี่คนที่อยากจะแต่งงานกับหลินหนาน แต่ทำไมหลินหนานถึงหลงรักผู้หญิงไม่มีอะไรดีคนนี้ได้ลง
ไม่ต้องพูดถึงว่าหญิงสาวคนนั้นมีอายุมากกว่าหลินหนานกี่ปี แต่เธอยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกชายนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยแบบนี้
หลังจากที่ยวี๋น่าจากไป แม่หลินก็ไม่พอใจและบ่นเกี่ยวกับยวี๋น่าอยู่ชุดใหญ่
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของหลินหนานอยู่ แม่หลินคงไม่อยากเจอยวี๋น่าอีกต่อไปเลย
เธอนั่งที่ขอบเตียงและมองไปที่เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งยังเต้นอยู่อย่างคงที่
เธอมองไปที่หลินหนานอีกครั้ง พบคราบซุปที่เปลื้อนอยู่ข้างหมอน เธอจึงเอื้อมมือไปสัมผัสเพื่อเช็ดมันออก
"ยังเหนียวอยู่อีกเหรอ?"
เมื่อแม่หลินหนานเห็นกล่องเก็บอุณหภูมิความร้อนที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เธอก็พอจะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
"ยัยผู้หญิงคนนี้! เอาแต่พูดไม่หยุดว่าห่างจากหลินหนานไม่ได้ จะต้องคอยดูแลอยู่อย่างนู้นอย่างนี้ แต่พอเอาเข้าจริงแค่จะเปลี่ยนปลอกหมอนให้ยังไม่คิดจะทำหรือยังไง?!
"ความพยายามที่อยากจะดูแลมันก็แค่คำที่พ่นออกมาเพียงแค่ลมปากก็เท่านั้น!" แม่ของหลินหนานคิดดูถูกยวี๋น่าเป็นการใหญ่
ยวี๋น่ารู้สึกผิดจริงๆ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเปลี่ยนปลอกหมอนให้หลินหนาน แต่เป็นเพราะว่าเธอกังวลเกี่ยวกับอาการของหลินหนานจนไม่ได้สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
……
สนามบิน
ยวี๋น่ารอแม่ของเธอที่อยู่ที่ทางออกสนามบิน
"แม่ ทางนี่!" ยวี๋น่าดีใจมากเมื่อเห็นแม่ของตน เธอรีบโบกมือให้แม่อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นลูกสาวของตน หญิงชราก็มีประหลาดใจไม่น้อย แม่ยวี๋เดินเข้ามาหายวี๋น่าอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความเป็นห่วงว่า "นาน่า ทำไมหน้าแกดูซีดจัง แล้ว น้ำหนักลดหรือยังไงทำไมดูผอมขนาดนี้?"
"อยู่ที่โรงพยาบาลคงไม่ได้พักผ่อนเท่าที่ควร และมีเหตุผลหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือหนูไม่ได้แต่งหน้า ดังนั้นหน้าหนูดูซีดจึงถือเป็นเรื่องธรรมชาติ" ยวี๋น่ายักไหล่ของเธอด้วยท่าทางที่แสร้งทำเป็นว่าสบายๆ
"ตอนนี้แกไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ แกต้องดูแลตัวเองด้วย ไม่ใช่ว่าต้องให้หลินหนานดูแลแกเพียงคนเดียวครอบครัวของเขาก็ต้องช่วยดูแลแกด้วย ตอนนี้แกเป็นหญิงมีครรภ์ ฉะนั้นแกควรต้องดูแลตัวเองให้มากๆ" แม่ยวี๋บอกกับลูกสาวตนเองด้วยความรักใคร่
ยวี๋น่าดันแผ่นหลังคนเป็นแม่ให้เดินออกไปข้างนอกและตอบอย่างจำใจว่า "โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"
ด้านนอกสนามบิน ยวี๋น่าโบกมือเรียกแท็กซี่เมื่อแม่ยวี๋น่าเห็นก็เกิดอาการไม่พอใจเล็กน้อย
"แกมาคนเดียวหรือ ไม่มีใครจากตระกูลหลินมาส่งเหรอ?"
ยวี๋น่าตอบว่า "พ่อของหลินหนานยุ่งมาก และแม่ของเขาก็ดูแลเขาอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลามาส่งเธอจริงๆ"
"ทั้งสองคนไม่มีเวลาแม้แต่จะขอให้คนขับรถมารับแกเหรอ ยังไงก็ตามตอนนี้แกก็มีลูกอยู่ในท้องแล้ว แม่ภรรยามาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ พวกเขาจะไม่ให้การต้อนรับกันหน่อยเลยเหรอ หรือว่าแกไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวฝั่งนั้น?" แม่ยวี๋ขมวดคิ้วและบ่นกราดออกมาเมื่อเห็นท่าทีชะงักงันของลูกสาว
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันไม่กี่คำ แท็กซี่ก็มาจอดเทียบ ยวี๋น่าจึงดันแม่ของเธอให้เข้าไปในรถทันที
"แม่คะ เป็นเพราะแม่รีบมาเกินไป หนูเลยไม่ได้บอกพวกเขาล่วงหน้า หนูเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้น รถมาแล้ว แม่รีบขึ้นรถเถอะค่ะ"
ระหว่างทาง แม่ยวี๋น่าไม่มีสีหน้ายิ้มแย้มปรากฎออกมาเลย เธอจับมือยวี๋น่าด้วยความรู้สึกเป็นกังวลมาก "แม่ว่าแกผอมลงมากเลยนะ?"
