ตอนแรกเพราะเรื่องของอู๋เทียนเหอ ซูฉิงถึงได้เชิญคุณหมอฉีมารักษาเขา คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะเพราะหลินหนาน.....เธอยังทำให้คนเดือดร้อนจริงๆเลย
ยวี๋น่าก้มหน้าลง แล้วหัวเราะเยาะตัวเอง และทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเคาะประตู และเสียงข้างนอกที่ดังขึ้นตามมา "น่าน่า ตื่นรึยัง รีบมากินอาหารเช้าเถอะ"
แม่ยวี๋ที่เพราะเป็นห่วงยวี่น่าจะถูกตระกูลหลินรังแก ดังนั้นช่วงนี้เธอเลยต้องรั้นที่จะเข้าไม่พักอยู่ที่บ้านตระกูลหลิน และก็มาดูแลลูกสาวของตัวเองด้วย
ยวี๋น่าตอบรับคำ แล้วเดินไปเปิดประตูออกไป ตอนมานั่งที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศที่เงียบราวกับป่าช้า แม่หลินที่มองยวี๋น่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ มีเพียงพ่อหลินที่ยังคุยกับน่าน่าบ้าง
"น่าน่า ทานเยอะๆ นะ ตอนนี้เธอจะต้องบำรุงเยอะๆ ไม่ดูแลตัวเองไม่ได้นะ"
ยวี๋น่ายิ้ม พยักหน้าแล้วก็ตักเกี้ยวนิ่งมากิน แล้วก็ตักกินโจ๊กจนหมดถึงได้วางตะเกียบ ช่วงนี้แพ้ทองหนักมาก และเพราะเรื่องของหลินหนาน ทำให้ช่วงนี้เธอเลยพักผ่อนน้อย แม้แต่กินอาหารก็ลดน้อยลง
"หนูอิ่มแล้วค่ะ อ้อ คุณลุงคุณป้าคะ แม่คะ วันนี้คุณหมอที่มาที่เมือง A หนูจะรีบไปรับเขา"
"คุณหมอฉีหรอ "แม่ยวี๋อึ้งตะลึง ทันใดนั้นก็รู้ว่าหมอที่มีฝีมือสุดยอดที่ยวี๋น่าเคยเล่าให้ฟังที่ปกติมักจะอยู่ที่บนเขา ฟังดูเหมือนเป็นผู้สูงส่งเลย
"อ้อ ...งั้นเธอก็รีบไปเถอะ อย่าให้เขารอนาน"
"ค่ะ หนูรู้แล้ว "ยวี๋น่าพยักหน้า แล้วรีบสวมเสื้อคลุมเรียบร้อยแล้วถึงออกไปจากบ้าน แม่หลินไม่ชอบยวี๋น่าก็ไม่สนใจเรื่องที่เขาพูดถึงฉียวี่ชูเมื่อกี้ เพียงแค่กลอกตามองบนให้เธอแล้วก็วางถ้วยลงบนโต๊ะเสียงดัง
"ฉันกลับห้องแล้ว!"
สนามบิน
ยวี๋น่าเดินลงมาจากรถ แล้วรีบเข้าไปในอาคารสนามบิน มองไปรอบเพื่อมองหาฉียวี่ชู ในที่สุดท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านเดินไปมาก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินมา ยวี๋น่าก็เขย่งเท้าแล้วโบกมือให้
"คุณหมอฉี!"
ฉียวี่ชูหันไปตามเสียง ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เขาก็พยักหน้าพร้อมกับเดินมา
ยวี๋น่ามองฉียวี่ชู ยิ้มอย่างละอายใจ"คุณหมอฉี ....ครั้งนี้ต้องรบกวนคุณมาอีกครั้ง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ "
"ไม่เป็นไร "ฉียวี่ชูส่ายหน้า เขาคิดไม่ถึงว่าตนจะได้กลับมาที่เมืองA อีกครั้ง "ไปที่โรงพยาบาลกันเถอะ ผมได้ยินคุณบอกว่าคนนั้นการอาการหนักมาก ผมต้องไปตรวจดูอาการเขา"
"ได้ค่ะ "ยวี๋น่าพยักหน้า และก็ถอนหายใจโล่ง มีคุณหมอฉี เธอก็ใจชื้นขึ้นมามากแล้ว
ยวี๋น่าพาฉียวี่มาที่โรงพยาบาล หลังจากเข้ามาให้ห้องพักผู้ป่วยแล้ว ฉียวี่ชูก็นำเอากระเป๋าสะพายมาวางไว้ แล้วเดินไปตรวจอาการของหลินหนานที่เตียง เขาตรวจดูอาการของหลินหนานโดยละเอียดแล้ว ก็จับชีพจรของเขา ถึงได้หันมาพยักหน้าพูดกับยวี๋น่า
ฉียวี่ชูถอนหายใจโล่งออกมา"เมื่อกี้เขาได้อาเจียนเลือดที่คลั่งในสมองออกมาแล้ว ในเมื่อขับเลือดออกมาได้ งั้นก็แสดงว่าน่าจะช่วยได้"
แม่หลินที่ตอนแรกจะต่อว่า พอได้ยินฉียวี่ชูพูดอย่างนี้ ก็อึ้ง แต่ก็เปลี่ยนอารมณ์จากเสียใจเป็นดีใจ "ขอบคุณ....ขอบคุณค่ะคุณหมอ! แล้วลูกชายของฉันจะฟื้นเมื่อไหร่คะ"
ฉียวี่ชูหันไปมองเธอ แล้วพูดตามจริงออกไป :"ผมก็ไม่รู้ได้ ต้องดูอัตราการขับเลือดออกมา แต่ว่ายิ่งเป็นเลือดส่วนสุดท้ายจะยิ่งอันตราย เพราะส่วนหัวนั้นมีเส้นชีพจรมาก ตอนที่ทำการฝังเข็มหากเกิดการผิดพลาดขึ้นมาเล็กน้อยก็ไม่รู้ผลจะเป็นยังไง"
"ค่ะๆๆ พวกเราเข้าใจแล้ว......ขอบคุณ ขอบคุณคุณหมอนะคะ"
แม่หลินได้ยินอย่างนั้น แม้จะยังเป็นกังวล แต่เธอก็ได้เห็นว่าหลินหนานอาเจียนเลือกออกมาและนิ้วที่กระดิก ก็เบาใจไปเปลาะหนึ่งต่างจากเมื่อกี้จากหน้ามือเป็นหลังมือ รีบเข้ามาขอบคุณฉียวี่ชู
หลังจากที่ยวี๋น่ากลับมาบ้านมาพร้อมแม่หลิน เธอมองเบื้องหลังของผู้หญิงที่รู้สึกเครียด แต่ในระหว่างทางกลับมาแม้แม่หลินก็ไม่คุยอะไรกับเธอ แต่ก็ทำหน้าดีกว่าเมื่อกี้แล้ว
ยวี๋น่าเปลี่ยนรองเท้า คิดอยู่ชั่วครู่เลยลองพูดกับแม่หลินดู:"คุณป้าคะ หนูขึ้นข้างบนก่อนนะคะ จะไปดูหน่อยว่ามีหนังสือที่เกี่ยวกับการแพทย์....."
เดี๋ยวก่อน "แม้หลินเรียกยวี๋น่าไว้ ยวี๋น่าหันกลับไปมองดูด้วยสงสัย แม่หลินเม้มปากอ้ำอึ้งอยู่สักพักก็ถามเสียงเรียบ:"เย็นนี้เธออยากกินอะไร เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อ เธอท้อง ก็ต้องบำรุงให้มากๆ "
ยวี๋น่าก็รู้สึกปล่อยใจลง เธอรู้สึกโล่งไม่น้อย แล้วก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมพูดกับแม่หลิน:"อะไรก็ได้ค่ะ ขอเป็นคุณป้าทำหนูชอบหมด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น