"แม่คะ ตอนนี้หนูกำลังท้อง คนท้องก็มีรูปร่างแบบนี้เป็นปกติ ไม่ว่าหนูจะกินเยอะเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แม่ไม่ได้พูดเกินไปใช่ไหมทำไมหนูถึงไม่รู้สึกว่าตัวเองผอมเลย แม่พูดเกินจริงหรือเปล่า " ยวี๋น่าพยายามเอ่ยปลอบแม่ของเธอไม่ให้พลอยคิดมากกับรูปสัดส่วนรูปทรงของตัวเธอเอง
"แกคือเนื้อหนังที่หลุดออกมากจากร่างฉัน จะไม่ให้ฉันไม่สนใจได้อย่างไร!"
"งั้นเดี๋ยวหนูเช็ดตัวให้นะคะ"
ยวี๋น่าเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเอาผ้าเช็ดตัว 2 ผืนออกมา และพยายามปูหมอนให้หลินหนานอย่างระมัดระวัง
แม่ยวี๋ไม่พอใจอย่างยิ่งที่ลูกสาวสุดที่รักของเธอได้รับคำสั่งให้ทำนู่นทำนี่แบบนี้ และเธอก็แสดงท่าทางไม่พอใจนั้นออกมาอย่างชัดเจน
เมื่อตอนอยู่บ้านลูกสาวเธอเป็นดั่งสุดที่รัก ไม่ต้องมาทนดูแลคนป่วยแบบนี้! แถมยังตั้งท้องลูกอีกด้วย
เธอไม่คิดโกรธที่แม้ว่าครอบครัวของฝ่ายชายจะไม่ได้มารับเธอที่สนามบินในวันนี้ แต่เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อเห็นหญิงชราปฏิบัติต่อลูกสาวของเธอราวกับลูกเธอเป็นคนใช้หาใช่สะใภ้ของตระกูลหลิน
หลินหนานเป็นเด็กดีและยอดเยี่ยมมาก ไม่คาดคิดว่าจะมีแม่ที่เป็นแบบนี้? !
แม่ยวี๋น่าเห็นข้อความที่ถูกส่งออกมาผ่านทางสายตาของแม่หลินหนาน ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้เอ่ยปากพูดแต่สีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้ชอบพอลูกสาวของเธอเลย หญิงชราคนนั้นคงเอาแต่คิดว่าที่ลูกชายของเธอเป็นแบบนี้ก็ยวี๋น่า ให้หยี๋น่าดูแลหลินหนานเธอก็ไม่สามารถดูแลเขาได้ดี
ทำไมกัน?ให้ลูกสาวเธอดูแลลูกชายฉันมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นี่มันคือสิ่งที่ลูกสาวเธอควรทำอย่างหาข้อหลีกเลี่ยงไม่ได้!
ยัยเด็กคนนี้ยังให้ลูกชายเธอนอนบนหมอนสกปรกๆนั่นอีก…
ผู้ใหญ่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอย่างลับๆผ่านทางสายตา ซึ่งหลินหนานก็ยังคงนอนหมดสติอยู่บนเตียง และยวี๋น่าก็กำลังยุ่งและไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ยวี๋น่าหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นและมองดูท่าทางที่ไม่มีความสุขของเหล่าแม่ๆทั้งสองคน ตอนนี้เธอพอจะเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เธอปิดปากเงียบลง เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไร และเธอเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเรื่องราวที่มันเลยเถิดไปแบบนี้
วันนี้เธอไม่ควรปล่อยให้แม่ของหลินหนานเข้ามา!
แม่ยวี๋พูดช้าๆ "นาน่า ทำไมช่วงนี้แกป่วยบ่อยจัง แกกำลังท้องลูกอยู่ แกต้องดูแลตัวเองด้วยรู้ไหม?"
หลังจากแม่ของยวี๋น่าเอ่ยปากพูดและหยุดไปครู่หนึ่ง ก็เห็นได้ว่าหน้าของแม่หลินหนานไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอจึงพูดต่อว่า "ถ้าอยู่ที่นี่แล้วกินไม่อิ่มนอนไม่หลับแกก็กลับบ้านได้ กลับบ้านเมื่อไหร่ก็จะมีพ่อแม่ที่คอยรักแก จะไม่ปล่อยให้แกต้องคิดมาหรือรู้สึกแย่แน่นอน" แม่ของยวี๋น่าเอ่ยกับลูกของตนเองอย่างอ่อนโยน แต่ในขณะเดียวกันเมื่อแม่ของหลินหนานได้ฟังกลับคิดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดจาเยาะเย้ยหรือดูหมิ่นทางฝั่งครอบครัวหลินว่าดูแลยวี๋น่าไม่ดีพอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น